กาแฟดอยช้าง แถลงการณ์ชี้แจง หลังถูกตีข่าวไม่จ่ายเงินให้ผู้ปลูกกาแฟ 7 ล้าน

          กาแฟดอยช้าง แถลงการณ์ชี้แจง หลังถูกตีข่าวไม่จ่ายเงินให้ผู้ปลูกกาแฟ 7 ล้าน ยัน มีการช่วยเหลือเกษตรกรมาโดยตลอด เพื่อไม่ให้ถูกกดราคากาแฟ


ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          จากกรณีที่มีสื่อนอกตีข่าวว่า กาแฟแบรนด์ดัง ไม่จ่ายเงินให้กับผู้ปลูกกาแฟ 3 ปี ประมาณ 7 ล้านบาท ส่งผลให้ผู้ปลูกติดหนี้ อย่างไรก็ตาม ภายหลังผู้บริหารจะทยอยจ่ายให้ครบ

          อ่านข่าว : กาแฟแบรนด์ดัง รับปากเตรียมจ่ายหนี้ 7 ล้าน แก่ผู้ปลูกกาแฟ หลังค้างจ่ายนาน 3 ปี

          ล่าสุด วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 บริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด (กาแฟดอยช้าง) ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ดังนี้

          สืบเนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการนำเสนอข้อมูลในบางแง่มุมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในการรับซื้อกาแฟของบริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด กับเกษตรกรที่ไม่ครบถ้วน และไม่ได้มีการนำเสนอข้อเท็จจริงที่ได้รับจากทางกาแฟดอยช้างในหลาย ๆ ประเด็น ซึ่งอาจนำมาสู่ความไม่สบายใจและส่งผลต่อความเชื่อมั่นในกาแฟดอยช้างได้ในอนาคต ดังนั้น ทางกาแฟดอยช้างจึงมิอาจนิ่งนอนใจและต้องการทำความเข้าใจในข้อเท็จจริง สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของกาแฟดอยช้าง รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน
 
          บริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด หรือกาแฟดอยช้าง เป็นผู้เริ่มต้นบุกเบิกและพยายามสร้างมาตรฐาน และทำตลาดกาแฟจากต้นน้ำไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งปลูกโดยเกษตรกร และพยายามรับซื้อผลกาแฟสุกในราคาสูงกว่าตลาดมาโดยตลอด โดยปกติจะสูงกว่าตลาดประมาณ 20-30% และการันตีราคาที่ไม่น้อยกว่ากิโลกรัมละ 18 บาท (การประกันราคารับซื้อขั้นต่ำ) ในช่วงต้นฤดู จนถึงประมาณ 23-25 บาท ในบางปี จากที่ไม่มีใครรู้จักจนกาแฟดอยช้างได้รับการยอมรับและมีชื่อในระดับสากล ปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่หันมาปลูกกาแฟกันเป็นจำนวนมาก จากไม่กี่ร้อยไร่จนกลายเป็นเกือบ 3 หมื่นไร่ ในระยะเวลาเพียง 10 กว่าปี เท่านั้น ในช่วงแรกผลกาแฟสุกส่วนใหญ่เกษตรกรจะขายให้กาแฟดอยช้าง เนื่องจากผู้รับซื้อรายอื่น ๆ บนดอยช้างมีน้อยมากที่จะสามารถช่วยซื้อจากเกษตรกรได้




          ทั้งนี้ ในสถานการณ์ธุรกิจปกติที่มีการส่งออกเมล็ดกาแฟดิบได้ตามเป้ากระบวนการจะราบรื่นไปด้วยดี ระยะเวลาหมุนเวียนจะไม่เกิน 1-2 ปี เนื่องจากจะมีการบ่มอย่างน้อย 6-8 เดือน ก่อนจำหน่ายอยู่แล้ว และเกษตรกรก็มีความพึงพอใจเพราะไม่ต้องถูกกดราคาจากผู้ซื้อรายอื่น ๆ แต่เนื่องจากตั้งแต่ประมาณช่วงปี 2560 เป็นต้นมา การส่งออกกาแฟดิบต่ำกว่าเป้าที่คาดการณ์ไว้ เพราะราคากาแฟในตลาดโลกตกต่ำ ทำให้กาแฟดอยช้างหยุดการรับฝากกาแฟจากเกษตรกรในปีถัดมาคือปี 2561 และพยายามช่วยผลักดันจำหน่ายออกไป จากปริมาณที่ช่วยรับฝากไว้เกือบ 300 ตันกะลา และทยอยขายออกพร้อมชำระค่ากาแฟให้เกษตรกรในส่วนที่จำหน่ายได้ จนปัจจุบันเหลืออยู่ไม่ถึง 50 ตันกะลา เท่านั้น และจากประมาณการส่งออกที่รอคำสั่งซื้อมาก็น่าจะหมดภายในไม่เกินอีก 2-3 เดือน นับจากนี้

          แนวทางที่ทางกาแฟดอยช้างได้ปฏิบัติด้วยความปรารถนาดีตลอดมา อาจถูกตีความว่าเป็นการเอาเปรียบเกษตรกร ทั้งที่เป็นความพยายามหาทางช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อไม่ให้ต้องกลับไปถูกกดราคาเหมือนเมื่อสิบกว่าปีก่อนอีกครั้ง โดยพี่น้องบนพื้นที่ดอยช้างต่างมีวิถีชีวิตเสมือนครอบครัวเดียวกัน ที่หาทางช่วยกันรักษาชื่อเสียงของกาแฟดอยช้าง ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ท้ายนี้กาแฟดอยช้างหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่านจะเข้าใจถึงความตั้งใจของกาแฟ

          ดอยช้างที่ดำเนินธุรกิจเพื่อพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในพื้นที่เสมอมา และกาแฟดอยช้างยังยึดมั่นในเรื่องการผลิตสินค้าและบริการให้มีคุณภาพสูงสุด เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่าน   




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กาแฟดอยช้าง แถลงการณ์ชี้แจง หลังถูกตีข่าวไม่จ่ายเงินให้ผู้ปลูกกาแฟ 7 ล้าน อัปเดตล่าสุด 24 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 10:02:46 15,866 อ่าน
TOP
x close