การเคลื่อนพลของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมุ่งหน้าบุกทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ไม่ใช่ครั้งแรก
ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา "กลุ่มพันธมิตร" เคยเคลื่อนพลลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อ 13 มกราคม 2549 บุกทำเนียบปักหลัก 1 คืน ก่อนถูกตำรวจเข้าสลาย และครั้งที่สองเมื่อ 14 มีนาคม 2549 บุกทำเนียบรัฐบาล และปักหลักอยู่นานนับเดือน ก่อนสลายตัวไปเอง เป็นที่สังเกตว่า การชุมนุมของพันธมิตรเมื่อช่วงปี 2549 ฝ่ายรัฐบาล (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ไม่ได้ใช้มาตรการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เข้าสลายการชุมนุมแต่อย่างใด
การเคลื่อนพลบุกทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ จึงถือเป็นครั้งที่สาม ในประวัติศาสตร์การเคลื่อนพลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ย้อนอดีตช่วงเวลาการเคลื่อนไหวของพันธมิตร 2548-2549
15 กันยายน 2548 อสมท.ปลดรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ของ "สนธิ ลิ้มทองกุล" ออกจากผังรายการ อ้างว่า "พาดพิงเบื้องสูง" ทำให้ สนธิ ต้องมาจัดรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ที่ห้องส่ง และเริ่มจัดรายการนอกสถานที่ (สัญจร) ที่สวนลุมพินี มีผู้เข้าร่วมฟังจากหลักพันเป็นหลักหมื่นคน โดยมีการจัดรายการทุกวันศุกร์
บุกทำเนียบรัฐบาล ครั้งที่ 1
13 มกราคม 2549 กลุ่มผู้ชุมนุมจากรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" เคลื่อนขบวนจากสวนลุมพินี มาที่ทำเนียบรัฐบาล และผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งบุกเข้าไปในทำเนียบ โดยมีการตั้งเวทีปราศรัยบนรถบรรทุกหกล้อตลอดคืน มีผู้ร่วมขบวนที่เป็นบุคคลสำคัญ อาทิ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีต ส.ว.กรุงเทพฯ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายกล้านรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการ ป.ป.ช. และ ส.ว.หลายคน เช่น นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นายวิญญู อุฬางกูร และนายการุณ ใสงาม รวมทั้งนายคณิน บุญสุวรรณ อดีต ส.ส.ร. นายอมรินทร์ คอมันตร์ นักธุรกิจคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ฯลฯ
เช้าวันที่ 14 มกราคม 2549 เหลือผู้ชุมนุมไม่ถึงร้อยคน พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาบัญชาการเข้าสลายการชุมนุมด้วยตัวเอง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่าพันนาย ได้จับบรรดาแกนนำประมาณ 30-40 คนขึ้นรถคุมขังของ สน.พญาไท สน.นางเลิ้ง และ สน.สำราญราษฎร์ ทั้งนี้ กลุ่มที่ถูกจับบางคนได้รับบาดเจ็บจากหัวกระแทกจนแตก ต่อมาช่วงค่ำวันเดียวกัน ตำรวจก็ได้ปล่อยตัวโดยไม่มีการดำเนินคดีใดๆ
4-5 กุมภาพันธ์ 2549 สนธิ ลิ้มทองกุล นัดแฟนๆ รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ มาชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และมีการเดินเท้าจากลานพระบรมรูปทรงม้า ไปยื่นหนังสือให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (เยื้องๆ สนามมวยราชดำเนิน) เรียกร้องให้ทหารออกมายืนเคียงข้างประชาชน
10 กุมภาพันธ์ 2549 มีการเปิดตัว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ 11 กุมภาพันธ์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เปิดการชุมนุมครั้งแรกที่ท้องสนามหลวง
24 กุมภาพันธ์ 2549 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยุบสภา และกำหนดให้มีการเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549 ขณะที่ฝ่ายค้าน ประชาธิปัตย์ ชาติไทย มหาชน คว่ำบาตรการเลือกตั้ง 2 เมษายน
26 กุมภาพันธ์ 2549 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นัดชุมนุมที่ท้องสนามหลวง
บุกทำเนียบรัฐบาล ครั้งที่สอง
14 มีนาคม 2549 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำผู้ชุมนุมนับแสนคนเดินขบวนครั้งใหญ่ จากสนามหลวงไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล โดยไม่มีตำรวจขัดขวาง ปักหลักชุมนุมนานกว่าเดือน และมีการเปิดยุทธการม็อบดาวกระจายไปชุมนุมกดดันรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ เช่น กกต. ถนนสีลม ฯลฯ โดยชุมนุมที่ทำเนียบจนถึงวันที่ 28 มีนาคม 2549 ก่อนจะย้ายไปชุมนุมใหญ่ที่หน้าห้างสยามพารากอน 1 วัน และมีการประกาศพักม็อบชั่วคราว
