สุดยอดคนทำดี ต้นแบบสังคมแห่งปี 2553


พระไพศาล วิสาโล คนค้นคน

พระไพศาล วิสาโล คนค้นคน




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก mcot.net  ,  koratcom.com ,  ทีวีบูรพา , นิตยสาร ฅ คน ,  สำนักข่าวไทย ,  ud.co.th  ,  thaireform.in.th ,


             ตลอดช่วงปีที่ผ่านมานี้ กระปุกดอทคอม ได้นำเสนอเรื่องราวของคนทำดี คิดดี สร้างประโยชน์ในสังคมมากมายจากหลากหลายอาชีพ ส่งท้ายปลายปีเช่นนี้ เราจึงขอประมวลสุดยอดคนต้นแบบแห่งปี มาให้ได้ชื่นชม เพื่อจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้ทุก ๆ คน ได้ร่วมกันทำประโยชน์ต่อสังคมค่ะ


       พระไพศาล วิสาโล ภิกษุแห่งสันติวิธี

พระไพศาล วิสาโล คนค้นคน

พระไพศาล วิสาโล คนค้นฅน

พระไพศาล วิสาโล คนค้นคน

พระไพศาล วิสาโล คนค้นฅน

             ณ วันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก "พระไพศาล วิสาโล" พระภิกษุแห่งสันติวิธี ผู้มุ่งมั่นเผยแผ่ธรรมะแก่พุทธศาสนิกชนผ่านสื่อหลายรูปแบบ ไปพร้อม ๆ กับการช่วยเหลือผู้คนมากมาย รวมทั้งการอนุรักษ์ป่าไม้ที่ท่านมองว่า พระสงฆ์ไม่ควรละเลยหน้าที่นี้ เพราะป่าเป็นแหล่งกำเนิดของพระพุทธศาสนาตามพระพุทธประวัติ ด้วยภาระหน้าที่นี้ ทำให้คนรู้จักพระไพศาล วิสาโล อีกนามหนึ่งว่า "พระเอ็นจีโอ"



พระไพศาล วิสาโล คนค้นคน

พระไพศาล วิสาโล คนค้นฅน



             นอกจากนั้น พระไพศาลยังเทศนาอบรมชาวบ้านให้ยึดแนวสันติวิธีในการดำรงชีพ พร้อมแบ่งปันความรู้และแนวคิดของท่านผ่านงานเขียน งานแปลและเรียบเรียงจำนวนมาก ทั้งในหนังสือ คอลัมน์ประจำในวารสาร หรือเว็บไซต์ และมุ่งมั่นจะทำงานเพื่อขัดเกลาสังคมให้อยู่ในสันติวิธีต่อไป

             ด้วยความมุ่งมั่นปรารถนาให้คนในสังคมอยู่อย่างเป็นสุขด้วยพุทธธรรมะ ก็ได้ส่งผลให้รายการ "คนค้นฅน" มอบรางวัลเกียรติยศ ให้แก่พระไพศาล วิสาโล เพื่อเชิดชูเกียรติบุคคลต้นแบบ และทำดีเพื่อสังคม


        คุณหมอนักบิน หมอต้วง กรพรหม แสงอร่าม



หมอต้วง กรพรหม แสงอร่าม



หมอต้วง กรพรหม แสงอร่าม



             ใครจะคิดว่า เวลาว่างเสาร์-อาทิตย์ของ หมอต้วง กรพรหม แสงอร่าม อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาล ใน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี จะทุ่มเทให้กับการฝึกหัดขับเครื่องบิน เพราะความฝันวัยเยาว์ตั้งแต่เด็ก ๆ ของคุณหมอ คือการได้เป็น "นักบิน" ไม่ใช่ "หมอ"



หมอต้วง กรพรหม แสงอร่าม



หมอต้วง กรพรหม แสงอร่าม




             หลังจาก หมอต้วง เรียนจบศัลยแพทย์หัวใจ และได้เป็นหมอผ่าตัดหัวใจคนที่ 117 ของประเทศ เขาก็ขอเดินตามความฝันวัยเยาว์ ด้วยการสอบเป็นนักบินของสายการบินไทย แม้จะหนักหนาสาหัสในการทำภารกิจให้ลุล่วงทั้ง 2 อาชีพ แต่สุดท้าย หมอต้วง ก็ประสบความสำเร็จในทั้งสองอาชีพที่ดูไม่น่าจะมาบรรจบในเส้นทางเดียวกันได้เลย





หมอต้วง กรพรหม แสงอร่าม

             ทุกวันนี้ หมอต้วง ให้ความสำคัญกับการทำงานในโรงพยาบาล ช่วยเหลือผู้ป่วยมาเป็นอันดับ 1 เพราะเขาถือว่า ในฐานะ "นักบิน" มีคนอื่นทำงานแทนได้ แต่ในฐานะ "หมอ" ที่มีภารกิจในการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ไม่มีใครสามารถทำแทนได้ เขาจึงเลือกที่จะเดินทั้งสองเส้นทางด้วยความสุขอย่างเปี่ยมล้นที่เห็นคนไข้เดินกลับบ้านอย่างปลอดภัย เช่นเดียวกับการที่เห็นผู้โดยสารเดินลงจากเครื่อง และถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ

        หมอเขียว ศูนย์บาท รักษาทุกโรค



หมอเขียว ศูนย์บาท รักษาทุกโรค




หมอเขียว ศูนย์บาท รักษาทุกโรค



             ความสงสัยที่ว่า "ทั้งที่เครื่องมือแพทย์ทันสมัยขึ้น แต่ทำไมค่ารักษาจึงแพงขึ้นทุกวัน?" ได้ทำให้ "ใจเพชร กล้าจน" หรือ "หมอเขียว" เดินหน้าค้นหาคำตอบของคำถามในใจของตัวเอง ก่อนที่เขาจะค้นพบว่า การรักษาแบบ "แพทย์วิถีพุทธ" น่าจะคือคำตอบที่ดีที่สุด

             "หมอเขียว" เริ่มศึกษาการรักษาแบบ "แพทย์วิถีพุทธ" โดยนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเป็นแก่น และนำจุดดีของการแพทย์ต่าง ๆ มารวมกัน เพื่อหาวิธีการรักษาให้คนไข้ สุดท้ายแล้ว "หมอเขียว" ก็ได้ใช้หลักปฏิบัติ 9 ประการ ที่ทำให้คนไข้หายโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาทเดียว คือ รับประทานสมุนไพรปรับสมดุล แช่มือเท้าในน้ำสมุนไพร รับประทานอาหารปรับสมดุล ใช้ธรรมะคลายเครียด ออกกำลังกายกดจุดลมปราณรู้จักเพียรและพักให้พอดี ทำกัวซา ดีทอกซ์ และพอก ทา หยอด ประคบ อบ อาบด้วยสมุนไพรที่ถูกกัน

             เมื่อไม่ต้องเสียค่ายาแพง ๆ หรือเสียค่าหมอ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า "ศูนย์บาท รักษาทุกโรค" ที่ช่วยให้คนไข้สามารถพึ่งพาตนเองได้ และมีชีวิตดี ไร้โรคภัยเบียดเบียน ซึ่งผลจากเรื่องนี้ ได้ทำให้ "หมอเขียว" ได้รับรางวัล "คนต้นเรื่องแห่งปี" จาก "คนค้นฅน อวอร์ด ครั้งที่ 2"

       หมอแสงเดือน นางฟ้าแห่งลุ่มแม่น้ำจัน



หมอแสงเดือน รายการ คนค้นฅน

หมอแสงเดือน

หมอแสงเดือน รายการ คนค้นฅน

หมอแสงเดือน

หมอแสงเดือน รายการ คนค้นฅน

             พะโฉะ สิรินิพนธ์ ชาวกะเหรี่ยงวัยกลางคน ที่ชาวบ้านนับร้อยในหมู่บ้านหม่องกั๊วะ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก  เรียกติดปากว่า "หมอแสงเดือน" ได้กลายเป็นคุณหมอประจำหมู่บ้านห่างไกลความเจริญ หลังจากร่ำเรียนวิชาพยาบาลมาตั้งแต่สมัยพรรคคอมมิวนิสต์ปฏิวัติเมื่อหลายสิบปีก่อน หมอแสงเดือน ซึ่งยังเป็นสาวรุ่นได้เดินทางเข้าไปในป่า กับกลุ่มอุดมการทางการเมือง เพื่อเก็บประสบการณ์ความรู้ด้านการแพทย์ หวังจะช่วยเยียวยารักษาคนในหมู่บ้านของเธอ

หมอแสงเดือน

หมอแสงเดือน รายการ คนค้นฅน

หมอแสงเดือน

หมอแสงเดือน รายการ คนค้นฅน



             ตลอดเวลานับสามสิบปี "หมอแสงเดือน" คอยช่วยเหลือรักษาพยาบาล จัดยา ดูแลเด็ก ๆ และชาวบ้านตลอดไม่เว้นวัน โดยไม่ได้เก็บค่าใช้จ่าย เปรียบเสมือน "นางฟ้า" ผู้เป็นที่พึ่งพิงให้ชาวบ้าน แม้บ่อยครั้งที่ "หมอแสงเดือน" เกิดความรู้สึกท้อ แต่ก็ไม่อาจละทิ้ง "จิตใจอันงดงาม" ที่จะช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ของเธอไปได้ โดยเธอตั้งใจที่จะดูแลรักษาผู้เจ็บทุกข์ได้ยากต่อไปจนวันสุดท้ายของชีวิต โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน  และความมีเมตตาของ "สหายแสงเดือน" เธอจึงได้รับรางวัล "ผู้ปิดทองหลังพระ" จาก "คนค้นฅน อวอร์ด ครั้งที่ 2"

       ตุ๊หล่าง ผู้ซึ่งรักและศรัทธาในอาชีพชาวนา

ตุ๊หล่าง แก่นคำหล้า พิลาน้อย

ตุ๊หล่าง แก่นคำหล้า พิลาน้อย

ตุ๊หล่าง แก่นคำหล้า พิลาน้อย

ตุ๊หล่าง แก่นคำหล้า พิลาน้อย

ตุ๊หล่าง แก่นคำหล้า พิลาน้อย

ตุ๊หล่าง แก่นคำหล้า พิลาน้อย



             "หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน" คำ ๆ นี้เป็นคำที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ต่อ ตุ๊หล่าง หรือ แก่นคำหล้า พิลาน้อย ชายหนุ่มวัย 28 ปี ชาวยโสธร ที่มีสายเลือดชาวนาอยู่เต็มเปี่ยม เขามองว่า อาชีพเกษตรกรรม เป็นอาชีพที่ไม่ควรมองข้าม เพราะ "ข้าว" คืออาหารหลักของคนไทย แต่คนกลับให้ความสำคัญลดน้อยลงไปทุกวัน



ตุ๊หล่าง แก่นคำหล้า พิลาน้อย

ตุ๊หล่าง แก่นคำหล้า พิลาน้อย 

ตุ๊หล่าง แก่นคำหล้า พิลาน้อย

ตุ๊หล่าง แก่นคำหล้า พิลาน้อย



             ด้วยเหตุนี้ ตุ๊หล่าง จึงทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับการพัฒนาการเกษตร จนสามารถสร้างพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ ให้งอกงามขึ้นบนผืนดินที่แห้งแล้งได้สำเร็จ และทุกวันนี้ ตุ๊หล่าง ก็ยังใช้ชีวิตเรียบง่ายกับการทำนาที่เขารักและเทิดทูน เพราะถือคติการใช้ชีวิตว่า "เราต้องมีความเชื่อและศรัทธาในสิ่งที่ทำ รวมทั้งต้องพึ่งพาตนเอง และแบ่งปันผู้อื่นด้วย ผมเชื่อว่ามนุษย์เป็นสัตว์ที่อยู่เป็นโขลง ถ้าเรารอดอยู่คนเดียว แล้วคนอื่นตายหมด เราจะอยู่ไปเพื่ออะไร ดังนั้น การทำพันธุ์ข้าวไม่ใช่เพื่อตนเอง แต่เพื่อความมั่นคงทางอาหารของมนุษย์ชาติ"

       ลุงม็อง ผู้พลิกฟื้นป่า - ปู แห่งอ่าวบ้านดอน



ลุงม็อง ผู้พลิกฟื้นป่า - ปู แห่งอ่าวบ้านดอน



ลุงม็อง ผู้พลิกฟื้นป่า - ปู แห่งอ่าวบ้านดอน




             อ่าวบ้านดอนในอดีตเคยเป็นสถานที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมาย แต่หลังจากเรือประมงลำยักษ์แห่เข้ามากวาดจับสัตว์เล็ก สัตว์น้อยด้วยอวนแหตาถี่ไปหมด อ่าวบ้านดอน กลับเปลี่ยนสภาพไปหมด นายทุนเข้ามารุกป่าชายเลน น้ำเสียจากบ่อกุ้งไหลลงสู่ทะเล ทำให้ชาวบ้านต้องอยู่ในสภาพน้ำท่วมปาก และเดินทางไปทำมาหากินที่อื่นเมื่อเห็นอ่าวบ้านดอนกำลังจะตายลง!!!



ลุงม็อง ผู้พลิกฟื้นป่า - ปู แห่งอ่าวบ้านดอน

 



ลุงม็อง ผู้พลิกฟื้นป่า - ปู แห่งอ่าวบ้านดอน

 




             แต่สำหรับ ลุงม็อง ยังยืนหยัดจะต่อสู้กับอิทธิพลของนายทุน และหวังจะพลิกฟื้นอ่าวบ้านดอนของเขา ลุงม็อง เริ่มนับหนึ่งใหม่ด้วยการปลูกต้นไม้เองทีละต้น ๆ ในนากุ้งร้าง และเฝ้าระวังคนที่จะเข้ามาลักลอบตัดต้นไม้ แม้นายทุนที่ไม่พอใจจะส่งคนมาลอบยิงลุงม็องอยู่บ่อยครั้ง แต่สุดท้าย "ธรรมะย่อมชนะอธรรม" ลุงม็อง สามารถรวบรวมคนมาช่วยเหลือปลูกต้นไม้ได้ จนอ่าวบ้านดอนกลายเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ทั้งป่าสีเขียว ป่าชายเลน และการขยายพันธุ์ "ปูเปี้ยว" หรือ "ปูแสม" ที่ลุงม็องภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก และในที่สุดรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้คนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เฉกเช่นเดียวกับสภาพผืนป่าอันเขียวขจี

       นายดาบเดนตาย กับชีวิตบนเส้นด้ายในพื้นที่สีแดง



ดาบตำรวจแชน วรงคไพสิฐ

ดาบตำรวจแชน วรงคไพสิฐ


ดาบตำรวจแชน วรงคไพสิฐ


ดาบตำรวจแชน วรงคไพสิฐ



             เสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อไหร่ นั่นหมายถึงความสุ่มเสี่ยงในชีวิตของ "ดาบตำรวจแชน วรงคไพสิฐ" ในฐานะหัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด และทีมงานในกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เมื่อหน้าที่หลักของ "ดาบตำรวจแชน" คือการตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่สีแดงทางภาคใต้ของประเทศวางล่อไว้ เพื่อมุ่งหมายเอาชีวิต



ดาบตำรวจแชน วรงคไพสิฐ

ดาบตำรวจแชน วรงคไพสิฐ


ดาบตำรวจแชน วรงคไพสิฐ


ดาบตำรวจแชน วรงคไพสิฐ



             ประสบการณ์ที่สั่งสมมานานนับสิบ ๆ ปี ได้สร้างฉายา "นายดาบเดนตาย" ให้กับดาบตำรวจแชน เพราะเขาได้ผ่านเหตุการณ์อันตรายระหว่างการปลดชนวนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกครั้งก็รอดมาได้ เพื่อที่จะวิ่งเข้าใส่ระเบิดลูกต่อ ๆ ไป ที่รอการปลดชนวนของ "นายดาบเดนตาย" คนนี้อยู่ หากด้ามขวานทองแห่งนี้ยังไม่สงบ ชีวิตของดาบตำรวจแชน ก็ยังคงต้องลุ้นระทึกอยู่บนปากเหวทุกครั้งที่ออกปฏิบัติงาน เพื่อความสงบสุขของประเทศไทย

       ร้อยเอกมานพ พันธ์สะโม ภูมิใจที่ได้รับใช้แผ่นดิน 



ร้อยเอกมานพ พันธ์สะโม



             ในอดีต "ร้อยเอกมานพ พันธ์สะโม" เป็นเพียงชายหนุ่มที่เศร้าโศกเสียใจกับการจับได้ "ใบแดง" ซึ่งหมายถึงการต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารที่ไม่มีใครอยากเข้าไปตกระกำลำบากในโรงเรียนฝึก แต่ ณ วันนี้ "ร้อยเอกมานพ พันธ์สะโม" คือ นายทหารฝ่ายข่าวกรองหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 16 จ.ยะลา เขต 9 ที่ภาคภูมิใจกับ "ใบแดง" ที่เขาจับฉลากได้ในวันนั้น และกลายเป็น "ใบแดงแห่งโชคชะตา" ที่พลิกผันให้เขาเป็นรั้วของชาติอย่างเต็มภาคภูมิ



ร้อยเอกมานพ พันธ์สะโม

ร้อยเอกมานพ พันธ์สะโม

ร้อยเอกมานพ พันธ์สะโม

ร้อยเอกมานพ พันธ์สะโม



             แม้ว่า ณ วันนี้ "ร้อยเอกมานพ พันธ์สะโม" จะต้องเสียขาทั้งสองข้าง จากเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดยะลา และต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่ในทุกวันคืนร้อยเอกมานพ ยังคงคิดถึงการจับปืนลงพื้นที่ เพื่อดูแลปกป้องชาวบ้าน เขาจึงเร่งฟิตซ้อมร่างกาย เพื่อกลับไปหาลูกน้องและชาวบ้านที่กำลังเฝ้ารอเขาอยู่ แม้ในใจลึก ๆ ของเขา ยังคงวิตกกังวลว่า จะมีโอกาสได้ทำดังใจหวังหรือไม่

             "นอกจากขาสองข้างที่ต้องเสียไป ผมไม่รู้ว่าตัวเองสูญเสียอะไรกับการเป็นทหาร เกียรติและความภาคภูมิใจที่ผมได้รับไม่อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าหากไม่เป็นทหาร" นี่คือคำพูดจากใจของชายชาติทหารอย่างแท้จริง

       ปรีดา เทียนส่งรัศมี ผู้พิทักษ์นกเงือกแห่งเขาบูโด









             หากจะบอกว่า "นกเงือก" คือชีวิตของ "ปรีดา เทียนส่งรัศมี" ก็คงไม่ผิดนัก เพราะทุกวันนี้เขาต้องคอยเฝ้าดูนกเงือกราวกับไข่ในหิน ณ อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ในจังหวัดนราธิวาส เพื่อไม่ให้ "นกเงือก" ถูกบรรจุเข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อ "สัตว์สูญพันธุ์" ในอนาคต ตลอดเวลานับ 10 ปี ที่ปรีดาต้องอยู่ในพื้นที่สีแดง มิได้ทำให้เขาหวาดหวั่นจากอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการก่อความไม่สงบเลยแม้แต่น้อย แต่เขาอยู่เพื่อความสุขของเขา กับงานอนุรักษ์ที่เขารักและเทิดทูน

             จากความพยายาม และความมุ่งมั่นของ ปรีดา เทียนส่งรัศมี ผู้พิทักษ์นกเงือกแห่งเขาบูโดแห่งนี้ ทำให้ ปรีดา ได้รับรางวัลคนค้นฅน อวอร์ด สาขาผู้ปิดทองหลังพระ ซึ่งแน่นอนว่า รางวัลหรือคำชมใด ๆ อาจไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ ปรีดา มีความสุขได้เทียบเท่ากับการได้เห็นความสวยงามของนกเงือก และการลงมือปกป้องอนุรักษ์ เพื่อให้นกเงือกเป็นมรดกทางธรรมชาติให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ต่อไป

       คำพลอย นันทวงศ์ ครู ตชด. ณ ดินแดนชายขอบ



ครูคำพลอย นันทวงศ์

ครูคำพลอย นันทวงศ์

ครูคำพลอย นันทวงศ์

ครูคำพลอย นันทวงศ์ 



             "ข้าราชการครู" คงมีน้อยคนนักที่จะขอย้ายตัวเองมายังพื้นที่ห่างไกลที่แสนทุรกันดาร แต่สำหรับ ครูคำพลอย นันทวงศ์ ได้ขอย้ายตัวเองมาประจำการยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนพีระยานุเคราะห์ 2 ณ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ด้วยหวังที่จะพัฒนาชุมชนแห่งนี้ให้อยู่รอดปลอดภัย และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

             แต่ทว่า นอกจาก "งานประจำ" ในการช่วยเหลือเด็ก ๆ และชุมชนที่แสนจะหนักหนาเอาการแล้ว ครูคำพลอย ยังต้องรับผิดชอบลูกสาวที่มีปัญหาทางสมอง ในฐานะ "แม่" ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง โดยไม่แบ่งแยก หรือท้อแท้กับโชคชะตาในชีวิต นั่นเพราะเธอตระหนักดีถึงหน้าที่ของคำว่า "ข้าราชการ" คือการเป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้าน และกำลังใจจากครอบครัว ที่จะทำงานเพื่อแผ่นดินเกิดนั่นเอง

       หมอวรวิทย์ และทีมแพทย์โรงพยาบาลอุ้มผาง ผู้เยียวยาคนยากไร้

หมอวรวิทย์ และทีมแพทย์ คนค้นฅน

หมอวรวิทย์ และทีมแพทย์ โรงพยาบาลอุ้มผาง

หมอวรวิทย์ และทีมแพทย์ คนค้นฅน

หมอวรวิทย์ และทีมแพทย์ โรงพยาบาลอุ้มผาง



             ข้ามไปที่ตะเข็บชายแดนไทย-พม่า จังหวัดตาก ถิ่นฐานอันแสนห่างไกลจากในเมืองอยู่มากนัก ยังมี "นายแพทย์วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์" และทีมแพทย์แห่งโรงพยาบาลอุ้มผาง คอยเยียวยารักษาผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่สามารถเดินทางเข้าไปรักษาในเมืองได้อย่างสุดความสามารถ

             แม้ว่าโรงพยาบาลอุ้มผางจะเป็นเพียงโรงพยาบาลเล็ก ๆ ขาดเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัย รวมทั้งบุคลากรก็ยังไม่เพียงพอต่อคนไข้ที่เดินทางเข้ามาทุก ๆ วัน แต่ทีมแพทย์และพยาบาล ก็ยังคงมุ่งมั่นช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่มีการเลือกชั้นวรรณะ ไม่ว่าจะเป็นคนไทย ชาวเขา หรือคนต่างด้าว ในฐานะที่เป็น "มนุษย์" เหมือนกันกับเราทุกคน

       บุญชัย เบญจรงคกุล พี่ใหญ่ ผู้ปลูกจิตสำนึกรักบ้านเกิด


บุญชัย เบญจรงคกุล

บุญชัย เบญจรงคกุล คนค้นฅน


บุญชัย เบญจรงคกุล

บุญชัย เบญจรงคกุล คนค้นฅน

 


             แม้ว่าหลายคนจะรู้จัก "บุญชัย เบญจรงคกุล" ในฐานะอดีตผู้บริหารเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ยังมีอีกหลายคนรู้จัก "บุญชัย เบญจรงคกุล" ในฐานะ "พี่ใหญ่" ของลูกน้องนับพันชีวิตที่หวังจะสานต่อ "มูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิด" ที่เขาก่อตั้งขึ้น เพื่อหวังปลูกจิตสำนึกให้กับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ไม่ให้หลงลืมรากเหง้าแห่งท้องไร่ท้องนา และยังช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ยากจน ให้มีโอกาสทางการศึกษาไปเรียนจบถึงปริญญาตรี ซึ่งเมื่อเด็กเหล่านี้เรียนจบแล้ว ก็จะได้กลับไปดูแลบ้านเกิดของพวกเขาต่อไป

บุญชัย เบญจรงคกุล

บุญชัย เบญจรงคกุล คนค้นฅน

บุญชัย เบญจรงคกุล

บุญชัย เบญจรงคกุล คนค้นฅน



             นอกจากนั้นแล้ว "บุญชัย เบญจรงคกุล" ยังก่อตั้งสถานีวิทยุ "ร่วมด้วยช่วยกัน" ทางคลื่น 99.5 FM เพื่อเป็นเวทีให้คนในสังคมได้มาช่วยเหลือกัน เช่นเดียวกับการเผยแพร่ "ธรรมะ" ที่เขาสนใจอย่างลึกซึ้ง ควบคู่ไปกับการนำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์เป็นรูปธรรม เพื่อหวังตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ ที่ให้ผู้คนได้อยู่ดีกินดีบนผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ ตามแนวคิด "เศรษฐกิจพอเพียง" นั่นเอง


       ผอ.ประพงษ์ ชูตรัง ข้าราชการเกินครู

ประพงษ์ ชูตรัง

ผอ.ประพงษ์ ชูตรัง

ประพงษ์ ชูตรัง

ผอ.ประพงษ์ ชูตรัง



             ทุก ๆ เช้า ผู้คนแถว ๆ โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง จ.นครศรีธรรมราช จะเห็นภาพชายวัยกลางคนลุกมากวาดใบไม้หน้าโรงเรียนอย่างขมีขมัน หากแต่เขาไม่ใช่ภารโรงของโรงเรียน แต่เป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพธิ์ทองแห่งนี้ และรับราชการครูมานานกว่า 27 ปีแล้ว โดยใช้ชีวิตในโรงเรียนที่เปรียบเป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 และทำงานตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมง โดยไม่มีวันหยุด

ประพงษ์ ชูตรัง

ผอ.ประพงษ์ ชูตรัง

ประพงษ์ ชูตรัง

ผอ.ประพงษ์ ชูตรัง



             วิธีการสอนของครูประพงษ์ ไม่ใช่เป็นไปเพื่อให้เด็กเก่ง แต่เพื่อปลูกจิตสำนึกเรื่อง "จิตอาสา" และ "คุณธรรมจริยธรรม" ให้กับเหล่าลูกศิษย์ พร้อมกับทักษะการใช้ชีวิต และเอาตัวรอดได้ด้วยหลัก "เศรษฐกิจพอเพียง" ด้วยความมุ่งมั่นและทำงานด้วย "จิตวิญญาณ" จึงไม่แปลกที่นักเรียน ครู และชาวบ้านจะชื่นชมและยกย่องยอด "ครู" คนนี้

       ครูพายุ ครูสอนว่ายน้ำ ฮีโร่ของเด็ก ๆ หูหนวก



ครูพายุ

ครูพายุ ครูสอนว่ายน้ำ

ครูพายุ 

ครูพายุ ครูสอนว่ายน้ำ



             สถิติการจมน้ำเสียชีวิตของเด็กไทยเพิ่มขึ้นทุกวัน นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ ครูพายุ หรือ ณัฐศักดิ์ ท้าวอุดม ผันตัวมาเป็นครูสอนว่ายน้ำให้กับเด็ก ๆ หูหนวก ที่ไม่สามารถเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้ หากเกิดจมน้ำขึ้นมา



