วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 ร.ต.ท. จรูญ วิมูล และภรรยา ได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับกรณีลอตเตอรี่ 30 ล้าน ว่า ตนเองน่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้ โดยเฉพาะการแถลงของตำรวจที่เผยว่ามีการสั่งฟ้องตนทั้งที่หลักฐานไม่ชัดเจน โดยความจริงคือ ตนเป็นเจ้าของตัวจริง ไม่มีการก้มเก็บ หรือไปซื้อต่อจากคนอื่นนอกจากแม่ค้า และตนก็ไม่รู้ว่าพยานที่อ้างนี้เอาจากไหนมาพูด อย่างไรก็ดี ฝั่งตนก็มีหลักฐานที่ยังไม่ได้เปิดเผยเพื่อจะต่อสู้คดีต่อไป
ประเด็นที่อีกฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าทำไมตนจำแม่ค้าไม่ได้ ร.ต.ท. จรูญ วิมูล ยอมรับว่า ก็สามารถมองได้ โดยตนรู้แค่ว่าเป็นผู้หญิง เพราะในตอนนั้นคิดแต่จะเลือกเลขที่สนใจ ที่จริงวันดังกล่าวไม่ได้ตั้งใจไปซื้อลอตเตอรี่แต่จะไปซื้อกับข้าวที่ตลาด แต่เกิดความอยากซื้อเลขซึ่งเป็นวันสำคัญของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งพอไปซื้อแม่ค้าก็บอกว่าเลขนี้กำลังดัง บอกว่ามี 5 ใบ ราคา 700 บาท จากนั้นก็ซื้อกับข้าวและกลับบ้าน ไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวอะไรตามมา
กรณีที่อีกฝั่งมีพยานกว่า 40 คนนั้น ร.ต.ท. จรูญ ยืนยันว่า ไม่เชื่ออย่างแน่นอน เพราะวันที่ไปซื้อมีแม่ค้าไม่กี่คน ที่ผ่านมาตนอยากได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ก็ไม่มีใครหาได้ และไม่กังวลถ้ามีคลิปใด ๆ เพราะตนเป็นฝ่ายตามหามานานแล้ว เชื่อว่าอีกฝ่ายรู้อยู่แก่ใจว่าใครโกหก ไม่เครียดถ้ามีใครต้องติดคุก เพราะตนมั่นใจว่าเป็นฝ่ายถูก ที่ผ่านมาตนพร้อมให้ตรวจทุกอย่างทั้งดีเอ็นเอ และเครื่องจับเท็จ แต่ก็ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายทำไมถึงไม่เข้าเครื่องจับเท็จ
ร.ต.ท. จรูญ ระบุว่า เรื่องที่อยากมาเปิดเผยนั้น คือ ในวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 ตนเตรียมจะไปสาบานที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เวลา 10.00 น. เพื่อความบริสุทธิ์ใจ และขอท้าฝั่งครูปรีชา พยาน และตำรวจที่เรียกตนไปในวันแรก ให้มาด้วยถ้ามั่นใจว่าพูดจริง บริสุทธิ์ใจจริง ๆ โดยมาสาบานว่า ใครพูดจริงขอให้มีความเจริญ แต่ถ้าใครโกหกขอให้ครอบครัวล่มจม ติดคุกติดตะราง
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้, ทวิตเตอร์ @BrightTV20