แฉบริษัทเดียวกันกับที่เกิดเหตุ ไฟไหม้รถบัส 7 ปีก่อน เพิ่งขับรถไปชนรถพ่วงบนมอเตอร์เวย์ อดีตครูเผยตอนนั้น ต้องช่วยนักเรียนกันเอง คนขับลงจากรถเฉย สู่คำถาม ต้องยกเลิกทัศนศึกษาไหม
จากเหตุการณ์ ไฟไหม้รถบัส ของโรงเรียนเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี และมีผู้เสียชีวิตกว่า 23 คน นำไปสู่คำถามมากมายในเรื่องความปลอดภัย และความปลอดภัยของรถบัสที่เกิดเหตุ
อ่านเพิ่มเติม บทสรุปกรณี ไฟไหม้รถบัสนักเรียน ทำไมประตูฉุกเฉินถึงเปิดไม่ได้ จนคนไปอยู่กันจุดนั้น
ทั้งนี้ นายประจักร์ เอี้ยงเถื่อน ปัจจุบันคือ ผอ.โรงเรียนบ้านสระนารายณ์ จ.อุทัยธานี ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า รถของบริษัทเดียวกันที่ตนพานักเรียนไปทัศนศึกษาเมื่อ 7 ปีก่อน ได้ขับรถไปชนกับรถพ่วง ครั้งนั้นเด็กบาดเจ็บไปกว่า 10 คน แต่วันนี้บริษัทเดิม ทำคนเสียชีวิตไปกว่า 23 คน คุณรับผิดชอบอย่างไร ขอแสดงความเสียใจกับทุกชีวิต
เธอเล่าว่า ในตอนนั้น เธอเป็นครูอัตราจ้าง เพิ่งเรียนจบมา เธอนั่งอยู่ตรงหน้าสุดข้างหลังคนขับ และคนขับเกิดหลับในขณะที่วิ่งบนถนนมอเตอร์เวย์ รถไปชนท้ายเข้ากับรถพ่วง ในตอนนั้น คนขับกระโดดลงจากรถ ครูและเด็กก็ตกใจมากแต่ต้องช่วยเหลือกันเอง ลงมาแบบบาดเจ็บปะปนกันไป ใจก็เสีย ขวัญก็เสีย และจำชื่อบริษัทนี้ได้ตลอดจนถึงทุกวันนี้ แต่ในตอนนั้นมีแต่คนบาดเจ็บ ไม่มีคนเสียชีวิต แต่เหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสครั้งนี้มันหนักหนากว่ามาก ทำร้ายจิตใจคนทั้งประเทศ จะรับผิดชอบกันอย่างไร
ในขณะเดียวกัน ก็ได้เกิดกระแสบนโลกออนไลน์ ที่ต้องการให้ยกเลิกทัศนศึกษา เพราะมีหลายต่อหลายครั้ง ที่รถบัส รถนำเที่ยว ไม่ได้มาตรฐาน เกิดเหตุเฉี่ยวชนและเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง และเมื่อเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ก็นำมาซึ่งความสูญเสียเป็นจำนวนมาก
ด้านเพจ วันนั้นเมื่อฉันสอน ได้ออกมาเผยข้อคิดว่า การยกเลิกทัศนศึกษา ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
แต่ควรเป็นการยกเลิกรถที่ไม่ได้มาตรฐานแทน เพราะหากยกเลิกทัศนศึกษา
ก็จะเปลี่ยนคนตายจากเด็กมาเป็นผู้ใหญ่
เพราะรถไม่ได้มาตรฐานยังไงก็ยังวิ่งอยู่บนถนน และการทัศนศึกษา
ก็เป็นโอกาสที่เด็กจะได้ไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด เห็นแหล่งเรียนรู้
ในสภาพสังคมปัจจุบัน บางครอบครัวเด็กไม่ได้อยู่กับพ่อแม่
อยู่กับปู่ย่าตายาย และบางบ้านไม่มีทุนทรัพย์พาลูกไปที่ไกล ๆ
อีกทั้งเงินจากการทัศนศึกษา ยังกระจายรายได้ให้คนมีงานทำ
มีแหล่งเรียนรู้อีกด้วย
- กำหนดให้การทัศนศึกษาเป็นความสมัครใจ จะไปหรือไม่ไปก็ได้ โรงเรียนไม่มีสิทธิ์มาบังคับว่าถ้าไม่ไป จะไม่ผ่านกิจกรรม
- รถที่พาเด็กไปทัศนศึกษา ต้องมีประตูหลัก 2 ประตูฉุกเฉิน 2 ก่อนออกเดินทางให้ทดสอบการเปิดปิดของประตูฉุกเฉินด้วย
- ยกเลิกการทัศนศึกษาในเด็กอนุบาลและประถม ป.1 ป.2 ป.3 เพราะเด็กยังช่วยตัวเองไม่ได้ แต่คงไว้ในเด็ก ป.4 ป.5 ป.6 และมัธยม เพื่อมอบโอกาสให้เด็ก
- รถทุกคันต้องมีค้อนทุบกระจก มีการสาธิตการทำงาน สาธิตการเปิดประตูฉุกเฉิน บอกตำแหน่งเหมือนเครื่องบิน
- การจัดทัศนศึกษาไม่ควรไกลเกิน 250 กม. อาจจะเว้นได้กรณีโรงเรียนอยู่ในพื้นที่กันดาร และกำหนดให้ 3 ปีไปในแหล่งเรียนรู้ไกลเกิน 400 กม. ได้
- กำหนดมาตรฐานคนขับ ต้องนอนหลับเพียงพอ ห้ามขับต่อกันกี่วัน ห้ามควงกะเหมารอบ
- มีมาตรฐานในการตรวจสอบรถ เช่น อายุปียาง ติดแก๊สได้มาตรฐานหรือไม่
ภาพจาก ประจักร์ เอี้ยงเถื่อน
ภาพจาก ประจักร์ เอี้ยงเถื่อน
ข่าวไฟไหม้รถนักเรียนที่เกี่ยวข้อง
อ่านเพิ่มเติม บทสรุปกรณี ไฟไหม้รถบัสนักเรียน ทำไมประตูฉุกเฉินถึงเปิดไม่ได้ จนคนไปอยู่กันจุดนั้น
ทั้งนี้ นายประจักร์ เอี้ยงเถื่อน ปัจจุบันคือ ผอ.โรงเรียนบ้านสระนารายณ์ จ.อุทัยธานี ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า รถของบริษัทเดียวกันที่ตนพานักเรียนไปทัศนศึกษาเมื่อ 7 ปีก่อน ได้ขับรถไปชนกับรถพ่วง ครั้งนั้นเด็กบาดเจ็บไปกว่า 10 คน แต่วันนี้บริษัทเดิม ทำคนเสียชีวิตไปกว่า 23 คน คุณรับผิดชอบอย่างไร ขอแสดงความเสียใจกับทุกชีวิต
ภาพจาก ประจักร์ เอี้ยงเถื่อน
พร้อมกับที่เฟซบุ๊ก Thanita Look Som Siripan หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาชนรถพ่วง ได้ออกมาเล่าว่า เหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาชนรถพ่วง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560 ขณะที่เธอซึ่งในตอนนั้น ยังเป็นครูอัตราจ้าง พานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ไปทัศนศึกษาที่ จ.ชลบุรี ตอนนั้นเธอมองว่า นั่นคืออุบัติเหตุที่ร้ายแรงมาก ๆ แล้ว แต่วันนี้เหตุการณ์เดิมกลับเกิดขึ้นมาอีก และร้ายแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำ และที่เธอออกมาพูดนั้น เพราะบริษัทออกมาบอกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไร แต่เหตุการณ์อุบัติเหตุในครั้งนั้น เพิ่งเกิดขึ้นแค่ 7 ปีก่อนเธอเล่าว่า ในตอนนั้น เธอเป็นครูอัตราจ้าง เพิ่งเรียนจบมา เธอนั่งอยู่ตรงหน้าสุดข้างหลังคนขับ และคนขับเกิดหลับในขณะที่วิ่งบนถนนมอเตอร์เวย์ รถไปชนท้ายเข้ากับรถพ่วง ในตอนนั้น คนขับกระโดดลงจากรถ ครูและเด็กก็ตกใจมากแต่ต้องช่วยเหลือกันเอง ลงมาแบบบาดเจ็บปะปนกันไป ใจก็เสีย ขวัญก็เสีย และจำชื่อบริษัทนี้ได้ตลอดจนถึงทุกวันนี้ แต่ในตอนนั้นมีแต่คนบาดเจ็บ ไม่มีคนเสียชีวิต แต่เหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสครั้งนี้มันหนักหนากว่ามาก ทำร้ายจิตใจคนทั้งประเทศ จะรับผิดชอบกันอย่างไร
คนแห่ติดแท็ก #ยกเลิกทัศนศึกษา เพจดังออกมาชี้ ยกเลิกไปไม่มีประโยชน์ แต่ควรปรับ
ในขณะเดียวกัน ก็ได้เกิดกระแสบนโลกออนไลน์ ที่ต้องการให้ยกเลิกทัศนศึกษา เพราะมีหลายต่อหลายครั้ง ที่รถบัส รถนำเที่ยว ไม่ได้มาตรฐาน เกิดเหตุเฉี่ยวชนและเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง และเมื่อเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ก็นำมาซึ่งความสูญเสียเป็นจำนวนมาก
ภาพจาก วันนั้นเมื่อฉันสอน
ในฐานะที่ตนเป็นครู ขอเสนอเรื่องทัศนศึกษาดังนี้
- กำหนดให้การทัศนศึกษาเป็นความสมัครใจ จะไปหรือไม่ไปก็ได้ โรงเรียนไม่มีสิทธิ์มาบังคับว่าถ้าไม่ไป จะไม่ผ่านกิจกรรม
- รถที่พาเด็กไปทัศนศึกษา ต้องมีประตูหลัก 2 ประตูฉุกเฉิน 2 ก่อนออกเดินทางให้ทดสอบการเปิดปิดของประตูฉุกเฉินด้วย
- ยกเลิกการทัศนศึกษาในเด็กอนุบาลและประถม ป.1 ป.2 ป.3 เพราะเด็กยังช่วยตัวเองไม่ได้ แต่คงไว้ในเด็ก ป.4 ป.5 ป.6 และมัธยม เพื่อมอบโอกาสให้เด็ก
- รถทุกคันต้องมีค้อนทุบกระจก มีการสาธิตการทำงาน สาธิตการเปิดประตูฉุกเฉิน บอกตำแหน่งเหมือนเครื่องบิน
- การจัดทัศนศึกษาไม่ควรไกลเกิน 250 กม. อาจจะเว้นได้กรณีโรงเรียนอยู่ในพื้นที่กันดาร และกำหนดให้ 3 ปีไปในแหล่งเรียนรู้ไกลเกิน 400 กม. ได้
- กำหนดมาตรฐานคนขับ ต้องนอนหลับเพียงพอ ห้ามขับต่อกันกี่วัน ห้ามควงกะเหมารอบ
- มีมาตรฐานในการตรวจสอบรถ เช่น อายุปียาง ติดแก๊สได้มาตรฐานหรือไม่
ภาพจาก ประจักร์ เอี้ยงเถื่อน
ภาพจาก ประจักร์ เอี้ยงเถื่อน
ข่าวไฟไหม้รถนักเรียนที่เกี่ยวข้อง
- คาดเหตุ ไฟไหม้รถบัส แล้วทำไมนักเรียนไปกอง เสียชีวิตท้ายรถ เห็นทางรอดแต่ไปไม่ได้
- พยานเล่านาที ไฟไหม้รถบัส เพลิงโหมหนักจนช่วยไม่ไหว - เผยรายชื่อผู้เสียชีวิต ป.1 - ม.3
- คนขับรถบัสทัศนศึกษา เหตุไฟไหม้รถบัสนักเรียน มอบตัวแล้วที่อ่างทอง - ตร. คุมตัวสอบ !
- พยานเล่านาที ไฟไหม้รถบัส เพลิงโหมหนักจนช่วยไม่ไหว - เผยรายชื่อผู้เสียชีวิต ป.1 - ม.3
- คนขับรถบัสทัศนศึกษา เหตุไฟไหม้รถบัสนักเรียน มอบตัวแล้วที่อ่างทอง - ตร. คุมตัวสอบ !