ครูพายุ

ครูพายุ ครูสอนว่ายน้ำ



             แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ครูพายุต้องพยายามสื่อสารด้วย "ภาษามือ" ให้เด็ก ๆ เข้าใจ และว่ายน้ำเป็น แต่ครูพายุก็พยายามเรียนรู้ จนจนเข้าใจ และสามารถสื่อสารด้วยภาษามือได้ในที่สุด ด้วยความตั้งใจที่จะช่วยให้เด็ก ๆ ว่ายน้ำเป็นนั่นเอง จนถึงวันนี้ครูพายุมีศิษย์กว่า 140 คนแล้ว และยังเดินหน้าต่อยอดโครงการสอนว่ายน้ำเพื่อเด็กหูหนวกอีกต่อไป

       อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ กับการเดินทางสู่อิสรภาพ

ประมวล เพ็งจันทร์

ประมวล เพ็งจันทร์

ประมวล เพ็งจันทร์

ประมวล เพ็งจันทร์



             หลายคนไม่เคยคิดถึงจุดหมายที่แท้จริงของชีวิต จึงไม่เริ่มเดินก้าวแรกเพื่อไปสู่หนทางข้างหน้า แต่สำหรับ "อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์" อาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขาเลือกที่จะเดินทางไกล เพื่อหาคำตอบ และมุ่งสู่อิสรภาพให้กับชีวิตตัวเอง


ประมวล เพ็งจันทร์

ประมวล เพ็งจันทร์

ประมวล เพ็งจันทร์

ประมวล เพ็งจันทร์


             เชื่อไหมว่า บุรุษผู้นี้เคยเดินทางออกจากจังหวัดเชียงใหม่ กลับไปยังเกาะสมุยอันเป็นบ้านเกิดของเขา ในเวลา 66 วัน ขณะที่ปีนี้เขาก็ได้เดินทางไกลจากศาลายาลงสู่จังหวัดปัตตานี โดยอาจารย์บอกว่า การเดินทางคือการได้สัมผัสของจริง หาใช่อ่านแต่ในตำรา และการเดินยังทำให้เขามีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ช่างสังเกต มีความละเอียดกับโลกภายนอกมากขึ้น อีกทั้งยังเห็นคุณค่าของร่างกาย และตัวเอง ถือเป็นความประทับใจ และประสบการณ์ที่รู้สึกได้ถึงความเป็นมนุษย์ที่แท้จริง

             แม้ว่าการเดินทางไกลอาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน แต่หากทุกก้าวที่เดิน ใช้ใจและความคิดไปพร้อม ๆ กัน การเดินทางเพียงก้าวสั้น ๆ ก็อาจทำให้คนรับรู้ถึงความหมายและคุณค่าในจิตใจได้ไม่ต่างกัน

       ครูสมยศ พงศาปาน กีฬาคืออนาคตของเด็ก ๆ

คนดีของแผ่นดิน

ครูสมยศ พงศาปาน คนดีของแผ่นดิน

คนดีของแผ่นดิน

ครูสมยศ พงศาปาน คนดีของแผ่นดิน


             นอกจากการสอนวิชาประวัติศาสตร์แล้ว เวลาส่วนใหญ่ของครูสมยศ พงศาปาน แห่งโรงเรียนบ้านขอนหาด โรงเรียนประถมเล็ก ๆ ในอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ใช้ไปกับการฝึกซ้อมวอลเล่ย์บอลให้กับเด็ก ๆ ด้วยการผลักดันโครงการ "กีฬาเพื่ออนาคต (วอลเล่ย์บอล)" หวังให้เด็ก ๆ ใช้กีฬาเป็นใบเบิกทางไปสู่อนาคตที่สดใส

คนดีของแผ่นดิน

ครูสมยศ พงศาปาน คนดีของแผ่นดิน



             ด้วยการฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด และความตั้งใจจริงของครูสมยศ รวมทั้งเด็ก ๆ เอง ก็ได้สร้างชื่อในโรงเรียนเล็ก ๆ แห่งนี้ หลังคว้ารางวัลแชมป์วอลเล่ย์บอลแห่งประเทศไทยมาติดต่อกัน 3 ปีซ้อน พร้อมกับได้รับประกาศนียบัตรในฐานะชุมชนแห่งกีฬาวอลเลย์บอลดีเด่น โดยมีครูสมยศ พงศาปาน สุดยอดครูผู้ทุ่มเทตลอด 15 ปีเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ และหล่อหลอมความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชุมชม

       ช่อทิพย์ โคตรโน ข้าราชการใจซื่อ มือสะอาด


คนดีของแผ่นดิน

ข่อทิพย์ โคตรโน คนดีของแผ่นดิน

คนดีของแผ่นดิน

ข่อทิพย์ โคตรโน คนดีของแผ่นดิน



             แม้ว่างานด้านตรวจสอบภาษีเป็นงานที่คาบเกี่ยวอยู่บนเส้นทางทุจริตได้ง่าย ๆ แต่สำหรับ "ช่อทิพย์ โคตรโน" นักตรวจสอบภาษีผู้ชำนาญการ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพฯ 21 ไม่เคยแตะต้องหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตเลย แม้เธอจะเคยได้รับข้อเสนอจากโรงงานหลายแห่ง ที่จะให้เงินเธอแลกกับการเอาหูไปนาเอาตาไปไร่

คนดีของแผ่นดิน

ข่อทิพย์ โคตรโน คนดีของแผ่นดิน

คนดีของแผ่นดิน

ข่อทิพย์ โคตรโน คนดีของแผ่นดิน



             นั่นเพราะตลอด 19 ปีที่ "ช่อทิพย์ โคตรโน" รับราชการมา เธอยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก และตอกย้ำกับตัวเองอยู่ในดวงใจเสมอว่า "ข้าราชการ" คือ "ข้าราชการของในหลวง" ดังนั้นเธอต้องยึดมั่นรักษาเกียรติ และศักดิ์ศรีนี้ เพราะถือว่างานสรรพากร คือคนหาเงินเข้ารัฐ ให้รัฐนำไปพัฒนาประเทศ ด้วยเหตุนี้ "ช่อทิพย์ โคตรโน" จึงได้รับการยกย่องจากเพื่อนร่วมงาน และเป็นหนึ่งในข้าราชการที่ถือว่าเป็นคนดีของแผ่นดิน

       ฐิติมา ยุราวรรณ สาวท้อง 9 เดือนฮีโร่ช่วยจับโจร


ธิติมา ยุราวรรณ พลเมืองดี


ธิติมา ยุราวรรณ พลเมืองดี



             หลายคนคงจำเธอได้ "ฐิติมา ยุราวรรณ" สาวท้อง 9 เดือน ที่เป็นพลเมืองขับรถตามคนร้ายที่ขโมยรถยนต์ น.อ.หญิงอังคณา บุญยงค์ กลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยนางธิติมา ได้ขับรถยนต์ตามคนร้ายไปตลอดทาง พร้อมกับโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แม้ว่าแม่ของเธอจะบอกให้เธอเลิกตาม เพราะเห็นว่าอันตรายมาก แต่ "ฐิติมา" ก็ขอทำหน้าที่เป็นพลเมืองดีตามรถที่ถูกโจรกรรมต่อไป จนกระทั่งจับคนร้ายได้ในที่สุด และหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ได้ไม่กี่วัน เธอก็ได้คลอดลูกชายคนที่ 2 ในวันที่ 12 สิงหาคม โดยตั้งชื่อว่า "น้องฮีโร่"

             วีรกรรมของ "ฐิติมา" เป็นวีรกรรมที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ตรัสชื่นชมผ่านทางโทรทัศน์ นำความปลาบปลื้มมาให้กับครอบครัวของเธอเป็นล้นพ้น นอกจากนี้ "ฐิติมา" ยังได้รับโล่เกียรติคุณและเกียรติคุณบัตร จากกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะที่ช่วยผู้อื่นด้วยความกล้าหาญ เสียสละแก่สังคม และเป็นแบบอย่างให้คนในสังคมช่วยเหลือและทำความดีให้กับสังคมต่อไป อีกทั้งยังได้รับคัดเลือกเป็นคนดีประเทศไทย สาขาประชาชน จากสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทยด้วย


             และนี่ก็คือบุคคลต้นแบบที่ทำประโยชน์เพื่อสังคม อีกทั้งยังเป็นผู้คิดดี ทำดี มีแนวทางใช้ชีวิตที่ดี ที่เราอยากให้คนในสังคมดำเนินรอยตาม เพื่อช่วยกันสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมที่น่าอยู่ค่ะ

 

 

 

 


 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สุดยอดคนทำดี ต้นแบบสังคมแห่งปี 2553 อัปเดตล่าสุด 24 ธันวาคม 2553 เวลา 12:03:14 132,992 อ่าน
TOP
x close