นางงามและเหยื่อจาก ช่างภาพหื่น ยืนยันโดนลวนลามจริง พฤติกรรมทำให้คิดว่าไม่ใช่ชายแท้ โดนหลอกไปถ่ายเกือบถูกขืนใจจนผวา ทนายนิด้ายันนางงามอีกเวทีโดนข่มขืนจริง
จากกรณีที่ ทนายนิด้า พร้อมผู้เข้าประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021 และทีมงานกองประกวด เข้าแจ้งความเอาผิดช่างภาพ หลังก่อเหตุลวนลามนางงาม ซึ่งพบว่าก่อเหตุมาหลายเวที มีผู้เสียหายแล้วร่วม 10 คน มีการลวนลามอาทิ จับก้น จับหน้าอก มีคนถูกข่มขืน 3 ราย ซึ่งในวันเดียวกันตำรวจก็สามารถจับกุมตัวช่างภาพที่ถูกกล่าวหาดังกล่าวได้แล้ว เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างเหยื่อสมยอมเองนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ รายการ โหนกระแส วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 สัมภาษณ์ ทีน่า ผู้เข้าประกวด MUT, แพร ฟรีแลนซ์ประจำกองประกวด และ กัส นางแบบ เหยื่อทั้งสามคน พร้อมทนายนิด้าเพื่อพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าว
ทั้งสามคนนี้ไม่ได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่ถูกลวนลาม เรื่องเกิดอะไรขึ้น ทำไมนิด้าพาน้อง ๆ ไปแจ้งความ ?
นิด้า : ได้รับการติดต่อจากพี่ปุ้ย MUT ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับผู้เข้าประกวด หรือพนักงานของเขาในกอง ก็มีการเล่าเรื่องราวให้ฟังว่า ตอนแรกพี่ปุ้ยยังไม่ทราบไปถึงว่าจะดำเนินการได้ถึงแบบไหน เป็นเรื่อง Sexual harassment (ล่วงละเมิดทางเพศ) หรือเปล่า แต่พอฟังเรื่องราวและซักข้อเท็จจริงจากน้อง ๆ ที่ได้ถูกทำอนาจาร อย่างในกองเท่าที่คุยมีอยู่ 6 ราย พอคุยแล้วมันไม่ใช่แค่ Sexual harassment ที่ไม่ถึงขั้นเป็นเรื่องความผิดในเรื่องกฎหมาย แต่อันนี้เป็นความผิดในเรื่องของการอนาจารเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี การไปจับก้น จับหน้าอก หรือลูบไล้เนื้อตัวบุคคลอื่น ถือว่าเป็นการกระทำความผิดทางกฎหมายแล้วในเรื่องของอนาจาร ลวนลาม ยังไม่ไปพูดถึงเรื่องการข่มขืนด้วยซ้ำ
กัส : เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนนั้นไม่กล้าแจ้งความ แต่วันนี้ออกมาพูด เพราะพอหนูเห็นข่าว พี่เขายังไม่เลิกพฤติกรรมแบบนี้อีกเหรอ ซึ่งลักษณะเดียวกัน เหมือนกันเลย โดนแบบเดียวกันเลย คนเดียวกันก็จำได้แม่นค่ะ
น้องแพร เป็นผู้ประกวด ?
