คืบคดี จนท. ทูตถูกฆาตกรรม วงจรปิดชัดคนร้ายออกจากบ้านกลางดึก เอาบัตร ATM ไปกดเงินนับแสนบาท ล่าสุดออกหมายจับหนุ่มกัมพูชาแล้ว
จากกรณี นายวิชิต ชิตวิมาน วัย 63 ปี อดีตเจ้าหน้าที่เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ถูกคนร้ายฆาตกรรมในห้องน้ำบ้านพัก ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายเป็นคนใกล้ตัว เชื่อว่าผู้ตายเป็นคนเปิดประตูรับคนร้ายเข้ามาในบ้านเอง
อ่านข่าว : อดีตเจ้าหน้าที่ทูตวัยเกษียณ ดับในห้องน้ำบ้านพัก เจอเงื่อนงำ คลุมทับด้วยกล่องระบุ ห้ามเปิด
อ่านข่าว : เชิญเด็ก 15 สอบปากคำ สงสัยอาจฆ่าเจ้าหน้าที่ทูตคาบ้าน พ่อไม่เชื่อลูกทำ อยู่ด้วยกัน 24 ชม.
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 9 ตุลาคม 2566 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า พล.ต.ต. อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุฆาตกรรมอดีตเอกอัครราชทูตแล้ว ยืนยันว่า เป็นคนต่างด้าว (ไม่ระบุสัญชาติ) แต่ยังไม่ขอระบุว่า ผู้ก่อเหตุนั้น เข้า-ออก หมู่บ้านได้อย่างไร ตอนนี้คาดว่า ยังคงหลบหนีอยู่ภายในประเทศไทย ยังไม่ได้ออกนอกประเทศ ตำรวจแกะรอยตามไปที่พักของคนร้าย แต่ไม่เจอตัวคนร้าย ทางตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับ และติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ มีรายงานว่า จุดที่คนร้ายก่อเหตุใช้มีดแทง อยู่บริเวณชั้น 1 ทางขึ้นบันไดไปชั้น 2 ภายในบ้าน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นกลางดึก วันที่ 27 กันยายน ก่อนที่คนร้ายจะใช้มีดแทงหน้าอกผู้ตาย 3 ครั้ง นั้นได้ต่อยใบหน้าของผู้ตาย 2 ครั้ง หลังแทงเสร็จ ผู้ตายวิ่งหนีขึ้นไปชั้น 2 ส่วนคนร้ายนำมีดที่เปื้อนเลือดไปล้างเสียบเก็บไว้ที่เดิม รื้อค้นทรัพย์สิน เดินออกมาขึ้นรถแท็กซี่หน้าหมู่บ้านแล้วหลบหนีไป
ด้าน พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยว่า จากการสอบถามกับญาติผู้ตายทราบว่าไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน หรือประมาณ 11 วันที่แล้ว ปกติแล้วผู้ตายพักอาศัยอยู่คนเดียว เดิมพักอาศัยอยู่ที่คอนโด เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้เมื่อวันที่ 9 กันยายน หลังปรับปรุงซอมแซ่มบ้านเสร็จ
จนเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ช่างที่มาปรับปรุงบ้านซึ่งมีกุญแจบ้านไขกุญแจเข้าไปภายในบ้าน พบว่าเจ้าของบ้านกลายเป็นศพอยู่ในห้องน้ำชั้น 2 จากการรวบรวมพยานหลักฐาน เชื่อว่า คนร้ายไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับครอบครัวผู้ตาย หรือครอบครัวของผู้ใกล้ชิดซึ่งเป็นช่าง คาดว่าคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ โดยผู้ตายเป็นคนเปิดประตูบ้านให้ เพราะไม่พบร่อยรอยการงัดแงะ แต่ในพื้นที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดอยู่ด้วย ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ แต่ ผบ.ตร. กำชับแล้ว ให้ทำคดีนี้ให้เร็วที่สุด
ขณะที่รายการข่าวเช้าช่องวัน ช่องONE31 รายงานว่า จากกล้องวงจรปิดพบว่าช่วง 17.00 น. วันที่ 27 กันยายน ท่านทูตนั่งรถเก๋งสีดำออกจากหมู่บ้านมากับผู้ต้องสงสัย จากนั้นช่วง 19.00 น. ก็นั่งรถกลับมาในหมู่บ้านพร้อมกับผู้ต้องสงสัย ต่อมาช่วง 03.00 น. ผู้ต้องสงสัยเดินออกจากประตูหมู่บ้านมาเพียงคนเดียว แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นท่านทูตออกจากบ้านอีกเลย ซึ่งจากข้อมูลของชุดสืบสวนพบว่า คนร้ายเป็นลูกจ้างต่างด้าว หลังก่อเหตุนำบัตร ATM ของผู้ตายไปกดเงินที่ห้างเป็นจำนวนนับแสนบาท
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว
จากกรณี นายวิชิต ชิตวิมาน วัย 63 ปี อดีตเจ้าหน้าที่เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ถูกคนร้ายฆาตกรรมในห้องน้ำบ้านพัก ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายเป็นคนใกล้ตัว เชื่อว่าผู้ตายเป็นคนเปิดประตูรับคนร้ายเข้ามาในบ้านเอง
อ่านข่าว : อดีตเจ้าหน้าที่ทูตวัยเกษียณ ดับในห้องน้ำบ้านพัก เจอเงื่อนงำ คลุมทับด้วยกล่องระบุ ห้ามเปิด
อ่านข่าว : เชิญเด็ก 15 สอบปากคำ สงสัยอาจฆ่าเจ้าหน้าที่ทูตคาบ้าน พ่อไม่เชื่อลูกทำ อยู่ด้วยกัน 24 ชม.
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 9 ตุลาคม 2566 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า พล.ต.ต. อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุฆาตกรรมอดีตเอกอัครราชทูตแล้ว ยืนยันว่า เป็นคนต่างด้าว (ไม่ระบุสัญชาติ) แต่ยังไม่ขอระบุว่า ผู้ก่อเหตุนั้น เข้า-ออก หมู่บ้านได้อย่างไร ตอนนี้คาดว่า ยังคงหลบหนีอยู่ภายในประเทศไทย ยังไม่ได้ออกนอกประเทศ ตำรวจแกะรอยตามไปที่พักของคนร้าย แต่ไม่เจอตัวคนร้าย ทางตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับ และติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ มีรายงานว่า จุดที่คนร้ายก่อเหตุใช้มีดแทง อยู่บริเวณชั้น 1 ทางขึ้นบันไดไปชั้น 2 ภายในบ้าน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นกลางดึก วันที่ 27 กันยายน ก่อนที่คนร้ายจะใช้มีดแทงหน้าอกผู้ตาย 3 ครั้ง นั้นได้ต่อยใบหน้าของผู้ตาย 2 ครั้ง หลังแทงเสร็จ ผู้ตายวิ่งหนีขึ้นไปชั้น 2 ส่วนคนร้ายนำมีดที่เปื้อนเลือดไปล้างเสียบเก็บไว้ที่เดิม รื้อค้นทรัพย์สิน เดินออกมาขึ้นรถแท็กซี่หน้าหมู่บ้านแล้วหลบหนีไป
ด้าน พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยว่า จากการสอบถามกับญาติผู้ตายทราบว่าไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน หรือประมาณ 11 วันที่แล้ว ปกติแล้วผู้ตายพักอาศัยอยู่คนเดียว เดิมพักอาศัยอยู่ที่คอนโด เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้เมื่อวันที่ 9 กันยายน หลังปรับปรุงซอมแซ่มบ้านเสร็จ
จนเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ช่างที่มาปรับปรุงบ้านซึ่งมีกุญแจบ้านไขกุญแจเข้าไปภายในบ้าน พบว่าเจ้าของบ้านกลายเป็นศพอยู่ในห้องน้ำชั้น 2 จากการรวบรวมพยานหลักฐาน เชื่อว่า คนร้ายไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับครอบครัวผู้ตาย หรือครอบครัวของผู้ใกล้ชิดซึ่งเป็นช่าง คาดว่าคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ โดยผู้ตายเป็นคนเปิดประตูบ้านให้ เพราะไม่พบร่อยรอยการงัดแงะ แต่ในพื้นที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดอยู่ด้วย ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ แต่ ผบ.ตร. กำชับแล้ว ให้ทำคดีนี้ให้เร็วที่สุด
ขณะที่รายการข่าวเช้าช่องวัน ช่องONE31 รายงานว่า จากกล้องวงจรปิดพบว่าช่วง 17.00 น. วันที่ 27 กันยายน ท่านทูตนั่งรถเก๋งสีดำออกจากหมู่บ้านมากับผู้ต้องสงสัย จากนั้นช่วง 19.00 น. ก็นั่งรถกลับมาในหมู่บ้านพร้อมกับผู้ต้องสงสัย ต่อมาช่วง 03.00 น. ผู้ต้องสงสัยเดินออกจากประตูหมู่บ้านมาเพียงคนเดียว แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นท่านทูตออกจากบ้านอีกเลย ซึ่งจากข้อมูลของชุดสืบสวนพบว่า คนร้ายเป็นลูกจ้างต่างด้าว หลังก่อเหตุนำบัตร ATM ของผู้ตายไปกดเงินที่ห้างเป็นจำนวนนับแสนบาท
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว










