ดราม่าทราย ฟาร์มสุขเล็ก ๆ ยังไม่จบ คู่กรณีพลิกลิ้นไม่ยอม ชี้อีกฝ่ายบิดเบือน จ่อฟ้องกลับ ยันคู่กรณีเป็นฝ่ายมาไกล่เกลี่ยเอง พ่อแม่ไม่เกี่ยว ทรายลั่น พร้อมรับมือการฟ้องครั้งนี้ แจงในมุมของตัวเอง
เรื่องราวของคุณทราย ฟาร์มสุขเล็ก ๆ ที่ฟ้องหมิ่นประมาทหนุ่มคนหนึ่งบูลลี่รูปร่างเธอ ลามปามไปถึงเรื่องเซ็กส์ หลังจากเธอลงรูปชุดว่ายน้ำ ดูเหมือนว่าจะจบลงด้วยดี เพราะคู่กรณีจ่ายเงิน 35,000 บาท พร้อมโพสต์ขอโทษเพื่อยุติเรื่อง
อ่านข่าว : ทราย ฟาร์มสุขเล็ก ๆ โดนบูลลี่หุ่น ลามปามไปเรื่องเซ็กส์ เรียกฟ้อง 200,000 อีกฝ่ายไม่มีจ่าย
ล่าสุด วันที่ 26 สิงหาคม 2566 เรื่องราวที่เหมือนจะจบ แต่ยังไม่จบเมื่อคู่กรณีคุณทรายโพสต์ว่า
ทางคู่กรณีได้ปรึกษากับทนาย ทนายบอกคู่กรณีว่า เรื่องนี้เป็นคดีหมิ่นประมาท แต่เมื่อขึ้นศาล คู่กรณีกลับพบว่าทรายไม่ได้ฟ้องหมิ่นประมาท แต่ฟ้อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นำเข้าสื่อลามกฯ ฝ่ายคู่กรณีจึงบอกว่า ทรายฟ้องไม่ตรงมาตรา ทำให้เรื่องนี้ยังไม่เข้าสู่กระบวนการใด ๆ
จากนั้น ทางคู่กรณียังบอกอีกว่า ฝั่งทรายก็เป็นฝ่ายขอมาไกล่เกลี่ย ทรายเรียกเงิน 200,000 บาท ทนายก็นำเรื่องมาปรึกษาคู่กรณีว่าต้องการที่จะคุยไหมเพื่อให้เรื่องจบ จะได้ไม่ต้องคุยกันหลายรอบ จึงตกลงกันที่จะมีการไกล่เกลี่ย
ทั้งนี้ ในวันไกล่เกลี่ยนั้น ทางคู่กรณีต้องการจ่ายให้ทราย 70,000 บาท แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยได้เหลือ 35,000 บาท แล้วเรื่องจะจบ
ส่วนเงื่อนไขการถอนฟ้องคือ ถ้าทรายยอมรับยินยอมในจำนวนเงินนี้ และคู่กรณียอมโพสต์ขอโทษผ่านทางเฟซบุ๊ก ทรายก็จะถอนฟ้อง ทางคู่กรณียื่นยันว่าไม่มีการอ้อนวอน ถ้าทรายไม่ยอม คู่กรณีก็พร้อมเข้าสู่การพิจารณาคดี ส่วนเรื่องที่คู่กรณีมีเงินเดือน 15,000 บาทและให้พ่อแม่มาอ้อนวอน ก็ไม่เป็นความจริง ความจริงเรื่องนี้คือ ทรายมาขอไกล่เกลี่ยก่อน ไม่มีการขึ้นพิจารณาคดีอะไรทั้งนั้น
หลังจากนี้ จะมีการฟ้องกลับแน่นอน ขอบคุณในความห่วงใยและสมน้ำหน้า เนื่องจากบิดเบือนเรื่อง
ทรายโต้กลับ อธิบายเพิ่ม
คุณทราย โพสต์ผ่าน เฟซบุ๊ก Framsook Lek Lek อัปเดตเรื่องราวนี้ว่า ตอนแรกตนนึกว่าจะจบ แต่มีคนแคปมาให้ดูว่าทางนั้นยังไม่จบ ดังนั้น ทรายจึงขออธิบายเพิ่มเติมในมุมของตัวเองว่า เธอฟ้องคู่กรณีในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นำเข้าสื่อลามกฯ ไม่ได้ฟ้องหมิ่นประมาท เนื่องจากทนายแนะนำว่า ถ้าฟ้องหมิ่นประมาท อาจถูกยกฟ้อง เพราะเขาไม่ได้เอ่ยชื่อทรายตรง ๆ ถ้าฟ้องเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ น่าจะเข้าข่ายกว่า ซึ่งเธอก็เชื่อทนายความ บวกกับเคยเจอประสบการณ์โดยตรงกับการขึ้นศาลคดีหมิ่นประมาท
ประเด็นเรื่องที่บอกว่า เธอขอคู่กรณีไกล่เกลี่ย เรื่องนี้เธอเป็นฝ่ายถูกกระทำ ทำไมต้องไปขอร้องไกล่เกลี่ย ทำไปเพื่อ? ความจริงแล้วการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นกระบวนการที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วโดยไม่ต้องมีใครร้องขอ และทางคู่กรณีก็บอกเราเองว่า ทำงานโรงงาน ไม่ได้มีเงินเยอะ พร้อมจะชดใช้แค่ 30,000 บาท
นอกจากนี้ คุณทรายยังตั้งคำถามกลับว่า เรื่องที่เธอบิดเบือนคือเรื่องไหน ใช่เรื่องที่ครอบครัวคุณเดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา มีเงินแค่ 35,000 บาท และถ้าพ่อแม่ขอโทษแทนลูกได้ก็คงทำไปแล้ว หรือว่าเป็นเรื่องที่เธอบอกว่า "คุณบอกเราขอโทษซึ่งหน้าไม่ได้หรือ"
เรื่องนี้ มีคนเป็นพยานอยู่ในห้องรวม 11 คน ไม่ได้มีแค่ 2 คน จะโกหกกันไปมาได้ยังไง ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่า จ่าย จบ ยุติ ทำไมดูง่าย ๆ ทั้งที่คุณไม่เคยมาขอโทษเลย ไม่เคยถามว่าจิตใจเป็นยังไงบ้าง คิดว่าเงินที่คุณจ่ายมา 35,000 บาท จะพอกับค่าไปปรึกษาจิตแพทย์ไหม
ส่วนการที่เธอโพสต์เรื่องนี้ออกสื่อ ไม่ได้เอามาเป็นคอนเทนต์ แต่เป็นการอธิบาย เพราะต้องทนกับเรื่องนี้มานาน 8 เดือนกว่าเรื่องจะยุติ ต้องรอให้สิ้นสุดขั้นตอนทางกฎหมายก่อนเพื่อที่จะอธิบายได้ว่าโดนอะไรมาบ้าง ส่วนคุณเพิ่งโดนแค่วันเดียวกลับรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมซะงั้น
ยินดีสู้คดีหากฟ้องกลับ แฉอีกฝ่ายลบโพสต์ขอโทษแล้ว
เรื่องการฟ้องกลับไม่ว่าด้วยข้อหาอะไรก็ตาม เธอยินดีดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ถ้าเป็นฝ่ายผิดก็พร้อมจะขอโทษอย่างจริงใจและเยียวยาค่าเสียหายด้วยเงินที่หามาได้เอง ไม่เบียดเบียนครอบครัว สุดท้ายอย่าใช้คำว่าสำนึกกับเหตุการณ์ที่เกิดเลย มันดูจั๊กจี้
ต่อมา คุณทรายโพสต์เพิ่มเติมว่า คู่กรณีลบโพสต์ข้อความที่ขอโทษออกแล้ว ทั้งที่สัญญากับทนายว่าจะไม่ลบโพสต์ ส่วนชาวเน็ตมองว่า คู่กรณีไม่มีท่าทีสำนึกใด ๆ ทำให้รู้สึกเสียดายว่า ไม่น่ายอมความ น่าจะยืนยันตัวเลขที่ 2 แสน หรือไม่ก็เตรียมฟ้องจัดหนักอีกรอบก็ได้
