เผยผลชันสูตรคดี 2 นักศึกษาไทย ดับที่สหรัฐฯ อาจเป็นการฆ่ากันเองและฆ่าตัวตายตาม หลังไม่พบคนร้ายหลบหนี ญาติรับอาจเป็นปัญหาส่วนตัว-หึงหวง
กรณีที่มีการยืนยันแล้วว่านักศึกษาไทยที่ถูกแทงเสียชีวิตในอพาร์ตเมนต์
เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา คือ น.ส.กรกมล หลีนวรัตน์
หรือแอ๋ม และ น.ส.ฐิฏิอร โชติช่วงทรัพย์
โดยทั้งคู่เสียชีวิตในห้องพักเลขที่ 4423
ของอพาร์ตเมนต์ที่ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เบื้องต้นพบว่า
น้องแอ๋ม กำลังเรียนปริญญาโทอีกใบ และเพิ่งเดินทางมาเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม
ที่ผ่านมา นั้น (อ่านข่าว : ยืนยันแล้ว น้องแอ๋ม สาว ป.โท ถูกแทงดับพร้อมรูมเมตสาวทอม ที่อเมริกา)
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 5 กันยายน 2561 เว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ผลการชันสูตรเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ไม่มีผู้ต้องสงสัยเด่นชัด ซึ่งอาจจะสื่อได้ว่าคดีนี้น่าจะเป็นการฆาตกรรมแล้วฆ่าตัวตายตาม ซึ่งสอดคล้องกับสื่อท้องถิ่นที่ระบุว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีคนร้ายหลบหนีไปแต่อย่างใด
ด้าน นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ในฐานะอาของ น้องแอ๋ม เปิดเผยว่า ทางครอบครัวได้ประสานไปยังสถานทูต รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอรับร่างของ น้องแอ๋ม กลับมาบำเพ็ญกุศล ที่วัดนาบุญ ต.รังสิต อ.ธัญบุรี ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่า ทางการสหรัฐฯ จะส่งร่างน้องแอ๋มกลับมาไทยได้เมื่อใด เพราะต้องรอขั้นตอนของทางตำรวจ คือต้องรอให้มีการตรวจชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดก่อน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
สำนักข่าว INN
เว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 5 กันยายน 2561 เว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ผลการชันสูตรเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ไม่มีผู้ต้องสงสัยเด่นชัด ซึ่งอาจจะสื่อได้ว่าคดีนี้น่าจะเป็นการฆาตกรรมแล้วฆ่าตัวตายตาม ซึ่งสอดคล้องกับสื่อท้องถิ่นที่ระบุว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีคนร้ายหลบหนีไปแต่อย่างใด
ด้าน นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ในฐานะอาของ น้องแอ๋ม เปิดเผยว่า ทางครอบครัวได้ประสานไปยังสถานทูต รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอรับร่างของ น้องแอ๋ม กลับมาบำเพ็ญกุศล ที่วัดนาบุญ ต.รังสิต อ.ธัญบุรี ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่า ทางการสหรัฐฯ จะส่งร่างน้องแอ๋มกลับมาไทยได้เมื่อใด เพราะต้องรอขั้นตอนของทางตำรวจ คือต้องรอให้มีการตรวจชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดก่อน

ภาพจาก ข่าวเวิร์คพอยท์
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ยังไม่สามารถตอบได้เช่นกัน
แต่เบื้องต้นคาดว่าอาจจะมาจากปัญหาส่วนตัวหรือปมหึงหวง
ซึ่งส่วนนี้จะต้องรอการตรวจสอบของตำรวจอย่างเป็นทางการต่อไป ทั้งนี้
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า น้องแอ๋ม เป็นเด็กเรียนดี ซึ่งทางคุณพ่อน้องแอ๋ม ค่อนข้างคาดหวังกับลูกสาวคนนี้ไว้มาก
โดยมีการวางแผนอนาคตว่าหากสำเร็จการศึกษาจากอเมริกาแล้ว
น้องแอ๋มจะกลับมาสอบเป็นผู้พิพากษาที่ประเทศไทย โดยหลังเกิดเหตุ
ทำให้ครอบครัวเสียใจเป็นอย่างมาก
นายกฤษฎา บอกอีกว่า เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา พบว่าพี่ชายของน้องแอ๋มได้พยายามติดต่อ แต่ไม่สามารถติดต่อน้องแอ๋มได้เลย จากที่ปกติเจ้าตัวมักจะรับโทรศัพท์ หรือไม่ก็ติดต่อกลับเสมอ ทำให้เป็นกังวล แต่เริ่มแรกก็พยายามมองในแง่ดีว่าน้องแอ๋มอาจจะเดินทางไปเที่ยวกับเพื่อน ในช่วงวันหยุดยาว ตนจึงติดต่อให้ลูกสาวของตนเดินทางไปตรวจสอบ ควบคู่กับแจ้งตำรวจ โดยเมื่อตำรวจไปตรวจสอบครั้งแรกแต่ไม่ได้เปิดประตูห้องเข้าไปไม่พบความผิดปกติ จึงเดินทางกลับ จนเรื่องเริ่มมาชัดเจนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพราะเป็นวันเปิดเรียนตามปกติ แต่กลับพบว่าไม่ได้เดินทางไปเรียน จากปกติที่เป็นเด็กเรียนดี ขยัน ไม่เคยขาดเรียน ทำให้ทางมหาวิทยาลัยโทรศัพท์มาสอบถามทางอพาร์ตเมนต์ ก่อนพบศพของทั้งคู่
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายเคยเปรยกับคนใกล้ชิดว่า รูมเมตที่อาศัยอยู่ด้วยนั้นเป็นทอมและมีนิสัยหึงหวง แต่ทั้งนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาส่วนตัวหรือไม่
นายกฤษฎา บอกอีกว่า เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา พบว่าพี่ชายของน้องแอ๋มได้พยายามติดต่อ แต่ไม่สามารถติดต่อน้องแอ๋มได้เลย จากที่ปกติเจ้าตัวมักจะรับโทรศัพท์ หรือไม่ก็ติดต่อกลับเสมอ ทำให้เป็นกังวล แต่เริ่มแรกก็พยายามมองในแง่ดีว่าน้องแอ๋มอาจจะเดินทางไปเที่ยวกับเพื่อน ในช่วงวันหยุดยาว ตนจึงติดต่อให้ลูกสาวของตนเดินทางไปตรวจสอบ ควบคู่กับแจ้งตำรวจ โดยเมื่อตำรวจไปตรวจสอบครั้งแรกแต่ไม่ได้เปิดประตูห้องเข้าไปไม่พบความผิดปกติ จึงเดินทางกลับ จนเรื่องเริ่มมาชัดเจนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพราะเป็นวันเปิดเรียนตามปกติ แต่กลับพบว่าไม่ได้เดินทางไปเรียน จากปกติที่เป็นเด็กเรียนดี ขยัน ไม่เคยขาดเรียน ทำให้ทางมหาวิทยาลัยโทรศัพท์มาสอบถามทางอพาร์ตเมนต์ ก่อนพบศพของทั้งคู่
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายเคยเปรยกับคนใกล้ชิดว่า รูมเมตที่อาศัยอยู่ด้วยนั้นเป็นทอมและมีนิสัยหึงหวง แต่ทั้งนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาส่วนตัวหรือไม่

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Weerasak Leenavarat
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
สำนักข่าว INN
เว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์