ฆ่ายกครัวหอมชง 3 ศพ ตำรวจคุม สิริชัย เพิ่มพูนศักดิ์ มือปืนไปทำแผน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  ข่าวสด

         ฆ่ายกครัวหอมชง 3 ศพ ล่าสุด สิริชัย เพิ่มพูนศักดิ์ มือปืนเผยได้ค่าจ้างจาก กิตตินันท์ หอมชง 1 ล้านบาท โดยมือฆ่ายกครัวหอมชง 3 ศพ ยันไม่รู้ว่าเป็นพ่อแม่และพี่ของคนจ้าง ด้านตำรวจคุมตัวทำแผนแล้ว

         จากกรณีคนร้ายฆ่ายกครัว 3 ศพ คือ ร.ต.ท.ธรรมนัฐ หอมชง ร้อยเวร สน.ตลิ่งชัน นรต.รุ่น 66 ลูกชาย ที่ถูกยิงพร้อม  พ.อ.วิชัย หอมชง และนางวนิดา หอมชง พ่อและแม่ คาบ้านพักย่านบางแค เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 3 เมษายน 2557 ต่อมาตำรวจสืบสวน กระทั่ง กิตตินันท์ หอมชง อายุ 22 ปี ลูกชายคนเล็ก ให้การรับสารภาพว่า ร่วมมือกับเพื่อนชายคนสนิทเป็นผู้วางแผนสังหารพ่อ แม่ และพี่ชาย  เพื่อหวังฮุบมรดก

         ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมทีมสังหารฆ่ายกครัว 3 ศพ ได้เพิ่มอีก 3 รายคือ นายศักรินทร์ หรือกอล์ฟ พันธกุล อายุ 22 ปี เพื่อนชายคนสนิท นายฉลาด หรืออาจารย์ป๊อด เที่ยงธรรม อายุ 53 ปี คนขับรถแท็กซี่คอยรับส่งมือปืน และนายสุระพงษ์ หรือจ่าแอ๊ด ชูพันธ์ อายุ 47 ปี มือปือที่คอยระวังหลังให้กับมือปืนอีกราย และยังเหลือนายสิริชัย หรือป้อม เพิ่มพูนศักดิ์ มือปืนผู้ลงมือยิงอีก 1 คน ที่ยังหลบหนีอยู่ ทำให้ตำรวจต้องตั้งรางวัลนำจับ 5 แสนบาท  ก่อนที่ผู้ต้องหาจะเข้ามอบตัว

         จากนั้น เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 6 เมษายน 2557 นายสิริชัย เพิ่มพูนศักดิ์ 1 ในผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ ฆ่ายกครัว 3 ศพ เข้ามอบตัวกับตำรวจสืบสวน นครบาลสุทธิสารแล้ว พร้อมยอมรับว่า ฆ่ายกครัวครอบครัวหอมชง จริง

         ล่าสุดวันนี้ (7 เมษายน 2557) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำตัว นายสิริชัย เพิ่มพูนศักดิ์ หรือ ป้อม อายุ 42 ปี มือปืนที่ก่อเหตุฆ่ายกครัว 3 ศพ ครอบครัวหอมชง มาแถลงข่าว โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า นายป้อมมีประวัติเคยต้องโทษคดีฆ่าคนตาย ท้องที่ สน.ดินแดง ถูกตัดสินจำคุก 12 ปี ต่อมาต้องโทษคดียาเสพติด และคดีชิงทรัพย์ ออกจากคุกเพิ่งออกมาเมื่อปี 55 กระทั่งมาเป็นมือปืนรับจ้าง 

         ทางด้าน สิริชัย เพิ่มพูนศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจาก กิตตินันท์ หอมชง ลูกชายคนเล็กของผู้ตาย ให้สังหารครอบครัวของ นายกิตตินันท์ เอง โดยการติดต่อจาก นายป๊อด และนายกอล์ฟ ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ โดยอ้างว่าจะให้ค่าจ้างเป็นรถยนต์ พระเลี่ยมทอง และเงินอีกจำนวนหนึ่ง มีการวางแผนกันประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนลงมือ ซึ่งตนลงมือยิงเพียงคนเดียว มี นายแอ๊ด และนายป๊อด เป็นคนดูต้นทาง และชี้เป้าเหยื่อ ส่วนรายละเอียดข้อมูลภายในบ้านทั้งหมด นายศักรินทร์เป็นคนอธิบาย และเอากุญแจมาให้เปิดเข้าบ้าน

         คืนเกิดเหตุ นายสิริชัย เพิ่มพูนศักดิ์ เผยว่า ได้เข้าไปภายในบ้าน ลงมือยิงลูกชายซึ่งเป็นตำรวจก่อน จากนั้นขึ้นไปยิงแม่ และพ่อตามลำดับ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านอินทามระ และที่ตัดสินใจเข้ามอบตัว เพราะมารู้ภายหลังว่า ลูกชายจ้างฆ่าพ่อ แม่ ก็รู้สึกเสียใจจึงให้ทนายความพาเข้ามอบตัวดังกล่าว

         ขณะที่มีรายงานว่า ก่อนที่ นายสิริชัย เพิ่มพูนศักดิ์ จะเข้ามอบตัวนั้น ตำรวจรู้ว่า นายสิริชัย หลบอยู่ที่บ้านเพื่อนในซอยอินทามระ ย่านสุทธิสาร และนำกำลังไปโอบล้อมพื้นที่เป้าหมายเตรียมเข้าปิดล้อมจับกุมตอนรุ่งเช้าแต่ นายสิริชัย พร้อมทนายความ เดินทางเข้ามอบตัวต่อก่อนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจู่โจมเข้าจับกุม



         จากนั้น ในช่วงบ่าย ตำรวจได้คุมตัว นายสิริชัย มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายในบ้านเลขที่ 1279 ถ.กาญจนาภิเษก ย่านบางแค ที่ผู้ต้องหาเข้ามาก่อเหตุยิงผู้ตาย โดยจุดที่แรกคือจุดที่ยิง ร.ต.ท.ธนัตถ์พง หรือ ธรรมณัฐ หอมชง พี่ชายของ นายกิตตินันท์ หอมชง จุดที่ 2 จุดยิง นางวนิดา หอมชง มารดาที่ห้องพักชั้นล่าง และจุดที่ 3 คือจุดที่ยิง พ.อ.วิชัย หอมชง บนห้องนอนชั้น 2 ซึ่งทั้ง 3 ศพ นายสิริชัย ให้การว่าได้ใช้หมอนกดทับที่ศีรษะก่อนลงมือจ่อยิง และเมื่อลงมือก่อเหตุเสร็จแล้วก็ได้ออกมาขึ้นรถแท็กซี่ ที่ทางนายฉลาด หรือ ป๊อด เที่ยงธรรม มาจอดรอห่างจากบ้านประมาณ 30 เมตร เพื่อหลบหนี

         ด้าน พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า คดีนี้ถือว่าเป็นคดีฆาตกรรมที่สามารถปิดคดีได้อย่างสมบูรณ์ โดยสามารถติดตามอาวุธปืนของกลางกลับมาได้ และมือปืนก็ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้ปืนก่อเหตุยิงทั้ง 3 ส่วนแรงจูงใจเชื่อว่า นายกิตตินันท์ บุตรชายคนเล็กของครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง เพราะคาดหวังว่า หากพ่อแม่ และพี่ชาย เสียชีวิต จะได้รับมรดกในอนาคต โดยนำที่ดินไปขาย
        
          ทั้งนี้ ตลอดการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีญาติของผู้ตายจำนวนหนึ่งมาดูการทำแผนในครั้งนี้ด้วย แต่ตำรวจไม่อนุญาตให้เข้ามาภายในบ้านแต่อย่างใด








อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก