เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ สั่งกักข้าวไทย หลังทราบข่าวว่าอาจมีการรมยาเกินขนาด เสี่ยงต่อมอด และเชื้อรา ขณะที่พาณิชย์ฯ และผู้ส่งออกข้าว ออกมารับรองความปลอดภัย โดยยืนยันว่า ปฏิบัติตามมาตรฐานสากล
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2556 มีรายงานข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food&Drug Administration : FDA) ของสหรัฐอเมริกา มีคำสั่งแจ้งให้ท่าเรือและผู้นำเข้าทุกรายทั่วสหรัฐฯ กักกันข้าวที่นำเข้าจากประเทศไทยเพื่อตรวจสอบ หลังจากปรากฏข่าวว่า ข้าวจากโครงการรับจำนำของรัฐบาลไทยมีปัญหาเรื่องคุณภาพ เนื่องจากมีการใช้สารเคมีรมเพื่อป้องกันมอดในปริมาณมาก สุ่มเสี่ยงที่จะกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากวงการผู้ส่งออกข้าวกล่าวว่า การตื่นตัวของ FDA สหรัฐฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะปกติแล้วตลอดเวลา 20-30 ปี ที่ผ่านมา การนำเข้าข้าวจากไทยไม่เคยมีปัญหา และไม่เคยต้องถูกตรวจสอบคุณภาพเช่นนี้ ซึ่งหากสุ่มตรวจแล้วพบว่า คุณภาพของข้าวมีปัญหาเรื่องสารเคมี มอด หรือ เชื้อรา ของบริษัทใด จำนวน 5 ครั้ง ทาง FDA ของสหรัฐฯ จะขอให้ผู้นำเข้ารายนั้นปฏิเสธการนำเข้าข้าวไทยทันที
ด้านนางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่า ท่าเรือชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาได้กักข้าวไทยไว้จริง เนื่องจากกังวลข่าวที่ได้รับมาว่า ข้าวไทยมีปัญหาเรื่องคุณภาพ มีการรมสารกันมอดเกินมาตรฐาน จึงได้สั่งให้กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ตรวจสอบรายละเอียดและแถลงข้อเท็จจริงในวันที่ 28 มิถุนายน 2556 แต่ในเบื้องต้นยืนยันว่า ข้าวไทยมีความปลอดภัย โดยการรมยาเป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล ไม่มีสารตกค้างอย่างที่หลายฝ่ายกังวล
ขณะที่ นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า กรณีที่สหรัฐฯ กักกันข้าวที่นำเข้าจากไทยน่าจะเป็นการกักในบางตู้เท่านั้น เพราะระยะเวลาในการขนส่งข้าวจากไทยถึงสหรัฐฯ ทางเรือ กินเวลานานถึง 30 วัน ดังนั้น อาจเกิดความชื้นจากตู้รั่ว มีน้ำเข้า จนทำให้ข้าวเป็นราได้ ซึ่งกรณีนี้สหรัฐฯ น่าจะเข้าใจ
ส่วนกรณีมีข่าวสารเคมีปนเปื้อนเกินขนาดนั้น ยืนยันว่า ข้าวไทยไม่มีสารเคมีตกค้างแน่นอน แต่บางครั้งอาจเกิดขึ้นจากตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรทุกข้าวไทยส่งไปยังสหรัฐฯ ปนเปื้อนจากการบรรทุกสารเคมีก่อนหน้านี้ และล้างไม่สะอาด จึงมาตกค้างที่ข้าวได้ สำหรับการรมยาข้าวนั้น ก็ยืนยันว่า ไม่มีการตกค้างแน่ เพราะใช้ยาที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล
อย่างไรก็ตาม นายชูเกียรติ กล่าวอีกว่า การกักกันข้าวไทยเพื่อรอการตรวจสอบอาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความไม่มั่นใจ และอาจทำให้ผู้นำเข้าหันไปนำเข้าข้าวจากประเทศคู่แข่งของไทยแทน เช่น เวียดนาม และ กัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทยไปต่างประเทศ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
