
ชาวกว๊านพะเยา เชื่อการรูปปั้นพญานาคที่ตั้งอยู่ริมกว๊านพะเยาให้มีเกล็ดเพียงข้างเดียว เป็นต้นเหตุให้เกิดอาเพศและภัยแล้ง
วันที่ 28 มีนาคม 2559 นายสมศักดิ์ เทพตุ่น ประธานเครือข่ายประมงพื้นบ้านกว๊านพะเยา กล่าวว่า ปีนี้สถานการณ์น้ำในกว๊านพะเยาแล้งจัดเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่มีการก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำอิง ในปี 2482 โดยขณะนี้น้ำในกว๊านพะเยาลดลงอย่างต่อเนื่อง มีเพียงหน่วยงานเดียวที่ใช้น้ำในกว๊านพะเยาได้ในขณะนี้คือ สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพะเยา ที่จำเป็นต้องสูบน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาให้บริการประชาชนในพื้นที่เขตชุมชนเมือง ดอกคำใต้และภูกามยาว

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่ทราบว่าโครงการปั้นพญานาคคู่ดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานใด เหตุใดถึงไม่ตรวจสอบก่อนตรวจรับงานว่า งานปั้นพญานาคมีความเรียบร้อยหรือไม่ โดยเฉพาะพญานาคเป็นสิ่งที่ประชาชนมีความเชื่อสูงสุดว่า เป็นพญานาคที่ปกป้องหนองเอี้ยงในสมัยโบราณ ซึ่งคือกว๊านพะเยาในปัจจุบัน ส่วนพระธาตุจอมทองนั้นเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองพะเยา ทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนพะเยาให้ความเคารพและเชื่อว่าทำให้กว๊านพะเยามี น้ำเลี้ยงผู้คนมาช้านานแล้ว เนื่องจากพญานาคคือผู้ให้น้ำ แต่เมื่อพญานาคที่ปั้นมามีเกล็ดไม่ครบทั่วตัว จึงทำให้เกิดความเชื่อว่าเป็นเหตุให้เกิดอาเพศทำให้เกิดภัยแล้งดังกล่าว
ทั้งนี้ ตนคงไม่สามารถเสนอแนะกับผู้ที่เกี่ยวข้องว่าควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ได้ เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของงบประมาณและผู้ที่ออกแบบพญานาคทั้งหมด ว่าต้องการให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นออกมารับผิดชอบกับการกระทำ ที่เกิดขึ้นหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า โครงการปั้นพญานาคคู่ดังกล่าวเป็นโครงการระดับจังหวัดที่ผ่านมา 2-3 ปีแล้ว โดยใช้งบประมาณกว่า 3 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า มีชาวพะเยาส่วนหนึ่งที่ต้องการจะออกมารวมพลังซ่อมแซมพระธาตุจอมทองจำลองให้ทาสีเหลืองหรือปิดทองครบทั้ง 4 ด้าน แต่การปั้นแต่งเกล็ดพญานาคให้ครบทั้งสองด้านนั้นเป็นเรื่องใหญ่ จึงฝากถึงผู้ใหญ่ของจังหวัดช่วยตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สายด่วน.คนพะเยา






