วิทิต แลต เผยเหตุการณ์ชอตต่อชอต จากข่าวฉาวลวงหญิงแคสติ้ง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เอ วิทิต แลต เปิดใจประเด็นฉาว ในวู้ดดี้เกิดมาคุย โดย เอ วิทิต แลต ย้ำชัด นักศึกษาสาวสมยอม

          เป็นข่าวครึกโครมที่กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว สำหรับกรณีที่ 5 นักศึกษาสาวเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา ว่าพวกเธอนั้นถูก "ภาม รังสี" ผู้กำกับชื่อดัง และ "เอ วิทิต แลต" ดาวร้ายมากฝีมือของวงการบันเทิง หลอกแคสติ้งภาพยนตร์ แต่แท้จริงแล้วลวงเธอไปทำมิดีมิร้าย..

          แต่ทั้งนี้ วิทิต แลต ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและก็ออกมาให้ข่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ยิ่งกว่าหนังคนละม้วน... เพราะไม่ใช่พวกเขาล่อลวงเธอมา แต่จริง ๆ แล้วพวกเธอเต็มใจ แถมเรื่องอย่างว่านั้น พวกเธอเป็นคนเริ่มก่อนเสียด้วย โดยล่าสุด เมื่อวานนี้ (16 พฤศจิกายน 2557) วิลิต แลต ก็ขอเล่าเหตุการณ์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวแบบชอตต่อชอต ละเอียดยิบทุกฉากผ่านรายการ "วู้ดดี้ เกิดมาคุย" ให้ได้ชมกัน

          โดยพิธีกรเปิดประเด็นว่า ส่วนมากพี่เอ วิทิต รับบทแต่พวกคนร้าย บ้างก็โรคจิต บ้ากาม จริง ๆ แล้วเป็นอย่างในละครหรือเปล่า ด้านวิทิต แลต เผยว่า คนส่วนมากถ้าไม่ได้รู้จักตนจริง ๆ ก็คิดว่าตนเป็นคนแบบนั้น ภาพลักษณ์ดูร้าย ดูเจ้าชู้ อย่างเช่นเวลาไปร้านเหล้า พวกเด็กเสิร์ฟก็มักจะมาเสิร์ฟเขาก่อน ทั้ง ๆ ที่เขาไม่กินเหล้า ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เลย ไม่เสพยา ไม่เคยมอมเหล้าสาว มีแต่สูบบุหรี่เท่านั้น

          สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น วิทิต แลต เล่าว่า เป็นวีคที่หนักมากสำหรับเขา ทุกอย่างมันพลาดเพราะอารมณ์สนุกแค่ชั่ววูบ เป็นธรรมชาติของผู้ชาย แต่ไม่ใช่ของผู้ชายทุกคน ถ้าถามว่าตั้งใจจะกระทำอนาจารโดยใช้ "แคสติ้ง" มาบังหน้าหรือไม่นั้น ตนไม่ได้คิดเลย ปกติตนก็เที่ยวผู้หญิงบ้าง แต่หลังจากแต่งงานและมีลูกตนก็หยุด ไม่มีปัญหาสำส่อน ไม่เคยหลอกใครทั้งสิ้น

         เอ วิทิต แลต ขอเล่าถึงเหตุการณ์ทั้งหมดว่า.. ตนกับภามเป็นเพื่อนกัน ก่อนหน้านี้ภามบอกว่า เขามีทีมตัดต่อที่บางแสน ซึ่งทีมงานเป็นน้อง ๆ นักศึกษาเลยตัดสินใจเปิดห้องที่นั่น จะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา ส่วนตนก็อยากมาดูว่าเรื่อง "เศียรสยอง" ที่ถ่ายทำไปนั้น ตัดต่อถึงไหนแล้ว เพราะเป็นหนังเรื่องแรกในรอบ 10 ปี ที่ตนรับเล่น เลยอยากจะดูก่อน และเมื่อไปถึงภามก็บอกว่าวันนี้มีการแคสติ้งนักแสดงนะ ที่โรงแรม ตนบอกได้เลยว่า ตอนนั้นตนไม่คิดว่าจะมีเรื่องเซ็กส์หรือเรื่องอะไรมาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น

         จากนั้น เอ วิทิต แลต ก็ขับรถไปที่บางแสน ซึ่งภามบอกว่าได้นัดน้อง ๆ ไว้ที่ร้านอาหาร พอตนไปถึงก็พบ ภามและน้อง ๆ ผู้หญิง 6 คน ส่วนตนก็แวะเข้าไปทักทาย แต่ในร้านนั้นตนเจอเพื่อนก็เดินไปเดินมาระหว่างโต๊ะ ไม่ได้คุยกับเป็นกิจจะลักษณะเท่าไร แต่ตนได้ยินชัดเจนนะ ว่าภามบอกน้อง ๆ ว่าจะพาไปแคสติ้งที่โรงแรม กับบทอีโรติก ซึ่งมีการถอดเสื้อผ้า มีการเปลือยร่างกายกันด้วย

         วิทิต แลต กล่าวต่อว่า น้อง ๆ ทุกคนไม่เคยผ่านงานแสดงมาก่อน แต่น่าจะเป็นพริตตี้เพราะสวยทุกคนเลย  ส่วนภามก็อธิบายต่อว่า ตอนแคสติ้งต้องทำอย่างนี้ อย่างนั้น ต้องต่อบทกับตน โดยให้ตนเป็นสแตนอิน ซึ่งน้องก็โอเค บอกย้ำอีกทีว่าเปลื้องผ้าหมดนะ น้องก็โอเคอีก ไม่มีไม่พอใจอะไร 
 
        ถ้าถามว่าตอนนั้นได้กลิ่นหรือยังว่าอาจจะไม่ใช่พวกนักศึกษาที่มาแคสติ้งงานธรรมดา ๆ ด้าน เอ วิทิต แลต กล่าวว่า ตนว่า 50/50  ส่วนความรู้สึกตนตอนนั้นยังไม่ได้อยากมีอะไรด้วย เพราะในใจก็ก้ำกึ่ง ๆ ยังไม่แน่ใจหลายอย่าง ซึ่งหลังจากออกจากร้านอาหาร ก็จะตรงไปกันที่ผับก่อน เพราะจะไปทำความคุ้นเคย ไปวอร์มอัพทำความรู้จักกันก่อน แต่ระหว่างทางที่ไปนั้น เราแบ่งรถไป 2 คัน คันแรกน้อง ๆ ขับไปกัน 4 คน เป็นผู้หญิงหมดเลย ส่วนอีกคันตนไปกับภามและน้องผู้หญิงอีก 2 คน พอกำลังจะขึ้นรถ ภามก็ให้น้องผู้หญิงคนหนึ่งนั่งกับเขา และให้น้องอีกคนหนึ่งมานั่งข้างหลังกับตน

         "ระหว่างที่เดินทางไปผับ ก็ขับรถไปกัน พอถึงตรงเขาสามมุก ซึ่งตรงนั้นก็เป็นถนนเส้นใหญ่และค่อนข้างเปลี่ยว คุณภามก็จอดรถ และบอกว่าเดี๋ยวเราจะลองทำการแคสติ้งดูก่อน ในใจผมคืออึ้งมาก แต่ก็ไม่ได้ตกใจมากเท่าไร สักพักคุณภามก็บอกว่าให้น้องลองบทดูก่อน ฉากนี้จะเป็นฉากปลุกอารมณ์ ลองให้น้องมาปลุกอารมณ์พี่เอดู น้องเขาไม่ค้านเลย เขาโอเค ถ้าเขาไม่แฮปปี้เขาก็ต้องบอกซิ ต้องพูดซิ ไม่ใช่แล้ว หนูจะกลับ อะไรก็พูดไป แต่นี่เขาก็เล้าโลม คุณภามบอกให้เขาถอดกระโปรง เขาก็ถอดแต่โดยดี แถมยังบอกด้วยว่า 'ให้หนูถอดกางเกงในด้วยไหมค่ะ' คุณภามก็บอกว่าถอดซิ เขาก็ถอด..." วิทิต แลต กล่าว

          หลังจากนั้น วิทิต แลต ก็บอกว่า ตนตกใจแล้วตอนนั้น เกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้ แต่ตนก็นิ่งไม่มีการกอดจูบลูบคลำ ไม่มีจับ ๆ อะไรทั้งนั้น ปล่อยให้น้องเขาทำไป จากนั้นคุณภามก็บอกว่า 'ไหนลองปลุกอารมณ์พี่เอซิ' น้องเขาก็รูดซิปกางเกงตน แล้วยังบอกด้วยว่า เข็มขัดถอดยากเหลือเกิน.. จากนั้นน้องเขาก็ออรัลเซ็กส์ให้ ซึ่งตนก็เริ่มมีอารมณ์แล้ว ความใคร่มาล้วน ๆ ไม่ได้นึกผิดชอบชั่วดีอะไร (ทำไมไม่ปัดหัวน้องออกบอกไม่เอาล่ะ) ใครปัดหัวน้องตอนนั้น ก็ควายแล้ว..
 
         "ตรงนั้นและตอนนั้น รู้แล้วล่ะว่าจะต้องมีเพศสัมพันธ์กันแน่ ๆ เพราะถ้าหลอกเด็ก เด็กจะยอมทำไหม ไม่แฮปปี้จะทำทำไม มันเริ่มไม่ใช่ตั้งแต่ถอดกระโปรงออกแล้ว แล้วยังขึ้นคร่อมอีก แต่ผมบอกว่าไม่ดีมั้ง ต้องใส่ถุงยางนะ เลยขอหยุดไว้ก่อน ตอนนั้นยังไม่เสร็จกิจ พอบอกว่าต้องใช้ถุงยาง น้องเขาก็ยกตัวออก แล้วผมก็บอกว่าไปแวะซื้อที่เซเว่นแป๊บหนึ่ง" วิทิต แลต กล่าว
  
         ส่วนภามกับน้องผู้หญิงที่นั่งข้างหน้า เขาทำอะไรไม่รู้ ตนมองแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น ไม่ได้สนใจเรื่องอื่นเลย จากนั้นเราก็ไปที่ผับต่อ ตนก็เริ่มชวนคุย ในใจรู้แล้วว่าจะต้องได้น้องคนนี้ ก็ถามทำงานที่ไหน มีแฟนหรือยัง ซึ่งน้องก็บอกว่าพรุ่งนี้ต้องไประยอง ยังไม่มีแฟน แต่ในผับนั้นไม่มีการจูบปากนัวเนียอะไรแน่ ๆ พูดคุยปกติ แล้วจนถึงวันนี้ ตนก็ยังไม่รู้เลยว่า น้องคนนั้นชื่ออะไร

         สักพักพอกินดื่มจนเสร็จ ก็จะไปแคสติ้งต่อ (น้องเขายังเชื่ออีกเหรอว่าแคสติ้ง) ก็นั่นไง คือตรงนี้มันก็ไม่น่าใช่แล้ว มันไม่มีแคสติ้ง มันมีแต่ฟีจเจอร์ริ่งแน่ ๆ แต่หลังจากนั้นน้องผู้หญิง 4 คน ก็อ้างว่าติดธุระ ติดเรียนเช้า ติดงานเช้า ก็แยกย้ายกันไป เหลือเพียงตนกับภามและน้องผู้หญิงที่มาด้วยกันรวมทั้งหมด 4 คน

         พอตัดสินใจว่าจะไปแคสติ้งกันต่อ ตนก็พาน้องผู้หญิง 2 คนนั้นไปที่โรงแรม เพื่อไปดูห้องตัดต่อก่อน ส่วนภามไปส่งน้อง ๆ ที่เหลือ ซึ่งระหว่างรอ ตนก็พาเข้าห้องตัดต่อ พาไปดูบอกเขาว่า นี่นะหนังที่พี่เล่น ตอนนั้นตนรู้สึกว่า ยังไงก็ต้องมีเพศสัมพันธ์แน่ ๆ พอสักพักภามก็มา ก็พาไปที่ห้องแคสติ้ง ห้องนั้นไม่มีกล้อง ไม่มีไฟ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คือถ้าน้องคิดว่าโดนหลอกจริง ๆ อายุ 23-24 นี่ไม่เอะใจบ้างเหรอ อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้เหรอ ยอมออรัลเซ็กส์ให้นี่คือรู้เท่าไม่ถึงการณ์เหรอ

         "ผมยังไม่ถอด แต่น้องเขาถอดหมดเลย ในข่าวบอกว่าผมแก้ผ้าแล้วกระโดดหาน้อง แต่จริง ๆ แล้วผมต่างหากที่โดนลวนลามก่อนตั้งแต่ในรถ พอน้องเขาแก้ผ้า ภามก็บอกว่าให้เล่นเป็นผีแล้วมามีอะไรกับพี่เอ ผมก็ยืนอยู่เฉย ๆ เขาก็เข้ามาเริ่มแกะกระดุม.. แล้วก็มีเสียงเคาะประตู ปัง ปัง ปัง เสียงดังมาก ผมตกใจมาก ในใจก็เชรดดดดด ต้องมีอะไรแน่ ๆ ต้องเป็นแฟนใครคนใดคนหนึ่งแน่ ๆ จังหวะนั้นติดกระดุมแล้วกระโดดออกประตูสไลด์ข้างหลัง แล้วขับรถหนีไปแล้ว ตัวใครตัวมัน" วิทิต แลต กล่าว

