เผยสาเหตุทำไมปลาถึงชอบกินพลาสติก ? เป็นเพราะกลิ่น "น่าอร่อย" แถมยังมีสีและรูปทรงคล้ายเหยื่อที่สัตว์น้ำชอบกินด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ เราได้เห็นข่าวที่สัตวแพทย์พบวาฬนำร่องครีบสั้นมาเกยตื้น และพยายามรักษามันอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้ายก็ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้ ซึ่งก่อนตายมันขย้อนถุงพลาสติกออกมา 5 ชิ้น แต่ที่ปวดใจยิ่งกว่าคือการเจอขยะในกระเพาะ 8 กิโลกรัม หรือขยะกว่า 80 ชิ้น !! [อ่านข่าว : สลดใจ...วาฬเกยตื้น ผงะผ่าท้องพบถุงพลาสติกกว่า 8 กก. วอนมนุษย์หยุดมักง่าย คลิก]
ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่วาฬนำร่องครีบสั้นเท่านั้นที่ตายเพราะขยะทะเล หากแต่เจ้าเต่าตนุตัวหนึ่งก็มีชะตากรรมไม่ต่างจากเจ้าวาฬตัวดังกล่าว ซึ่งทางทีมสัตวแพทย์ของศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้พยายามช่วยชีวิตมันแต่สุดท้ายก็ตายลงเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยเมื่อผ่ากระเพาะอาหาร กลับต้องเห็นภาพน่าสลดใจเพราะพบขยะพลาสติกจำนวนมากอยู่ในนั้น ทั้งพลาสติกขนาดเล็ก เช่น หนังยาง เชือกฟาง ถุงพลาสติก เศษเครื่องมือประมง สรุปแล้วพบว่าเต่าตัวนี้ต้องตายเพราะกินขยะพลาสติก [อ่านข่าว : เศร้าใจ...ทีมแพทย์เร่งช่วยเต่าตนุสุดกำลัง สุดท้ายไม่รอด ผ่าท้องผงะพบขยะพลาสติกเพียบ]
ซึ่งเราจะเห็นได้เลยว่า เรื่องแบบนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายไม่ว่าในประเทศไทยหรือทั่วโลก โดยประเด็นหนึ่งที่หลายคนอาจตั้งคำถามคือทำไมสัตว์น้ำถึงกินขยะพลาสติก ?
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2561 เวิร์คพอยท์นิวส์ มีรายงานอ้างอิงข้อมูลจาก เว็บไซต์เนชั่นแนลจีโอกราฟิก และเว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ ระบุว่า ที่สัตว์น้ำกินขยะพลาสติกนั้นสืบเนื่องจากขยะพลาสติกในทะเลมีกลิ่น "น่าอร่อย" ไม่ต่างจากปลานั่นเอง สัตว์น้ำรวมไปถึงนกทะเลหาเหยื่อโดยอาศัยกลิ่นของสาร DMS ซึ่งถูกปล่อยออกมาเวลาที่แพลงก์ตอนสัตว์กินแพลงก์ตอนพืช จากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์พบว่า พลาสติกเมื่ออยู่ในน้ำทะเลเกิน 3 เดือน จะเริ่มปล่อยสารเคมีบางอย่างที่มีกลิ่นคล้ายสาร DMS ด้วยเหตุนี้สัตว์น้ำจึงคิดว่าพลาสติกคืออาหารของพวกมัน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซานฟรานซิสโกในสหรัฐฯ พบว่า เศษซากพลาสติกในทะเลเมื่ออยู่ในน้ำทะเลระยะหนึ่งจะมีสีและรูปทรงคล้ายเหยื่อที่สัตว์น้ำคุ้นชิน จึงไม่แปลกใจที่พวกมันกินพลาสติกเข้าไปโดยไม่รู้ว่าเป็นพลาสติก
ศาสตราจารย์ริชาร์ด ทอมป์สัน นักชีววิทยาทางทะเลจากมหาวิทยาลัยพลีมัต ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับมลพิษพลาสติกในทะเล กล่าวว่า แม้เวลานี้ขยะพลาสติกในสัตว์น้ำยังไม่มากพอที่จะส่งผลกระทบต่อมนุษย์ได้ก็จริง แต่ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้ อีก 10 หรือ 20 ปี มนุษย์ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดในห่วงโซ่อาหารก็หนีไม่พ้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Watchara Sakornwimon
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Watchara Sakornwimon
ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่วาฬนำร่องครีบสั้นเท่านั้นที่ตายเพราะขยะทะเล หากแต่เจ้าเต่าตนุตัวหนึ่งก็มีชะตากรรมไม่ต่างจากเจ้าวาฬตัวดังกล่าว ซึ่งทางทีมสัตวแพทย์ของศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้พยายามช่วยชีวิตมันแต่สุดท้ายก็ตายลงเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยเมื่อผ่ากระเพาะอาหาร กลับต้องเห็นภาพน่าสลดใจเพราะพบขยะพลาสติกจำนวนมากอยู่ในนั้น ทั้งพลาสติกขนาดเล็ก เช่น หนังยาง เชือกฟาง ถุงพลาสติก เศษเครื่องมือประมง สรุปแล้วพบว่าเต่าตัวนี้ต้องตายเพราะกินขยะพลาสติก [อ่านข่าว : เศร้าใจ...ทีมแพทย์เร่งช่วยเต่าตนุสุดกำลัง สุดท้ายไม่รอด ผ่าท้องผงะพบขยะพลาสติกเพียบ]
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ReReef
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2561 เวิร์คพอยท์นิวส์ มีรายงานอ้างอิงข้อมูลจาก เว็บไซต์เนชั่นแนลจีโอกราฟิก และเว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ ระบุว่า ที่สัตว์น้ำกินขยะพลาสติกนั้นสืบเนื่องจากขยะพลาสติกในทะเลมีกลิ่น "น่าอร่อย" ไม่ต่างจากปลานั่นเอง สัตว์น้ำรวมไปถึงนกทะเลหาเหยื่อโดยอาศัยกลิ่นของสาร DMS ซึ่งถูกปล่อยออกมาเวลาที่แพลงก์ตอนสัตว์กินแพลงก์ตอนพืช จากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์พบว่า พลาสติกเมื่ออยู่ในน้ำทะเลเกิน 3 เดือน จะเริ่มปล่อยสารเคมีบางอย่างที่มีกลิ่นคล้ายสาร DMS ด้วยเหตุนี้สัตว์น้ำจึงคิดว่าพลาสติกคืออาหารของพวกมัน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซานฟรานซิสโกในสหรัฐฯ พบว่า เศษซากพลาสติกในทะเลเมื่ออยู่ในน้ำทะเลระยะหนึ่งจะมีสีและรูปทรงคล้ายเหยื่อที่สัตว์น้ำคุ้นชิน จึงไม่แปลกใจที่พวกมันกินพลาสติกเข้าไปโดยไม่รู้ว่าเป็นพลาสติก
ศาสตราจารย์ริชาร์ด ทอมป์สัน นักชีววิทยาทางทะเลจากมหาวิทยาลัยพลีมัต ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับมลพิษพลาสติกในทะเล กล่าวว่า แม้เวลานี้ขยะพลาสติกในสัตว์น้ำยังไม่มากพอที่จะส่งผลกระทบต่อมนุษย์ได้ก็จริง แต่ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้ อีก 10 หรือ 20 ปี มนุษย์ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดในห่วงโซ่อาหารก็หนีไม่พ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก