ตำรวจแถลงจับกุมผู้ต้องหาหนุ่มชาวญี่ปุ่น หัวโจกยากูซ่าระดับสูงของซึมิโยชิไค แก๊งที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ที่ทางการญี่ปุ่นต้องการมากที่สุด หนีคดีฉ้อโกงเงิน 22 ล้านบาท มากบดานที่เมืองพัทยา
วันนี้ (2 มีนาคม 2558) พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร พร้อมด้วย พล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. และเจ้าหน้าที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายชินอิจิ นากาตะ อายุ 34 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงเงินที่หลบหนีมาอยู่ในประเทศไทย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พล.ต.ท. จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ได้รับการติดต่อจากตำรวจของประเทศญี่ปุ่น เพื่อขอให้ติดตามตัว นายชินอิจิ นากาตะ อายุ 34 ปี สัญชาติญี่ปุ่น หนังสือเดินทางหมายเลข TL0008384 ที่ทางการญี่ปุ่นต้องการตัว เนื่องจากนายชินอิจิเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกงเงินหลอกเหยื่อให้โอนซื้อขายพันธบัตรเมื่อกลางปี 2557 ที่ผ่านมา เป็นเงินจำนวน 85 ล้านเยน หรือประมาณ 22 ล้านบาท
ทั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่าแก๊งที่นายชินอิจิทำงานให้นั้น ชื่อว่า "แก๊งซึมิโยชิ" มีสมาชิกกว่า 6,000 คน นับว่าเป็นแก๊งยากูซ่าที่ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น โดยการก่อเหตุของแก๊งนี้สร้างมูลค่าความเสียหายคิดเป็นเงินไทยกว่า 10,500 ล้านบาท ซึ่งทางการญี่ปุ่นได้ออกหมายจับและทลายแก๊งได้สำเร็จสามารถจับผู้ต้องหาได้ 21 คน ส่วนนายชินอิจิเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาดังกล่าว แต่ได้หลบหนีมาอยู่ในประเทศไทย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายชินอิจิ ได้บริเวณคอนโดเจดับบลิว ซ.บัวขาว พัทยากลาง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และยังพบว่าวีซ่าของนายชินอิจิหมดอายุแล้ว จึงนำตัวส่งสน.ประชาชื่น ดำเนินการ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลญี่ปุ่นได้มาทำการสอบสวนนายชินอิจิ และดำเนินการขอรับตัวนายชินอิจิไปดำเนินการตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตามในวันนี้ ( 2 มีนาคม) จะนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลอาญารัชดา เพื่อทำตามขั้นตอนก่อนที่จะมีการขยายผลว่ามีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจในไทยหรือไม่ และเตรียมขยายผลตรวจสอบหญิงชาวไทยที่อาจมีส่วนให้ความช่วยเหลือนายชินอิจิระหว่างอยู่ในไทย และจะนำตัวไปควบคุมที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ซึ่งภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 วัน ทางการญี่ปุ่นจะมารับตัวไปดำเนินคดีที่ญี่ปุ่นต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