21 มีนาคม 2549 พันธมิตรได้ย้ายเวทีปราศรัย มาบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยหันหน้าไปทางพระบรมรูปทรงม้า เพราะบริเวณสี่แยกมิสกวันจะเปิดทางให้แก่การจัดงานกาชาด
29 มีนาคม 2549 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำผู้ชุมนุมนับแสนคนย้ายที่ชุมนุมจากทำเนียบรัฐบาล มาที่หน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน โดยปิดถนนตั้งแต่แยกปทุมวันไปจนถึงสี่แยกราชประสงค์ โดยผู้ชุมนุมปักหลักบนถนนพระราม 1 เพียง 1 วัน และเช้าวันที่ 30 มีนาคม ม็อบได้เคลื่อนขบวนไปกดดัน กกต. ที่อาคารศรีจุลทรัพย์ และส่งตัวแทนไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อติดตามคดีที่พันธมิตรไปแจ้งความจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในข้อหาใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ผู้สมัครไทยรักไทย และประกาศสลายการชุมนุม (พักม็อบชั่วคราว) โดยนัดหมายกันอีกครั้งในวันที่ 7 เมษายน 2549 ที่สนามหลวง
นายสุริยะใส กตะศิลา โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชี้แจงจุดประสงค์ในการย้ายการชุมนุมครั้งนี้ คือ 1.เพื่อคืนพื้นที่ในการจัดงานกาชาด 2.จากการรณรงค์ที่ย่านสยามพารากอนต้องการไปให้ข้อมูลความไม่ชอบธรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณและอธิบายแนวความคิดเรื่องการขอนายกฯ พระราชทานให้แก่คนชั้นกลางและคนหนุ่มสาว ซึ่งถือเป็นพลังเงียบที่สำคัญ ยุทธศาสตร์ของพันธมิตรหลังจากนี้จะมุ่งเน้นไปที่ชนชั้นกลาง เมื่อรัฐบาลใช้ยุทธการป่าล้อมเมือง เราจะใช้ยุทธการเมืองล้อมป่า
2 เมษายน 2549 วันเลือกตั้งทั่วไป พรรคไทยรักไทย ได้คะแนนเสียงระบบบัญชีรายชื่อ 16.4 ล้าน ขณะที่คะแนนโนโหวต 9.50 ล้าน และบัตรเสีย 1.68 ล้าน
7 เมษายน 2549 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นัดชุมนุมที่ท้องสนามหลวง เรียกร้องและกดดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณลาออกจากการดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี และเรียกร้องให้มีการใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 7 เพื่อการจัดตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ
และพันธมิตรนัดชุมนุมรูปแบบใหม่คือ จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ พร้อมการชุมนุมที่สวนลุมพินีทุกวันศุกร์ และบางสัปดาห์สลับไปจัดที่ต่างจังหวัด และบางสัปดาห์ก็จัดที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนจนถึงกันยายน 2549
9 กันยายน 2549 พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อปฏิบัติภารกิจในประเทศทางยุโรป และสหรัฐอเมริกา
15 กันยายน 2549 สนธิ ลิ้มทองกุล จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และในวันเดียวกัน แกนนำพันธมิตร แถลงนัดหมายชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 20 กันยายน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 17.00 น. และประกาศจะเดินขบวนมายังลานพระบรมรูปทรงม้า พร้อมทั้งยืนยันว่าการชุมนุมจะเป็นไปอย่างสงบและสันติ อหิงสา และจะไม่บุกเข้าไปยังสถานที่ราชการใดๆ
19 กันยายน 2549 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.นำกำลังทหารเข้ายึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ ในนามคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)
หลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ลดและยุติบทบาท จนมาถึงรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ก็เคลื่อนไหวและนัดชุมนุม และวันที่ 20 มิถุนายน 2551 ก็นำมวลชนบุกทำเนียบรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการบุกทำเนียบเป็นครั้งที่สาม...
เกาะติดม็อบพันธมิตรฯ บุกทำเนียบทั้งหมดที่นี่ค่ะ
ผบ.ทบ.เข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดี
ส.ว.กว่า 50 คนแถลงการณ์ เป็นห่วงการชุมนุม
สมัคร ยืนยันไม่ลาออก และจะไม่ใช้ความรุนแรง
ตำรวจรับมือม็อบเจ็บแล้ว 4 ราย
อยุธยา โรยตะปูเรือใบ สกัดม็อบเข้ากรุง
สุดต้าน! พันธมิตรฯ บุกถึงทำเนียบแล้ว
จำลอง มั่นใจ 2 วัน รัฐบาลออก
พัลลภ อัดมท.1 เต้าข่าว ขนอาวุธ
พันธมิตร จ่อทำเนียบฯ ยึด ชมัยมรุเชษฐ์
จราจรรอบทำเนียบ ติดหนัก แนะหลีกเลี่ยง
จำลอง ขึ้นเวทีย้ำ ยกพลไร้อาวุธ
บิ๊กจิ๋ว แนะ สมัคร ลาออก-ยุบสภา
ทำเนียบเหงา ข้าราชการผวาม็อบ ลาหยุด
สันติบาล ซ้อมแผน ไฟดับ -ปาระเบิดน้ำมันก๊าด
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
