
การแจ้งตาย
ขั้นตอนแรกที่ต้องทำเมื่อมีคนเสียชีวิต
การแจ้งตาย คืออะไร
ใครมีหน้าที่แจ้งตาย
ตามพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร ผู้มีหน้าที่แจ้งการตาย ได้แก่
-
เจ้าบ้านที่มีการตายเกิดขึ้น
-
ผู้พบศพ (กรณีตายนอกบ้าน)
-
ญาติผู้เสียชีวิตที่ทราบเรื่องการตาย
-
ผู้ใดที่ได้พบเห็นหรือทราบการตาย
กำหนดเวลาในการแจ้งตาย
-
กรณีตายในบ้าน : ต้องแจ้งภายใน 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่เวลาตายหรือพบศพ หากไม่แจ้งตายภายในกำหนดปรับไม่เกิน 1,000 บาท
-
กรณีตายนอกบ้าน : ต้องแจ้งภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาพบศพ หากไม่แจ้งภายในกำหนดปรับไม่เกิน 1,000 บาท
สถานที่แจ้งตาย
-
กรณีตายในเขตเทศบาล : แจ้งที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลที่มีการตาย
-
กรณีตายนอกเขตเทศบาล : แจ้งที่สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นที่มีการตาย
-
กรณีตายในกรุงเทพมหานคร : แจ้งที่สำนักงานเขตที่มีการตาย
-
กรณีตายในต่างประเทศ : แจ้งที่สถานกงสุลไทยหรือสถานทูตไทย ณ ประเทศนั้น
กรณีที่ยังไม่ได้แจ้งการตาย แต่มีการเคลื่อนย้ายศพไปอยู่ต่างท้องที่ที่ตาย ให้แจ้งที่สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นที่ศพอยู่หรือที่มีการจัดการศพโดยการเก็บ ฝัง เผา หรือทำลาย
เอกสารที่ใช้ในการแจ้งตาย
การเตรียมเอกสารให้พร้อมจะช่วยให้กระบวนการแจ้งตายเป็นไปอย่างราบรื่น เอกสารที่จำเป็น ได้แก่
-
บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้ง ฉบับจริง 1 ฉบับ
-
บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย (ถ้ามี) ฉบับจริง 1 ฉบับ
-
หนังสือรับรองการตายตามแบบ ท.ร.4/1 (กรณีตายในสถานพยาบาล) ฉบับจริง 1 ฉบับ
-
ใบรับแจ้งการตาย ท.ร.4 ตอนหน้า (กรณีแจ้งต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน) ฉบับจริง 1 ฉบับ
-
สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน ท.ร.14 (ที่ผู้ตายมีชื่ออยู่ (ถ้ามี) กรณีเป็นคนในท้องที่) ฉบับจริง 1 ฉบับ

การออกใบมรณบัตร
หลังจากการแจ้งตายแล้ว นายทะเบียนผู้รับแจ้งจะออกใบมรณบัตรเป็นหลักฐานให้แก่ผู้แจ้ง ซึ่งถือเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ปิดบัญชีธนาคาร โอนทรัพย์สิน แจ้งหน่วยงานรัฐ เป็นต้น
กระบวนการออกใบมรณบัตร
-
เมื่อแจ้งการตายแล้ว นายทะเบียนจะออกใบรับแจ้งการตาย (ท.ร.4 ตอนหน้า)
-
นายทะเบียนจะออกมรณบัตร (ท.ร.4) ให้แก่ผู้แจ้ง
-
นายทะเบียนจะจำหน่ายชื่อผู้ตายออกจากทะเบียนบ้าน โดยจะประทับคำว่า "ตาย" สีแดงไว้หน้ารายการบุคคลที่ตาย
กรณีพิเศษในการออกใบมรณบัตร
-
กรณีตายโดยผิดธรรมชาติ : ต้องมีการชันสูตรพลิกศพโดยแพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนออกใบมรณบัตร
-
กรณีสงสัยว่าตายด้วยโรคติดต่ออันตราย : ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
สิทธิประโยชน์ที่ทายาทควรทราบหลังจากมีการเสียชีวิต

เมื่อมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น ทายาทของผู้เสียชีวิตมีสิทธิได้รับสวัสดิการและเงินช่วยเหลือต่าง ๆ ตามกฎหมาย ดังนี้
1. เงินช่วยเหลือค่าทำศพ
-
กองทุนประกันสังคม : ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือน ก่อนเสียชีวิต จะได้รับเงินค่าทำศพ 50,000 บาท และในกรณีตายจากการทำงาน จะได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท และเงินสงเคราะห์กรณีตายแก่ทายาท
-
สิทธิข้าราชการ : ทายาทมีสิทธิได้รับเงินช่วยพิเศษ 3 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย
-
กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ : หากผู้เสียชีวิตเป็นสมาชิกกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ ทายาทจะได้รับเงินสงเคราะห์ตามที่กองทุนกำหนด
2. เงินบำเหน็จ บำนาญ และเงินสงเคราะห์
-
เงินบำเหน็จตกทอด : กรณีผู้เสียชีวิตเป็นข้าราชการบำนาญ ทายาทมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จตกทอด (30 เท่าของเงินบำนาญ)
-
เงินช่วยเหลือพิเศษ : กรณีข้าราชการเสียชีวิตเนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ราชการ ทายาทมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ (3 เท่าของเงินเดือนเต็มเดือน)
-
เงินสงเคราะห์จากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) : หากผู้เสียชีวิตเป็นสมาชิก กบข.
-
เงินสงเคราะห์จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ : กรณีผู้เสียชีวิตเป็นพนักงานบริษัทที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป
-
เงินสงเคราะห์จากกองทุนประกันสังคม : จ่ายให้แก่บุคคลที่ผู้ประกันตนทำหนังสือระบุไว้เท่านั้น
-
เงินบำเหน็จชราภาพจากกองทุนประกันสังคม : ในจำนวนตามเงื่อนไขของกรณีบำเหน็จชราภาพ
3. สิทธิประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุ
หากผู้เสียชีวิตมีการทำประกันชีวิตหรือประกันอุบัติเหตุไว้ ผู้รับผลประโยชน์มีสิทธิได้รับเงินตามกรมธรรม์ โดยต้องติดต่อบริษัทประกันพร้อมเอกสารใบมรณบัตรและเอกสารอื่น ๆ ตามที่บริษัทกำหนด
การจัดการทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต

กรณีมีพินัยกรรม
หากผู้เสียชีวิตได้ทำพินัยกรรมไว้ การแบ่งทรัพย์สินจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ระบุไว้ในพินัยกรรม ทายาทควรนำพินัยกรรมไปดำเนินการที่สำนักงานที่ดินหรือศาล
กรณีไม่มีพินัยกรรม
ทรัพย์สินจะถูกแบ่งตามกฎหมายให้แก่ทายาทโดยธรรมตามลำดับ ได้แก่
-
คู่สมรส
-
บุตร
-
บิดามารดา
-
พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
-
พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน
-
ปู่ย่า ตายาย
-
ลุง ป้า น้า อา
แม้การสูญเสียจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่การรู้ขั้นตอน การแจ้งตาย และสิทธิที่ครอบครัวพึงได้รับ จะช่วยให้ทุกอย่างเป็นระบบและลดภาระในระยะยาวได้มาก หากคุณกำลังเผชิญเหตุการณ์นี้ ขอให้ใจเย็นและค่อย ๆ ทำตามขั้นตอนที่กล่าวมา หรือปรึกษาหน่วยงานราชการในพื้นที่เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง