หนุ่มไลฟ์อ้างถูกทำร้ายหลังสำรวจตึกร้างกัมพูชา ล่าสุดผุดภาพโดนจับ หลังพบทำคลิปลวง กุเรื่องใส่ร้าย คาดต้องรับโทษในกัมพูชาก่อน ถึงส่งกลับไต้หวันได้
เป็นกรณีที่ได้รับความสนใจในหลาย ๆ ประเทศ สำหรับหนุ่มไต้หวันผู้เป็นที่รู้จักในชื่อ หว่านอันเสี่ยวจี (晚安小雞) หายตัวไปหลังแอบเข้าไปสำรวจตึกร้างในสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ก่อนถูกชายแต่งชุดคล้ายทหารจับได้ โดยท้ายคลิปมีเสียงคล้ายกับว่าเขาถูกทำร้าย กระทั่งเขาโผล่กลับมาไลฟ์ในสภาพยับเยิน แต่หลายคนได้เห็นภาพก็แอบสงสัย ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะทางหน่วยงานรัฐของไต้หวันก็ไม่ได้รับรายงานอะไร
อ่านข่าว : หนุ่มหายตัว หลังไลฟ์ในตึกร้างกัมพูชา ถูกทำร้ายก่อนภาพตัด ล่าสุดโผล่สภาพเยิน
ล่าสุด (14 กุมภาพันธ์ 2567) เว็บไซต์ ETtoday สื่อไต้หวัน รายงานว่า หลังจากที่หว่านอันเสี่ยวจีอ้างว่าถูกทำร้ายและปล้นทรัพย์ไปในกัมพูชา ต่อมา The Cambodia China Times สื่อกัมพูชาก็ได้เผยภาพของเขาที่ถูกจับใส่กุญแจมือ หลังตำรวจท้องถิ่นควบคุมตัวไว้พร้อมกับ อาเน่า (阿鬧) อินฟลูเอนเซอร์อีกราย ที่มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ข้อมูลเท็จดังกล่าว
โดยการจับกุมครั้งนี้มีขึ้น หลังข่าวการหายตัวไปของหว่านอันเสี่ยวจีกลายเป็นข่าวดังข้ามประเทศ และจู่ ๆ เขาก็กลับมาไลฟ์เฟซบุ๊กในสภาพเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง อ้างว่าเพิ่งหนีคนที่ลักพาตัวออกมาได้ และยังทำท่าวิ่งหนีในสภาพตื่นตระหนก ที่คอมีรอยถูกรัด มีแผลบนตัว และศีรษะถูกกร้อนผมไปส่วนหนึ่ง แต่เมื่อตำรวจท้องถิ่นตรวจสอบ กลับพบว่าเขาไม่ได้ถูกทำร้ายหรือปล้นทรัพย์ใด ๆ ตามที่กล่าวอ้าง คลิปที่ถูกเผยแพร่เป็นเรื่องเท็จ เพื่อทำให้ผู้คนเกิดความเข้าใจผิดต่อกัมพูชา จึงได้ทำการจับกุมตัวบุคคลดังกล่าวพร้อมผู้สมรู้ร่วมคิด มาทำการสอบสวน
ด้านทนายความ หลิวเหวินติง ให้ข้อมูลกับ Taiwan TV News ระบุว่า พฤติกรรมของหว่านอันเสี่ยวจี เกี่ยวข้องกับข้อหาเกี่ยวกับการยุยงให้เกิดการเลือกปฏิบัติ แถลงข้อความอันเป็นเท็จ และแทรกแซงการปฏิบัติงานสาธารณะอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเขาจะถูกสอบสวนโดยตำรวจในกัมพูชา และเกรงว่าจะต้องถูกพิจารณาคดีโดยศาลท้องถิ่น รับโทษจำคุก และจะไม่ได้ถูกส่งตัวกลับจนกว่าการรับโทษจะเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ พบว่าในเพจเฟซบุ๊กของหว่านอันเสี่ยวจี ได้ลบข้อมูลทั้งหมดไปแล้วทั้งคลิปและรูปภาพ รวมถึงรูปโปรไฟล์ภายในเพจ
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday, ETtoday, The Cambodia China Times