แพร : เป็นฟรีแลนซ์ที่กองจ้างมาเป็นครีเอเตอร์ให้กับเวที MUT 2021 ค่ะ ไม่ใช่ผู้ประกวด ของหนูด้วยความทำงานในกองเหมือนกัน จะมีช่วงพัก นางงามแต่งหน้า พูดคุยกันปกติ แต่ไม่ได้รู้จักกันนะคะ เพิ่งมารู้จักในกองทำงานด้วยกัน พี่เขาบอกว่าว่าง ๆ ไปถ่ายรูปเล่นกันไหม หนูดีใจ เพราะในกองพี่เขามีชื่อเสียงมากอยู่แล้ว เขาถ่ายรูปสวยมาก ใคร ๆ ก็อยากถ่ายรูปกับเขา หนูถ่ายใครก็สวยค่ะ หนูก็ดีใจ ช่างภาพมีชื่อเสียงขนาดนี้อยากมาถ่ายรูปเล่นกับเรา ก็บอกว่าโอเคค่ะ เดี๋ยวว่าง ๆ มาถ่ายกัน
แพร : ได้ยินชื่อเสียงเพราะเป็นคนที่ติดตามนางงาม รู้จักที่กองช่วงเก็บตัวเขาใหญ่ ประมาณกลางๆ เดือนตุลาคม ที่ผ่านมาค่ะ พี่เขาอยากชวนหนูไปถ่ายรูปหลายรอบแล้ว ทีแรกก็เอะใจว่าทำไมอยากไปถ่ายให้เขาจัง ก็ไม่ได้รับปาก เราไม่ได้ไปตื๊อเขา เขาชวนเราหลาย ๆ รอบเอง ก็เอะใจนิดหนึ่ง วันทำงานเราเลิกเร็วนิดหนึ่ง เขาก็ชวนเราอีกรอบ หนูก็พาพี่ผู้หญิงอายุเยอะกว่าไปด้วยกัน หลังจากนั้นนัดที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี
นิด้า : เป็นสถานที่เก็บตัวค่ะ
แพร : ตอนแรกเขานัดที่ส่วนกลาง ตอนนั้นก็ดึกแล้ว หนูก็ไม่ได้อะไร ก็ไปรอ เขาก็ไม่ได้มาสักที ก็คุยกับพี่ผู้หญิงว่าไปรอแถวโรงแรมก็ได้ มีหลายคนอยู่ในห้อง ไม่ได้มีกันแค่สองคน พอเข้าไป พี่เขาบอกว่าใส่ชุดทำงานถ่าย ชุดของหนูเป็นแขนยาว ขายาวขอถ่ายกับกระจกในห้องน้ำ แล้วบอกให้เปลี่ยนเสื้อ
แพร : ในห้องมี 4 คน แต่เขาให้หนูเข้าไปถ่ายในห้องน้ำหน่อย ในห้องยังมีคนอยู่ค่ะ แต่เขาให้เราแยกไปเข้าห้องน้ำ ตอนแรกหนูไม่ทราบว่ามีการล็อกประตู เพิ่งมาทราบตอนหลัง หนูคิดว่าแป๊บเดียวแล้วเสร็จ เขาถ่ายแล้วก็ให้เปลี่ยนเสื้อเป็นอีกตัวหหนึ่ง หนูก็คิดว่าเปลี่ยนได้ เพราะหนึ่งด้วยความที่หนูเข้าใจว่าเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง
คิดว่าเขาไม่ใช่ชายแท้ ?
แพร : ด้วยค่ะ
คุณคิดแบบนั้นด้วยไหม ?
กัส : หนูก็คิดแบบนั้นด้วยค่ะ
กัส : ใช่ค่ะ
มีลักษณะพิเศษอะไรทำให้ไม่คิดว่าเป็นชายแท้ ?
กัส : คำพูดและการกระทำ ท่าทาง วิธีการทำงาน
แพร : อาจเป็นบุคลิกก็ได้ค่ะ
ทีน่า : แต่หนูเคยถามเขาสองสามครั้งว่าเขาเป็นชายแท้หรือเปล่า เป็นเกย์หรือเปล่า หรือเป็นอะไร แต่เขาพยายามเลี่ยงตอบคำถาม จนมารู้กับเพื่อนว่าเขาเป็นชายแท้ และมีแฟนด้วยค่ะ
แพร : เขาก็ให้เปลี่ยนเสื้อ ที่หนูกล้าเปลี่ยนเพราะคิดว่าเขาไม่ใช่ชายแท้ และเขาอายุเยอะกว่าหนูมาก ทำงานในวงการมาเป็นสิบ ๆ ปีเลย ถ่ายนางแบบ นางงาม ถ่ายคนสวย ๆ มาเยอะมาก จะอะไรกับหนู ก็เลยมีความไว้วางใจที่จะเปลี่ยน
คิดว่าถ้าจะทำอะไรคงไปทำกับนางงาม ไม่ใช่ทำกับเรา ?
แพร : ใช่ค่ะ แล้วเราอยู่ในกองประกวดที่รณรงค์เรื่อง Sexual harassment ก็คิดว่าไม่น่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่สถานที่นี้ ระหว่างที่ยังไม่จบการประกวดค่ะ
แพร : ใช่ค่ะ ตอนหนูหันหลัง หลบมุมไปเปลี่ยน เขาก็ถ่ายรูปหนูไปหนึ่ง ถ่ายจากข้างหลัง หนูได้ยินเสียงก็ไม่โอเคแล้ว หนูก็รีบเปลี่ยน เขาก็บอกว่าให้ถอดค้างไว้ได้ไหม ก็บอกว่าไม่ได้พี่ แม่ว่า ถ่ายโป๊ ๆ ไม่ได้
หลังจากนั้นยังไงต่อ ?
แพร : หลังจากนั้นอารมณ์เหมือนบิวต์ให้ถ่ายรูป บอกให้หลับตา จับเสื้อจับผมก็ไม่มีอะไร จนเขาบอกให้หนูหลับตา ฟังเพลงนะ แล้วก็มาลูบคอหนู ตอนนั้นรู้สึกไม่โอเคเลย แต่หนูไม่เคยโดนแบบนี้ หนูก็ตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก ก็เงียบไปนิดหนึ่ง พยายามมีสติ และเอาตัวออกจากตรงนั้นให้ไวที่สุด ไม่ทันโวยวาย เขาก็มาลูบปาก แล้วก็จิกผมเรานิดหนึ่ง แล้วหนูก็รู้สึกว่าเขาจุ๊บเหม่งเรา ตอนนั้นหนูก็ลืมตา พยายามพูดมาก ๆ ให้ทำลายบรรยากาศ เพราะเขาพยายามพูดเสียงนุ่ม ๆ ให้เราฟังเพลง ตอนแรกพยายามเข้าใจว่าเป็นการบอกเพื่อถ่ายภาพออกมา เหมือนให้ฟีลเรา
แพร : แต่ถ้าสร้างฟีลแต่มาจุ๊บเหม่งก็ไม่โอเคแล้วค่ะ
ทำไมไม่ตบสักที ?
แพร : (หัวเราะ) ตอนนั้นหนูทำดีที่สุดแล้วในสถานการณ์ที่เจอ ณ ตอนนั้น หนูก็พยายามใช้น้ำเสียงทำลายบรรยากาศให้ได้มากที่สุด พูดให้มาก ๆ
แพร : หนูขอตัวออกไปข้างนอกค่ะ พยายามใส่เสื้อตัวเดิมให้ไวที่สุด เขาก็เข้ามากอดไม่ปล่อย หนูก็พยายามตบหลัง พูดดัง ๆ หาเรื่องเบี่ยงเบนไป แล้วก็ขอตัวออกไป เรียกพี่ผู้หญิงที่มานั่งรอตรงนั้น ให้พาเราออกไปหน่อย
แพร : มันช็อกค่ะ มันชา ๆ ตอนเล่าเรื่องแรก ๆ มันก็ตัวสั่น
เรื่องตั้งแต่ตุลาคม ทำไมเพิ่งออกมาแจ้งความ ?
แพร : หนูบอกให้คนทราบตั้งแต่ภายในวันนั้นเลยค่ะ คนแรกที่หนูบอก เขาบอกว่าทางที่ดีอย่าไปบอกใครดีกว่า หลังจากนั้นหนูก็ไปเคาะประตูห้องเพื่อนก่อน ถ้าไปบอกคนอื่นเขาอาจไม่เชื่อก็ได้ เพราะเขาเป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียง เป็นผู้ใหญ่ ก็ตัดสินใจไปเคาะบอกเพื่อนที่ทำงานด้วยกันก่อน เคาะดังมาก แต่เพื่อนหลับไปแล้ว ปรากฏว่าคนข้าง ๆ ห้องเพื่อนก็เปิดประตูออกกมา ก็คือพี่พรฟ้า ผู้จัดการกองประกวด เปิดประตูออกกมาถามว่าแพรโอเคไหม แพรบอกว่าไม่ค่ะ เขาก็บอกว่าเดี๋ยวมาคุยกัน พี่ไปประชุมแป๊บหนึ่งนะเดี๋ยวมาคุยกัน หนูก็เลยเข้าไปห้องเพื่อนสวดมนต์นั่งสมาธิ หนูคิดเลยว่าเราต้องบอก คนที่เขาบอกหนูว่าทางที่ดีอย่าบอกคนอื่นดีกว่า หนูคิดว่าเขาอาจห่วงภาพลักษณ์เรา หนูคิดว่าถ้าให้คนอื่นมาเจอแบบหนูอีกหนูไม่โอเค หนูต้องเป็นคนสุดท้ายที่เจอเรื่องนี้ ก็บอกผู้จัดการกอง บอกแม่ปุ้ยค่ะ แม่ปุ้ยก็เลยเก็บหลักฐานให้มากที่สุด ให้ชัวร์ว่าทำจริง ๆ
ทีน่า : เป็นนางงามค่ะ โดนลวนลามหลายครั้งมาก จากผู้ชายคนนี้คนเดียวกันเลยค่ะ ของหนูเกิดหลายครั้งและหลาย ๆ สถานที่ อย่างเช่นหนูกำลังแต่งหน้าต่อหน้าคนเป็นร้อย หลายสิบคน เขาก็มาจับหัวหนู ลูบหลังหนู มากระซิบ หรือเป็นการถ่ายภาพที่คนอยู่เยอะ ๆ วันนั้นหนูเหนื่อยมาก แววตาหนูไม่ทรงพลัง คำพูดที่เขาใช้บิวต์เราก็คือ หนูมองพี่สิ มองให้เหมือนกับว่าพี่เป็นผู้ชายที่หล่อมากจนหนูอยากมีอะไรด้วย
ไม่ถีบสักที ทำอย่างนี้หลายครั้ง ทำไมไม่แจ้งความ ?
ทีน่า : เพราะหนูคิดว่าเขาไม่ใช่ชายแท้ หนูพยายามถามเขาหลายครั้งมาก แล้วเขาปฏิเสธ หนูก็คิดว่าการที่เขามาลูบหัวหนูเขาเอ็นดูหรือเปล่า พอวันนั้น หนูนั่งพัก แล้วเขามานั่งใกล้ ๆ หนู เขาพูดถึงแฟนเขา ว่าคนนี้ไม่ใช่แฟนพี่ เขามาอาศัยด้วยเฉย ๆ เขาพร้อมมีเมียอีกหลายคนเลยนะ
ทีน่า : ใช่ เราก็คิดว่าไม่ใช่การเอ็นดูแล้ว เขาน่าจะมีจุดประสงค์อื่น พยายามจับทุกครั้งที่มีโอกาส อย่างเรานั่งแต่งหน้าอยู่ก็มาจับ ลูบหัว ลูบหลัง
นิด้า : บางทีเขาใส่เกาะอก ก็จะสัมผัสผิวโดยตรงเลยนะคะ
นิด้า : เป็นอย่างนั้นค่ะ ที่มีหมายจับเพราะเราไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนว่ามันมีการข่มขืนกระทำชำเราน้องอีกคนหนึ่ง พนักงานสอบสวนก็ได้รวบรวมหลักฐานจนพอที่จะไปขอหมายจับจากศาล และศาลก็ตรวจสอบแล้ว ก็ได้อนุมัติหมายจับในเบื้องต้นให้ จนนำมาสู่การจับกุมครั้งนี้
นิด้า : เป็นค่ะ แต่ไม่ใช่เวทีนี้นะคะ
นิด้า : ยืนยันค่ะ และมอบพยานหลักฐานทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้วค่ะ เขามีหลายอย่าง แต่นิด้าไม่ขอลงดีเทล เดี๋ยวกระทบกับรูปคดี แต่มีมากพอสมควรที่ศาลจะออกอนุมัติหมายจับให้ได้ แต่นิด้าขอออกตัวตรงนี้ว่านิด้าคงไม่กล้ามาพูดว่าคดีนี้นิด้าจะชนะร้อยเปอร์เซ็นต์ นิด้าพูดไม่ได้ แต่เบื้องต้นนิด้ารับเรื่องมา นิด้าเชื่อว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงจากพฤติกรรมหลาย ๆ อย่าง น้องเวทีนี้และจากที่อื่นที่ไม่ได้รู้จักกันเลย พอเล่าสตอรี่ทุกอย่าง มันลงล็อกกัน พฤติการณ์แบบเดียวกัน ถ้านิด้าเชื่อทำไมถึงไม่กล้ายืนยันว่าคดีนี้จะชนะร้อยเปอร์เซ็นต์ จะบอกว่าบรรทัดฐานที่ทำให้เราเชื่อได้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง กับบรรทัดฐานศาลที่จะพิจารณาให้เขาติดคุก มาตรฐานมันคนละชั้นกัน วันนี้ตอบได้แค่วิญญูชนทั่วไป ดูก็รู้แล้วว่ามีการกระทำจริง ๆ แต่พยานหลักฐานมันไม่แน่นพอ
ที่พี่หนุ่มถามว่าทำไมเหตุเกิดนานแล้วแต่เพิ่งมาแจ้งความ น้องบอกว่าน้องได้เล่าให้คนใกล้ชิดฟังตั้งแต่ช่วงนั้น พี่ปุ้ยเองติดต่อนิด้าเข้ามา พี่ปุ้ยยังเข้าใจว่าเรื่องนี้อาจดำเนินการอะไรไม่ได้เสียด้วยซ้ำ แต่พี่ปุ้ยแค่รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง มันควรต้องทำอะไรได้สักอย่างสิ แต่เข้าใจว่าพี่ปุ้ยไม่ได้รู้กฎหมาย น้องก็ไม่รู้กฎหมาย สิ่งที่พี่ปุ้ยคิดว่าเรื่องนี้เมื่อดำเนินคดีแล้วต้องแพ้หรือเปล่าเพราะการจับตัว จะเอาพยานหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ ว่ามีการจับตัว การที่มากอด จับก้น จะเอาหลักฐานอะไรไปพิสูจน์ นั่นคือสิ่งที่น้องหลาย ๆ คนไม่ได้ตัดสินใจดำเนินคดีหรือแจ้งความ จนวันที่นิด้าเข้ามา พอเราฟังเรื่องราวทั้งหมด เราคิดว่าไปได้ เราถึงได้เริ่มดำเนินการ
น้องทีน่า ตอนแรกพ่อแม่ไม่อยากให้ออกมาพูด ?
ทีน่า : ครอบครัวกับพี่สาวเขาห่วงเราว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียง คนจะเอาไปนินทา ที่หนูออกมาพูด หนูก็ออกมาปกป้องตัวเอง หนูไม่ได้รู้สึกว่าหนูต้องอายตรงไหนเลยที่ออกมาพูดเพื่อปกป้องตัวเอง ไม่ใช่แค่การตกเป็นเหยื่อ แต่การกระทำจากคนรอบข้างที่ไม่เข้าใจเรา หาว่าเหยื่ออย่างเราไปอ่อยเขาหรือเปล่า ที่ออกมาเรียกร้องเพราะเขาไม่ให้อะไรเราหรือเปล่า มันไม่ใช่ เราออกมาเรียกร้องเพราะถูกกระทำจริง ๆ เราไม่ได้เต็มใจ หนูเห็นคอมเมนต์ต่าง ๆ ทำให้ท้อ และอยากฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ ว่าหนูผิดอะไร ทำไมคนรอบข้างไม่เข้าใจหรือรับฟังเราเลยกับสิ่งนี้
ผู้ต้องหาเขาบอกสมยอม ไม่ได้ข่มขืนใคร ต้องไปสู้กันในชั้นศาล เพราะที่ได้คุยกับน้องคนนั้นมา เขาบอกว่าเขาถูกกระทำจริง ๆ ไม่ได้สมยอม เขาสู้ยิบตา เขารอเวลาอีกนิดเดี๋ยวจะเปิดเผยตัว ยืนยันอีกครั้งว่าเหตุที่เกิดขึ้นกับนางงามอีกหนึ่งเวที เกิดจริง แล้วที่เกิดเหตุคือปทุมธานี ไม่ใช่นางงามอยู่ปทุมธานี เป็นนางงามถูกล่วงละเมิดที่ปทุมธานี แต่พอข่าวออกมาพูดติด ๆ กัน ก็กลายเป็นมิสนี้ ปทุมธานี ไม่ใช่นะ ตัวน้องกัสเป็นนางแบบ ทำไมถึงปรากฏตัวออกมาแล้วไปหาพี่นิด้า?
กัส : เริ่มต้นเลยคือวันนั้นเลื่อนดูทวิตเตอร์ เห้ย พี่คนนี้เหรอ เขาไม่เลิกทำแบบนี้อีกเหรอ หนูเคยถ่ายแบบมีคอนเนคชั่นช่างภาพนางแบบ พี่เขาทักมาว่าชอบสายตา ฟิลลิ่ง เราไปถ่ายรูปเล่นกันไหม พร้อมส่งไฟล์ภาพพี่เขามา พี่เขาถ่ายรูปสวยมาก เลยตกลงไปถ่ายกับพี่เขาที่ปทุมธานี
กัส : ค่ะ พอไปถึง พี่เขามีการพยายามบิวต์ให้เรานู้ด ให้เราถอดนอกเหนือจากที่ตกลงกันตั้งแต่ตอนแรก เราก็ไม่ยอม เขาก็พยายามกอด พยายามจับ พยายามลวนลาม หนักหน่อยคือกอดแล้วใช้แขนกดล็อกเราไว้ พยายามล่วงละเมิดทางเพศเรา
แล้วหนีมาได้ยังไง ?
กัส : ร้องไห้ค่ะ มันเหมือนกลัว แล้วก็ตกใจ (เสียงสั่นเครือ)
นิด้า : ต้องได้คุยรายละเอียดเพราะเพิ่งเจอน้องวันนี้ ต้องดูว่าเป็นผู้เสียหายได้ไหมเพราะมีอายุความเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าน้องสะดวกเป็นพยาน เราคงไม่ได้ไปพิสูจน์ว่าเขากระทำจริง แต่เราอยากให้ไปพิสูจน์วิธีการที่เขากระทำ เพื่อเสริมคดีอื่น ถ้าน้องยินดีจะขอบคุณมาก ๆ เลย
ตากล้องไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคน เดี๋ยวจะไปเหมา แต่เราก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วย มันจะมีพฤติกรรมเฉพาะคนที่แสดงออก บางครั้งไปจับตัว ลูบตัว คนเป็นแบบก็ต้องระวัง และน้องต้องกล้าพูด ต่อให้โคตรช่างภาพ ต่อให้เป็นพี่บี๋ ก็ต้องบอก คนไหนมีพฤติกรรมแต๊ะอั๋ง ลวนลาม จิกหัวเพิ่มฟีล จุ๊บหน้าผาก ?
แพร : เขาไม่ได้ขอด้วยนะคะเขาทำเลย ตอนนั้นมันช็อก ทำอะไรไม่ถูก ฝากด้วยที่ใครบอกว่าให้ดูแลตัวเอง เชื่อเถอะหนูดูแลแล้ว เราเอาคนอื่นไปด้วยก็ไม่ได้ประมาท
นิด้า : ในภาวะอย่างนั้น
เป็นความชั่วส่วนบุคคล ว่างั้น ?
นิด้า : ค่ะ