ร่างทรงเจ้าพ่อเมืองสุรินทร์ แหกตาช่วยรีไฟแนนซ์บ้าน - พร้อมแฉเทคนิคฟันไม่เข้า ใคร ๆ ก็ทำได้

           ผู้เสียหายรวมตัวร้องกองปราบฯ หลังเจอร่างทรงพ่อเมืองสุรินทร์หลอก เผยเชื่อเพราะเห็นฟันแทงไม่เข้า ด้านหลวงปู่มหามุนี โชว์จะจะ ฟันไม่เข้าเพราะมีเทคนิค ไม่ใช่ร่างทรงก็ทำได้

ร่างทรง

           วันที่ 9 มิถุนายน 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง ได้พาผู้เสียหายกว่า 10 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือที่กองปราบปราม ให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนายต่อศักดิ์ พักวัด ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ที่อ้างว่าตนเองเป็นร่างทรงเจ้าพ่อเมืองสุรินทร์ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไปก่อนหน้านี้ จากการที่นายต่อศักดิ์ หลอกลวงเอาทรัพย์สินเหยื่อไปนับ 10 ล้านบาท

           ซึ่งต่อมา รายการต่างคนต่างคิด ช่องอมรินทร์ ทีวี ก็ได้เชิญผู้เสียหาย ได้แก่ คุณคณนภัส แซ่เตีย และคุณนิตยา พร้อมทั้งคุณอนุวัฒ เขียวเกลี้ยง ผู้โพสต์คลิปวิดีโอแฉร่างทรง, หลวงปู่มหามุนี อริยดาบส และ รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์​ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมพูดคุยในรายการ

           โดยก่อนหน้านี้ก็มีผู้เสียหาย 2 คน อ้างว่าถูกนายต่อศักดิ์หลอกให้ทำพิธี โดยสูญเงินรวมกว่า 600,000 บาท และทำให้เป็นหนี้นอกระบบ โดยที่นายต่อศักดิ์ อวดอ้างอาคมด้วยการใช้มีดซามูไรเฉือนใบหน้าและแทงที่ร่างกาย แต่ไม่เข้า ซึ่งต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปใช้มีดซามูไรเฉือนตัวเองแต่ก็ไม่เข้าเช่นกัน เพราะมีดไม่คม และระบุว่าตัวเองไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์แต่อย่างใด

ร่างทรง

           ด้าน คุณอนุวัฒ เขียวเกลี้ยง ผู้โพสต์คลิปวิดีโอแฉนายต่อศักดิ์ กล่าวว่า ตนเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้ ส่วนสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ ตนก็ไม่เชื่อ ที่ร่างทรงใช้มีดกรีดใบหน้าแต่ไม่เข้านั้นอาจจะเป็นมีดที่เตรียมไว้และไม่มีคม ส่วนการที่แทงไม่เข้านั้น มีการสวมเสื้อผ้าอยู่ ไม่ได้สัมผัสกับผิวหนังโดยตรงจึงไม่เข้า

ร่างทรง

           คุณคณนภัส แซ่เตีย ผู้เสียหายถูกนายต่อศักดิ์หลอก กล่าวว่า ที่ตนเชื่อนายต่อศักดิ์ ที่อ้างว่าเป็นเจ้าพ่อเมืองสุรินทร์นั้น เพราะคล้ายกับว่านายต่อศักดิ์อ่านใจตนได้ ทักว่าลูกชายตนไม่กลับบ้านเพราะโดนของ และหลอกให้นำเสื้อผ้าของลูกชายไปให้ ร่างทรงอ้างว่าจะเอาไปทำพิธี และให้ตนเผาทิ้งตอนเที่ยงคืน เมื่อทำตามปรากฏว่าลูกชายก็ยังไม่กลับบ้าน ตนเสียเงินค่าทำพิธีไป 15,000 บาท และนายต่อศักดิ์มีข้อมูลว่าตนมีปัญหาเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน และบอกว่าจะติดต่อธนาคารให้ โดยตนไปกู้หนี้นอกระบบเพื่อนำเงินมาดำเนินการกว่า 300,000 บาท ซึ่งปัจจุบัน ตนทำงานส่งเอกสารหาเงินมาจ่ายหนี้นอกระบบรายวัน วันละกว่า 2,000 บาท

           คุณคณนภัส ระบุว่า ทุกวันนี้ตนก็ยังเชื่อร่างทรงอยู่ 50% เพราะภายใต้จิตสำนึกตนยังมีความเชื่อแบบนั้น ส่วนเรื่องคดีที่โดนหลอก ตนอยากให้ร่างทรงติดคุกต่อไป ถ้าหากออกมาก็ขอให้ใช้หนี้ตน แต่ถ้าใช้หนี้ไม่ได้ก็ไม่อยากให้ออกจากคุก เพราะทุกวันนี้ตนต้องทำงานใช้หนี้จนวันตาย แต่สุดท้าย ตนก็ยังไม่เกลียดคนที่เป็นร่างทรง

           ด้าน คุณนิตยา ผู้เสียหายถูกร่างทรงเจ้าพ่อเมืองสุรินทร์หลอก ระบุว่า ส่วนตัวแม้จะโดนหลอกมาแล้ว แต่ก็ยังเชื่ออยู่ 50% ถ้าหากวันนี้ตนเห็นร่างทรงลอยน้ำได้ หรือใช้มีดกรีดหน้าแล้วไม่เข้า ตนก็ยังคงเชื่ออยู่เช่นเดิม

ร่างทรง

           นอกจากนี้ ทางรายการยังได้สัมภาษณ์คุณสมยศ เหยื่ออีกคนของนายต่อศักดิ์ โดยเล่าว่า นายต่อศักดิ์ ได้เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านประมาณปี 2558 และได้รู้จักกัน โดยมาพูดคุยว่าสามารถทำบัตรเครดิตให้ได้ ถึงแม้ว่าจะติดเครดิตบูโร โดยใช้เงินเพียง 60,000 บาท ก็จะได้วงเงินบัตรเครดิตมากถึง 3 เท่า เท่ากับได้ 180,000 บาท หลังจากนั้นจึงได้มีการพูดคุยกันโดยตรงกับนายต่อศักดิ์ ซึ่งขณะนั้นก็ทราบว่านายต่อศักดิ์เป็นร่างทรง แต่ไม่เคยเข้าไปใช้บริการ

           คุณสมยศ ยอมรับว่าเชื่อนายต่อศักดิ์เพราะแต่งตัวน่าเชื่อถือ พูดจาดี ขับรถหรู จึงนำเงินให้นายต่อศักดิ์ไป เพราะขณะนั้นเดือดร้อนเรื่องเงิน นายต่อศักดิ์บอกว่าให้รอ 1 สัปดาห์ ต่อมาก็มาบอกว่าไม่ผ่านเดี๋ยวจะคืนเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยง สุดท้ายนายต่อศักดิ์ก็ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น

           ด้าน หลวงปู่มหามุนี อริยดาบส กล่าวว่า ตนไม่ใช่ร่างทรง ไม่กล้าเป็นเพราะกลัวโดนจับ แต่ตนมีค่าครู 109 บาท เป็นขันธ์ครู นำไปใช้เป็นค่าอุปกรณ์ ธูป เทียน ค่าน้ำ-ค่าไฟ ส่วนที่ตนทำพิธี อย่างเช่นการช่วยดึงลูกกลับบ้าน ตนก็สามารถทำได้ แต่เป็นไปไม่ได้ว่าตนจะทำเพื่อแหกตาประชาชน เพราะในแต่ละกรณี ตนไม่ได้การันตีผล มีทั้งที่ทำสำเร็จและไม่สำเร็จ

ร่างทรง

           ต่อมาเมื่อจบรายการ ทางทีมงานได้ขอให้หลวงปู่มหามุนี อริยดาบส แสดงอิทธิฤทธิ์ฟันไม่เข้า ซึ่งหลวงปู่บอกว่า ตามหลักโบราณนั้นจะมีคาถาถอนคมมีด คือ "อิสะวาโฮม โฮมสะวาอิ ชะวะอิอิโฮมสะวาหะ" ก่อนที่หลวงปู่จะนำมีดเฉือนที่แขนตัวเอง ซึ่งไม่มีแม้แต่รอยแผล


ร่างทรง

           โดยหลวงปู่ได้สาธิตวิธีเฉือนคือวางมีดเป็นแนวค่อนข้างเอียง และรูดไปที่แขนโดยใช้ความเร็วไม่มาก แต่ใช้เทคนิคทำให้ดูเหมือนว่าเฉือนเร็ว ซึ่งการวางมีดในลักษณะดังกล่าว คมมีดจะไม่ถูกกับผิวหนังโดยตรง ทำให้ฟันไม่เข้า ไม่ว่ามีดชนิดใดก็ทำได้ หลังจากทดลองให้ดู หลวงปู่ เน้นย้ำว่า สิ่งที่ตนแสดงให้ดู เป็นสิ่งที่เด็ก ๆ ไม่ควรเลียนแบบ เพราะตนมีทักษะในเรื่องนี้ จึงสามารถทำได้โดยมีความชำนาญ

ร่างทรง

           ด้าน รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์​ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ในวิทยาศาสตร์มองว่าการเป็นร่างทรง เป็นโรคชนิดหนึ่งทางประสาท อาจจะป่วยแต่ไม่รู้ตัว ส่วนการเล่นกลของร่างทรงนั้นก็อยู่ที่มีใครจับได้หรือไม่ ส่วนเรื่องการเฉือนมีดบนใบหน้านั้น สามารถทำได้ หากเป็นโชว์เพื่อความสนุกสนานก็ไม่เป็นไร หากใช้ความเร็วน้อยก็จะไม่เข้าผิวหนัง ทั้งนี้ ตนมองว่าเรื่องความเชื่อไม่ทำร้ายใคร แต่ถ้าความเชื่อทำให้คนเดือดร้อนก็ต้องหยุด

ร่างทรง

           สำหรับกรณีที่ร่างทรงนั่งในกระทะร้อนที่มีน้ำมันและจุดไฟนั้น มีหลักการทางวิทยาศาสตร์คือ การใช้น้ำ และน้ำมันที่มีจุดเดือดต่างกัน จะใช้สมุนไพรวางด้านบนเพื่อนั่งบนน้ำมัน ซึ่งน้ำมันมีจุดเดือดที่สูงกว่า ต่างจากน้ำที่จุดเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส การถ่ายเทความร้อนจากน้ำด้านล่าง ไปสู่น้ำมันด้านบนจะช้ามาก จึงสามารถนั่งอยู่ด้านบนน้ำมันได้นานเป็นชั่วโมง ทั้งนี้ พิสูจน์ได้ด้วยการใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ และอยากให้คนที่เชื่อใช้วิจารณญาณให้มากขึ้น

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ร่างทรงเจ้าพ่อเมืองสุรินทร์ แหกตาช่วยรีไฟแนนซ์บ้าน - พร้อมแฉเทคนิคฟันไม่เข้า ใคร ๆ ก็ทำได้ อัปเดตล่าสุด 11 มิถุนายน 2561 เวลา 15:20:29 28,279 อ่าน
TOP
x close