          นักแสดงหนุ่ม ยังกล่าวต่อว่า พอขับรถไปสักพัก ก็ไปจอดที่เซเว่นที่ซื้อถุงยางเพื่อดูลาดเลา และรอโทรศัพท์จากภาม เพราะยังไงภามก็ต้องโทรมาแน่ ๆ แล้วภามก็โทรมาจริง ๆ บอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนของน้องที่อยู่กับภาม ส่วนภามก็กำลังหนีอยู่ แล้วรีบวางโทรศัพท์บอกว่ากำลังขับรถ ถ้าถามคนคือภาพที่เห็นมันก็มองไปในทางล่อลวงได้ ถ้าเปิดประตูมาเจอแฟนไม่ใส่เสื้อผ้าอะไรเลยกับผู้ชาย มันก็ต้องคิดแบบนั้นอยู่แล้ว

          วิทิต แลต กล่าวต่อว่า ตนก็ไม่รู้ว่าภามกับแฟนของน้องคนนั้นมีอะไรกันยังไง เพราะตนตกใจ เรียกได้เลยว่าปอดมาก หนีออกมาก่อน สักพักภามก็โทรมาบอกว่าผู้ชายของน้องคนนั้นกำลังตามมา เลยตัดสินใจจะย้ายของออกจากโรงแรม จากบางแสนจะย้ายมาอยู่ในตัวเมืองชลบุรี แล้วภามยังบอกอีกว่าโดนไล่ล่ามาไม่รู้พวกนั้นมีปืนหรือเปล่า ตนก็บอกให้ภามขับรถไปสถานีตำรวจเลย แล้วไปเจอกันที่นั่น ส่วนตนก็เปิดจีพีอาร์เอส เพื่อไปยังสถานีตำรวจ แต่ภามก็โทรมาอีกบอกว่า เขาพลาด เขาขับรถเลี้ยวผิดไปทางตลาด ซึ่งมันเป็นทางตัน เจอแก๊งผู้ชายนั้นคุมตัวไว้และยึดกุญแจรถ ให้มาช่วยหน่อย ตนก็ขับรถไปสถานีตำรวจ เมื่อไปถึงก็ตะโกนบอกว่า มีเรื่อง มีคนกำลังจะโดนรุม ให้ตามมาที่นี่ ๆ พร้อมกับให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ ส่วนตนก็ขับไปหาภามเพื่อไปช่วย

         และเมื่อไปถึงก็พบว่ามีผู้ชาย 4-5 คนกำลังรุมล้อมภามอยู่ เราก็บอกว่าไปเคลียร์กับที่โรงพักดีกว่า แต่เขาก็โวยวายเสียงดังมาก ตนก็บอกว่านี่แจ้งตำรวจแล้ว กำลังมา เขาก็แจ้งตำรวจของเขาเหมือนกัน สักพักตำรวจฝ่ายเขามาเป็นตำรวจสายตรวจ ต่อมาตำรวจชลบุรีที่ตนไปแจ้งความก็ขับกระบะมา ก็บอกว่าเดี๋ยวเราไปคุยกันที่โรงพักดีกว่า
 
          พอไปถึงสถานีตำรวจ ตำรวจก็พาแยกห้องตนกับภามไปอีกห้องหนึ่ง ส่วนน้องผู้หญิงและแก๊งผู้ชายนั้นก็แยกไปอีกห้องหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นอยากให้มาคุยกันมากกว่า แต่กลับกลายเป็นว่า น้องผู้หญิงพูดและเล่าทุกอย่างหมดเลย สักพักก็มีนักข่าวมาถ่ายรูปแล้ว แล้วก็แยกย้ายกันกลับ ตนก็งง อ้าวไม่ถามตนเลยเหรอว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร ทำไมไม่มีตั้งข้อหา ทำไมไม่ถ่ายรูป ตนกับภามยืนงง ๆ อยู่หน้าสถานีตำรวจ 6 โมงเช้า ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ..
 
        วิทิต แลต กล่าวต่อว่า ตนยอมรับว่าตนพลาด แต่ตนยืนยันว่าตนไม่ได้สมรู้ร่วมคิดอะไรเลย ไม่รู้เลยว่าจะมีการลวงเด็กหรืออะไร แล้วหญิงที่มานี่ก็ไม่รู้ว่าเป็นหญิงบริการหรือเปล่า ไม่กล้ากล่าวหาไม่ได้พาดพิง และตอนนี้เรื่องทุกอย่างยังไม่เป็นคดี ยังไม่มีใครแจ้งข้อหาอะไร ยังไม่ได้เรียกให้ตนไปรับข้อหา หรือฟ้องใด ๆ เลย..

        เอ้า ! เรื่องนี้ วิทิต แลต จะพูดจริงหรือไม่ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป นักศึกษาถูกล่อลวงด้วยการแคสติ้งหรือเต็มใจยอมไปกับเขาเพื่อแลกงาน หรือว่าแลกเงินกันแน่ ต้องใช้วิจารณญาณและต้องติดตามกันต่อนะคะ