เมื่องานเขียนรางวัลซีไรต์ เรื่อง "ความสุขของกะทิ" นวนิยายขนาดสั้น ของคุณ
งามพรรณ เวชชาชีวะ หรือคุณเจน ปัจจุบัน อายุ 46 ปี เกิดเมื่อ 27 มกราคม พ.ศ. 2506 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นบุตรีคนกลางของ ศาสตราจารย์นายแพทย์ อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ ศาสตราจารย์แพทย์หญิง สดใส เวชชาชีวะ มีพี่สาว คือ ศาสตราจารย์แพทย์หญิง
คุณเจนเริ่มการศึกษาระดับอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลยุคลธร และศึกษาต่อระดับประถมที่โรงเรียนกุมารีการุณย์ และโรงเรียนสามมิตร จบการศึกษาดับมัธยมต้นจากโรงเรียนสตรีจุลนาค และระดับมัธยมปลายจากโรงเรียนศรีวิกรม์ จากนั้นได้เข้าศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาภาษาฝรั่งเศส (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง) จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นไปศึกษาต่อด้านการแปล และได้รับประกาศนียบัตรการแปล (อังกฤษ-ฝรั่งเศส-อิตาลี) จากโรงเรียนล่าม และการแปลของ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนทึ่งในความสามารถของคุณเจน อาจเพราะเธอเกิดมาพร้อมๆ กับโรคภัยไข้เจ็บ โดยเธอมีอาการอัมพาตที่สมองน้อย หรือที่เรียกว่า โรค Cerebral Palsy คือสมองส่วนหนึ่งไม่สามารถบังคับการเคลื่อนไหวได้ ส่งผลให้เธอมีอาการปวดศีรษะ ต้นคอเคล็ด หลังและแขนเจ็บขัดยอก รู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยจนเขียนหนังสือไม่ได้ ต้องนอนหลับพักผ่อนและรักษาด้วยการรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาลเป็นประจำ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
คุณ
อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังสามารถค้นพบและเลือกทางเดินสายอาชีพของตัวเอง มุ่งมั่นจนประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งๆ ที่มีข้อจำกัดทางด้านสุขภาพ ปัจจุบันเธอเป็นนักเขียน นักแปลชื่อดัง และนักธุรกิจเกี่ยวกับลิขสิทธิ์วรรณกรรม ทำให้หลายคน ยกให้เธอเป็นหญิงแกร่งและอัจฉริยะคนหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้คุณเจนยังมีส่วนร่วมในการออกมารณรงค์เรียกร้องสิทธิความเสมอภาคของคนพิการ และคนด้อยโอกาสในสังคมอีกด้วย
ประวัติการทำงาน
คุณเจน เริ่มทำงานครั้งแรกที่บริษัท มีเดียโฟกัส ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่การแปล ก่อนจะเป็นเจ้าของและบรรณาธิการนิตยสาร "เพื่อนใหม่" นิตยสารสำหรับเด็กก่อนวัยรุ่น และปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ซิลค์โรด พับลิเชอร์ เอเยนซี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนลิขสิทธิ์วรรณกรรม ให้กับนักเขียนและสำนักพิมพ์ทั่วโลก รวมทั้งยังเป็นผู้บรรยายพิเศษด้านการแปลและลิขสิทธิ์ ให้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ และเป็นกรรมการตัดสิน การประกวดนิทาน และวรรณกรรมเยาวชน
สำหรับผลงานการแปลจากภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี และภาษาอื่น มีกว่า 20 เรื่อง ได้แก่ ภิกษุกับนักปรัชญา, คู่มือธุรกิจลิขสิทธิ์, ด้วยรักและช็อกโกแลต, แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี, หนึ่งปีแสนสุขในโปรวองซ์, แสนสุขเสมอในโปรวองซ์, มาตาปารี เด็กชายจากดวงดาว, ไฮดี้, เดเปอโร รักยิ่งใหญ่จากใจดวงเล็ก ฯลฯ
ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วเธอจะคลุกคลีกับงานแปลวรรณกรรมร่วมสมัย ด้วยเหตุเพราะอยากให้คนอ่านรู้จักกับนักเขียนในปัจจุบัน อย่างเช่นผลงานแฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี ที่แปลในเล่มสี่ ก็ช่วยให้รู้ถึงการใช้ภาษาอย่างอัจฉริยะของ เจเค โรว์ลิ่ง ผู้เขียน จนการแปลเล่มนี้เหมือนเป็นการประดาบ ระหว่างผู้เขียนและผู้แปล ในเรื่องการใช้ภาษาทีเดียว
อย่างไรก็ดี แม้งานแปลจะถือเป็นงานเขียนอย่างหนึ่ง แต่สำหรับคุณเจนแล้ว งานแปลคือการไล่ตามเงาของผู้อื่น ถ่ายทอดในสิ่งที่ไม่ใช่จินตนาการของตัวเอง เมื่อสบโอกาส เธอจึงหยิบปากกามาถ่ายทอดผลงาน ความคิด ในแบบของเธอ หลังจากเคยเขียนเรื่องสั้นให้นิตยสารสตรีสารมาตั้งแต่ครั้งกระโน้น
เหตุนี้จึงเป็นที่มาของนวนิยายเล่มแรกในชีวิต เรื่อง "ความสุขของกะทิ" วรรณกรรมรางวัลซีไรต์ ประจำปี พ.ศ. 2549 ประเภทนวนิยาย ซึ่งคุณเจนให้คำจำกัดความสั้นๆ ของเรื่องนี้ว่า "ความสุขของกะทิ" ไม่ใช่วรรณกรรมที่มีแต่ความสุข แต่เป็นวรรณกรรมที่แสดงให้เห็นสัจธรรมของโลกมนุษย์
"ความสุขของกะทิ" เป็นเรื่องของเด็กหญิงตัวเล็กๆ นามว่ากะทิ ที่อาศัยอยู่กับตาและยาย และไม่เคยมีโอกาสได้พบหน้าแม่เลย มีเพียงภาพลางๆ ของแม่อยู่ในความทรงจำ จนวันหนึ่งเมื่อยายถามว่า "กะทิ อยากไปหาแม่ไหมลูก?" การเดินทางที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของกะทิจึงได้เริ่มขึ้น หลังได้รับรางวัลซีไรต์ หนังสือเล่มนี้ได้รับการแปลเป็นหลายภาษา เช่น ญี่ปุ่น,เกาหลี,อังกฤษ,เยอรมัน,สเปน ฯลฯ
"การเขียนเรื่องนี้ไม่มีพล็อตอะไรจริงๆ นั่งอยู่หน้าคอมพ์ เขียนวันละบท แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบดูหนัง อ่านหนังสือแนวลึกลับ สอบสวน จึงตั้งปมในเรื่องของเราขึ้นมา สตีเฟน คิง นักเขียนระดับโลกที่มีความสามารถในการจูงใจคนอ่าน บอกว่า โอกาสที่คนอ่านจะให้คนเขียนว่าจะตามอ่านต่อไปหรือเปล่า อยู่ที่ 3 ย่อหน้าแรกเท่านั้น แล้วการเขียนเรื่องของเด็ก มีเทคนิคอะไร ที่กระตุ้นให้คนอ่านอยากรู้แล้วไม่ได้รู้บ้าง จึงเริ่มต้นด้วยคำว่า" แม่ไม่เคยสัญญาว่าจะกลับมา "แล้วแม่ไปไหน...คิดแค่นี้ ว่าทำอย่างไรให้คนอยากอ่านไปเรื่อยๆ อีกทั้งเจตนาในการเขียนไม่ได้ตั้งใจว่าจะให้เด็กหรือผู้ใหญ่อ่าน เป็นเรื่องที่เด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดี" คุณเจน กล่าวถึงนวนิยายเรื่องกะทิ
ผลงานที่ผ่านมา
งานแปล
มีผลงานการแปลจากภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี และภาษาอื่น กว่า 20 เรื่อง ได้แก่ ภิกษุกับนักปรัชญา, คู่มือธุรกิจลิขสิทธิ์, ด้วยรักและช็อกโกแลต, แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี, หนึ่งปีแสนสุขในโปรวองซ์, แสนสุขเสมอในโปรวองซ์, มาตาปารี เด็กชายจากดวงดาว, ไฮดี้, เดเปอโร รักยิ่งใหญ่จากใจดวงเล็ก, ไหม, ไร้เลือด เป็นต้น
งานเขียนของตัวเอง
นิยามความรัก, ความสุขของกะทิ และภาคต่อ ความสุขของกะทิ ตอน ตามหาพระจันทร์
เกียรติประวัติ
ได้รับอิสริยาภรณ์ศิลปะและอักษรศาสตร์ชั้นอัศวิน (Chevalier de l'Ordre des Arts et des Lettres) เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 จากกระทรวงวัฒนธรรม ประเทศฝรั่งเศส ในฐานะผู้มีผลงานด้านวรรณกรรม และเผยแพร่วัฒนธรรมฝรั่งเศส
ได้รับรางวัล วรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปี พ.ศ. 2549 ประเภทนวนิยาย จากผลงานเขียนเล่มแรก "ความสุขของกะทิ" ที่ขายลิขสิทธิ์ไปแล้ว 5 ภาษาใน 6 ประเทศ (สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น และ สเปน)
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ อ่านแล้วทึ่งกันเลยใช่ไหมล่ะ กับเรื่องราวชีวิต และผลงานมากมายจากปลายปากกาที่ส่งความสุขผ่านตัวหนังสือ ของผู้หญิงมากความสามารถ ที่ชื่อ "งามพรรณ เวชชาชีวะ"
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- sakulthai.com
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก และ deknang.com