ยันสาวเบลเยียมผูกคอตายเอง แม่เผยลูกเข้าลัทธิอินเดีย-เคยวิ่งให้รถไฟชนมาแล้ว

 สาวเบลเยียมผูกคอตาย

           นิติเวชยันผลชันสูตร สาวเบลเยียมผูกคอตายเอง แม่เผยลูกเข้าลัทธิหนึ่งของอินเดีย-เคยวิ่งให้รถไฟชนที่กรุงเทพฯ มาแล้ว แต่มีคนช่วยไว้

           จากกรณีที่เว็บไซต์มิเรอร์ สื่อของอังกฤษ รายงานข่าวถึงเหตุการณ์ที่ น.ส.เอลิส ดัลเลอมาเน อายุ 30 ปี นักท่องเที่ยวชาวเบลเยียม เสียชีวิตด้วยการผูกคอตายที่เกาะเต่า  ซึ่งกว่าจะพบศพปรากฏว่ามีตัวเงินตัวทองกินไปแล้วเกือบครึ่งร่าง ขณะที่ทางแม่ผู้ตายยังติดใจกับสาเหตุที่ลูกสาวจบชีวิตในครั้งนี้ โดยสื่อดังกล่าวระบุว่า เกาะเต่า คือ "เกาะแห่งการฆาตกรรม"

สาวเบลเยียมผูกคอตาย
           ขณะที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาชี้แจงผลตรวจหลังส่งศพไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช และได้รับการยืนยันว่า เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจด้วยการผูกคอตายนั้น (อ่านข่าว : สื่อนอกแฉสาวเบลเยียมผูกคอดับปริศนาที่เกาะเต่า แม่ผู้ตายไม่เชื่อคำ ตร.ไทย)

           ความคืบหน้าล่าสุด (30 มิถุนายน 2560) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ต.ท. นภา เสนารักษ์ รองผู้กำกับการสอบสวน เผยว่า น.ส.เอลิส เดินทางมาเกาะเต่าตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2560 และได้เข้าพักที่บังกะโลในช่วงบ่าย แต่พอถึงกลางคืนช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ได้เกิดไฟไหม้ที่บังกะโลซึ่งจากการตรวจสอบต้นเพลิงมาจากห้องของ น.ส.เอลิส ส่วนสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้มีผู้พบเห็น น.ส.เอลิส วิ่งหนีออกมาด้วย ก่อนจะหายตัวไป

           ต่อมาวันที่ 27 เมษายน พบศพ น.ส.เอลิส แขวนคอเสียชีวิตอยู่บนเนินเขา เจ้าหน้าที่จึงได้ชันสูตรพลิกศพ และส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด โดยแพทย์ผู้ตรวจลงความเห็นว่าไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ ไม่มีรอยถูกทำร้าย หรือกระดูกหัก และเสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจเนื่องจากผูกคอตาย

สาวเบลเยียมผูกคอตาย

สาวเบลเยียมผูกคอตาย

สาวเบลเยียมผูกคอตาย

           ขณะที่นางมิเชล ฟาน เอกเทน มารดาของผู้ตาย ได้กล่าวขอบคุณการทำงานของตำรวจไทย และก็ไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตของบุตรสาว เนื่องจากลูกสาวได้ไปเข้าลัทธิกับกลุ่มเพื่อนที่ประเทศอินเดีย หลังจากนั้นก็มีพฤติกรรมแปลก ๆ จนมาทราบว่าผู้ตายเคยพยายามฆ่าตัวตายด้วยการวิ่งให้รถไฟชนที่กรุงเทพฯ มาแล้ว แต่มีคนช่วยไว้ได้

           ด้าน น.ส.วิยดา ณ บางช้าง ผู้จัดการท่าเรือเร็วลมพระยาเกาะเต่า ได้ชี้แจงถึงกรณีกระเป๋าของผู้ตายว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน พบกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ สีแดง ของผู้โดยสารบนเรือที่ไป จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ได้ประกาศตามหาเจ้าของก็ไม่มีผู้มาแสดงตน จึงได้มีการเก็บไว้เพื่อรอเจ้าของ กระทั่งต่อมาพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตได้มาติดต่อเพื่อขอดูกระเป๋า ซึ่งเมื่อเปิดดูก็พบว่ามีของใช้ส่วนตัวของลูกสาว และเครื่องรางของขลังลักษณะของชาวอินเดีย ก็ทำให้มั่นใจว่าเป็นของลูกสาวที่เสียชีวิตไป

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยันสาวเบลเยียมผูกคอตายเอง แม่เผยลูกเข้าลัทธิอินเดีย-เคยวิ่งให้รถไฟชนมาแล้ว อัปเดตล่าสุด 6 กรกฎาคม 2560 เวลา 16:06:55 23,806 อ่าน
TOP
x close