รวบแล้ว หนุ่มบ้ากามโดดขวางรถแม่ลูก บังคับอมนกเขา

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  ข่าวสด

           รวบแล้ว หนุ่มบ้ากามกระโดดขวางรถสาวแม่ลูกอ่อน บังคับอมนกเขาสำเร็จความใคร่ รับสารภาพเมาแล้วเกิดอารมณ์

           สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2557 มีชายบ้ากามกระโจนเข้าขวางรถจักรยานยนต์ของ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ขณะเดินทางกลับบ้านในหมู่บ้านโนนจำปาทอง จ.บึงกาฬ จนเป็นผลให้รถเสียหลักล้มคว่ำ น.ส.บี และลูกชายวัย 11 เดือน ได้รับบาดเจ็บ ก่อนชายคนดังกล่าวจะวิ่งมานั่งคร่อมและควักอวัยวะเพศออกมาโชว์ บังคับให้ น.ส.บี อมนกเขาเพื่อสำเร็จความใคร่ให้ แต่โชคดีมีผู้ปั่นจักรยานผ่านมาคนร้ายจึงรีบวิ่งหนีหายเข้าป่าไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกคำสั่งเร่งตามจับกุมตัวคนร้ายมารับโทษ เนื่องจากเป็นคดีเขย่าขวัญหญิงสาวที่ขับขี่ยวดยานพาหนะบนถนนนั้น

           ล่าสุด วันนี้ (9 กันยายน 2557) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงโขงหลง และ สภ.โสกก่าม จ.บึงกาฬ ร่วมกันจับกุม นายสมเพชร แก้วบริบัตร อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุดังกล่าวได้แล้ว พร้อมหลักฐานเป็นเสื้อยืดกางเกงวอร์มที่ใส่วันเกิดเหตุ โดยเจ้าตัวรับสารภาพว่าดื่มเหล้าเมาแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ พบผู้เสียหายขับรถผ่านมาพอดีจึงก่อเหตุดังกล่าว ขณะที่ น.ส.บี ได้เดินทางมายืนยันและชี้ตัวผู้ต้องหาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายสมเพชรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดก่อเหตุ

           โดยนายสมเพชรให้การว่า บ่ายวันเกิดเหตุ (7 กันยายน) ตนได้ไปซื้อเหล้าขาวที่ร้านขายของข้างทางในหมู่บ้านมาดื่ม 2 เป๊ก จนมีอาการมึนเมา จากนั้นได้เดินกลับบ้านแต่ระหว่างทางเกิดอารมณ์ทางเพศ เห็นผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์มาคนเดียว มองไม่เห็นว่าอุ้มลูกอยู่ จึงเข้าไปขวางทางให้หยุดรถเพื่อทำอนาจาร แต่รถเสียหลักล้มลง ขณะที่ น.ส.บี ก้มลงจะอุ้มลูกที่หลุดจากมือนั้น ตนก็ได้วิ่งไปนั่งคร่อมที่ด้านหลังเบาะแล้วโชว์อวัยวะเพศ พร้อมสั่งให้ น.ส.บี อมนกเขาเพื่อสำเร็จความใคร่ แต่มีคนมาพบเสียก่อน จึงวิ่งหนีเข้าไปในป่าสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง แล้วหลบหนีไปอยู่บ้านจนถูกตำรวจตามจับได้ดังกล่าว

           ด้าน พล.ต.ต. ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.ภ.จ.บึงกาฬ กล่าวว่า หลังถูกจับกุมนายสมเพชรยังให้การวกวน คล้ายจะเป็นโรคประสาทอ่อน ๆ ซึ่งเมื่อดูจากประวัติก็พบว่าเคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชนครพนมมาแล้ว เมื่อดื่มสุราเข้าไปจนมึนเมาก็ยิ่งทำให้อารมณ์แปรปรวนควบคุมตัวเองไม่ได้ นับว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคม โดยเฉพาะต่อผู้หญิง ญาติหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องนำตัวไปรักษาอาการป่วย

           ทั้งนี้เบื้องต้นได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาทุกประเด็นตามพฤติกรรมที่ก่อเหตุ นอกจากข้อหากระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล ซึ่งยอมความไม่ได้ และอาจโดนข้อหาเจตนาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายบาดเจ็บแก่ร่างกายหรือจิตใจด้วย เพื่อเป็นเหตุส่งตัวไปรักษา ส่วนอัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่ เป็นดุลยพินิจของอัยการเอง แต่ตำรวจต้องตั้งข้อหาให้ครบทุกประเด็นไปก่อน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก