เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งศพน้องน้ำเพชร ผ่าชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการตาย ด้านแม่ยืนยัน จะไม่เผาศพ จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม ขณะที่เพื่อน เผย น้องน้ำเพชรมาเข้าฝันชวนไปเที่ยว
ภาพจาก ไบร์ททีวี
จากกรณี น้องน้ำเพชร เด็กหญิงวัย 6 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1
โรงเรียนวัดบางโฉลงใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
และได้นอนรอการรักษาอย่างทรมานที่อนามัยตรงข้ามกับโรงเรียน
โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
จนทำให้น้องน้ำเพชรเสียชีวิต
ซึ่งครอบครัวติดใจเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างมาก (อ่านข่าว :
แม่ข้องใจ อนามัยปล่อยลูกสาววัย 6 ขวบ นอนปวดท้องกว่า 4 ชม. จนเสียชีวิต)
ความคืบหน้าล่าสุด (13 กันยายน 2561) ไบรท์ทีวี รายงานว่า พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตำรวจ ระบุว่า มีการสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก และรวบรวมหลักฐานที่จำเป็นไว้แล้ว แต่ยังต้องรอหลักฐานสำคัญจากการส่งศพน้องน้ำเพชรไปผ่าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อทราบสาเหตุการตายที่แท้จริง และหากผลระบุว่ามีผู้ใดทำให้ตาย หรือผู้ใดกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้
ครูโรงเรียนวัดบางโฉลงใน ได้พาเพื่อนนักเรียนของน้องน้ำเพชรมาเคารพศพ
ซึ่งเพื่อนน้องน้ำเพชรคนหนึ่ง เปิดใจทั้งน้ำตาว่า
น้องน้ำเพชรมีเพื่อนเยอะและทุกคนรักกันมาก
การจากไปในครั้งนี้ทำให้เพื่อนทุกคนเสียใจและอยากบอกว่ารักเพื่อนคนนี้มาก
ขอให้ไปสู่สุคติ อีกทั้งเล่าว่า เมื่อคืนนี้น้ำเพชรมาเข้าฝันตน
ซึ่งตนเห็นเพื่อนนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนและมาชวนตนกับเพื่อน ๆ
ไปเที่ยวอีกด้วย
ภาพจาก ไบรท์ทีวี
แม่น้องน้ำเพชร
เล่าอีกว่า วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน
ได้ยืนดูอาการของน้องขณะที่แม่ไปถึง
รวมถึงมีหมอฟันอาสาจะไปส่งโรงพยาบาลบางพลี
แต่กลับพาแม่และน้องน้ำเพชรไปปล่อยทิ้งไว้ที่ถนนเทพารักษ์
ภาพจาก รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์
ด้านเจ้าหน้าที่อนามัยบางโฉลงรายหนึ่งเปิดเผยว่า
สภาพจิตใจเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน อยู่ในอาการย่ำแย่ โดยเฉพาะหมอฟัน
น่าสงสารมาก เพราะวันเกิดเหตุหมอฟันกำลังจะกลับบ้าน
แต่เห็นว่าคนไข้หารถไปโรงพยาบาลบางพลีไม่ได้
ด้วยความปรารถนาดีจึงให้ขึ้นรถไปด้วย เพราะหน้าอนามัยหาแท็กซี่ยากมาก
และหมอฟันก็ไม่ได้เอาไปปล่อยกลางทางอย่างที่แม่น้องเล่า
เมื่อขับไปเจอแท็กซี่ หมอฟันก็ได้เรียกรถให้และส่งขึ้นแท็กซี่ด้วยตัวเอง
เพราะหมอขับรถไม่เก่งและเกรงว่าจะไปถึงช้า ตนรู้สึกสงสารหมอมาก
และคิดว่าแม่น้องน้ำเพชรก็น่าจะรู้อยู่ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร









