หลวงปู่พิมพ์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
หลวงปู่พิมพ์ วัดเวฬุวัน จ.ชัยภูมิ บอกอยู่ต่อได้อีก 15 ปี ไม่ยืนยันจะละสังขารอีกหรือไม่ ด้านจิตแพทย์รุดเยี่ยม หลวงปู่พิมพ์ ขอเวลาพูดคุย ยังไม่ฟันธงมีอาการทางจิต ขณะที่ตำรวจไม่ตั้งข้อหาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (11 กันยายน 2557) เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วย นพ.สกล ด่านภักดี จิตแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการ หลวงปู่พิมพ์ ที่โรงพยาบาลคอนสาร โดยหลวงปู่พิมพ์เปิดเผยว่า ขณะนี้รู้สึกสบายดี ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร ส่วนเมื่อวานนี้ เวลา 09.00 น. อาตมาได้เข้าฌานเพื่อถอดจิต ตั้งใจจะให้จิตดับไป แต่ครูบาอาจารย์มานิมิตว่าให้อยู่เพื่อทำนุบำรุงศาสนา บำรุงวัด ช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป อาตมาจึงตื่นขึ้น และรู้สึกปลาบปลื้มที่จะได้อยู่ต่อไป
หลวงปู่พิมพ์ ยังกล่าวต่อว่า ด้วยการรักษาศีลอาตมาคิดว่าได้ต่ออายุขัยให้คงอยู่อีก 15 ปี จนอายุครบ 80 ปีพอดี อย่างไรก็ตาม ในอีก 15 ปีข้างหน้าจะละสังขารอีกหรือไม่นั้นคงเป็นเรื่องของอนาคต
สำหรับกรณีที่มีคนส่วนหนึ่งรู้สึกว่าถูกหลอกนั้น หลวงปู่พิมพ์กล่าวว่า อาตมาไม่ได้หลอกใคร เคยบอกไว้กับทุกคนที่มาเยี่ยมว่าอาตมาตั้งใจปฏิบัติ ทำสมาธิ ถ้าให้มือปืนมายิงอาตมาก็ตายเหมือนกัน
ด้าน พล.ต.ต. พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ตนตั้งใจมาเยี่ยมหลวงปู่เท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ต้องการดำเนินคดีใด ๆ เนื่องจากไม่พบว่าเข้าข่ายความผิด ทั้งในเรื่องเงินบริจาค 2 แสนบาท เรื่องการบริหารกิจการวัด ทาง สภ.คอนสาร ได้เข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ไม่พบปัญหาใด ๆ
อย่างไรก็ตาม หมอทุกฝ่ายจะดูแลหลวงปู่พิมพ์เป็นพิเศษ เพื่อทำการรักษาต่อไป โดยเฉพาะอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ส่วนสิ่งที่หลวงปู่พูดคงไม่ไปสรุปว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ เรื่องจริงหรือไม่จริง อยู่ที่คนจะคิด แต่เพราะท่านเป็นพระผู้ใหญ่ของจังหวัด เราจึงต้องช่วยกันประคับประคอง ทางหมอและส่วนราชการก็จะช่วยทำให้กระจ่างชัดและคลี่คลายปัญหาได้
ขณะที่ นพ.สกล เผยว่า ต้องให้เวลาแพทย์ได้พูดคุยกับหลวงปู่พิมพ์ก่อน เพราะการคุยเพียงวันสองวันคงไม่สามารถระบุอาการป่วยทางจิตได้ และความคิดความเชื่อทางศาสนาก็เป็นเรื่องอ่อนไหวของสังคมไทย อยู่ในคนละฐานคิดกับวิชาการจิตเวช ตอนนี้จึงบอกไม่ได้ว่าหลวงปู่พิมพ์มีอาการป่วยทางจิต แต่ยืนยันจะให้การช่วยเหลือเต็มที่
ส่วนบรรยากาศที่วัดเวฬุวัน บรรดาศิษยานุศิษย์ที่มาปักหลักพักค้างแรมกันหลายร้อยคน ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ขณะนี้ค่อนข้างบางตา มีการทยอยเดินทางกลับไปแล้วเป็นจำนวนมาก เหลือเพียงชาวบ้านในพื้นที่เพียง 10 กว่าราย ด้านบนกุฏิของหลวงปู่พิมพ์ มีชาวบ้านบางส่วนนั่งจับกลุ่มคุยกันตามปกติ ขณะที่โลงไม้ของหลวงปู่พิมพ์ ได้ถูกถอดแยกชิ้นส่วนพับเก็บไว้บริเวณด้านข้างกุฏิเป็นที่เรียบร้อย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก