ลูกกตัญญู พาพ่ออัมพาตไปดูแลที่มหาวิทยาลัย
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณเรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
นักศึกษาหญิงยอดกตัญญู พาพ่อเป็นอัมพาตจากเหตุความไม่สงบในภาคใต้ ขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปเรียนหนังสือด้วยทุกวัน เพื่อจะได้ดูแลใกล้ชิด ด้านมหาวิทยาลัยหาดใหญ่มอบทุนช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2557 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า ได้รับแจ้งจากอาจารย์ชัยรัตน์ จุสปาโล คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และอาจารย์นที เหมันต์ อาจารย์ที่ปรึกษา ว่ามีนักศึกษาหญิงชั้นปี 1 เป็นเด็กกตัญญู พาบิดาที่ป่วยเป็นอัมพาตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้นั่งรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปเรียนหนังสือ เพื่อจะได้ดูแลพ่ออย่างใกล้ชิด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบ นางสาวสุนิดา อาลีน๊ะ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาการบัญชี คณะบริหารธุรกิจ เด็กสาวยอดกตัญญูคนดังกล่าว โดยทราบว่านางสาวสุนิดาต้องดูแลพ่อที่เป็นอัมพาตเพียงลำพัง เพราะมารดาเสียชีวิตไปตั้งแต่ที่เธอยังอายุได้เพียง 4 ขวบ ส่วนพี่น้องคนอื่นก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัว มีแวะเวียนมาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว
ทั้งนี้นางสาวสุนิดาได้เช่าบ้านอยู่ในอำเภอหาดใหญ่ ทุกครั้งที่มาเรียนหนังสือต้องพาพ่อขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาที่มหาวิทยาลัยด้วย เมื่อเรียนไปสัก 2 ชั่วโมงก็จะขออนุญาตอาจารย์ลงมาดูแลพ่อ เมื่อพักกลางวันก็จะหาข้าวหาน้ำให้พ่อทาน ทำเช่นนี้เป็นประจำ จนคนที่พบเห็นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเด็กกตัญญูมาก
ด้านนางสาวสุนิดา เล่าว่า ตอนนี้เธอต้องกู้เงินมาเรียน แต่ทราบมาว่าทางมหาวิทยาลัยจะให้เงินจำนวนหนึ่งไว้เป็นทุนการศึกษา ซึ่งเธอก็หวังจะเรียนให้จบ เพื่อจะได้ทำงาน หาเงินมาดูแลพ่อ
ขณะที่อาจารย์ชัยรัตน์ จุสปาโล คณบดีคณะบริหารธุรกิจ กล่าวว่า นางสาวสุนิดาเป็นเด็กที่ดีมาก ไม่ทอดทิ้งผู้ปกครองที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ นำผู้ปกครองมาดูแลในช่วงที่เรียนหนังสือด้วย ซึ่งขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยจะช่วยประสานงานกับกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ให้ช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษาให้ ส่วนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทางมหาวิทยาลัยก็จะจัดสรรทุนให้ เพื่อเติมเต็มให้ครบจำนวนจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ทั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยไม่ถือว่าเป็นภาระอะไร แต่คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีงามที่เกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยหาดใหญ่เสียด้วยซ้ำ