วันที่ 24 มีนาคม 2558 สำนักข่าวเอเอฟพี มีรายงานว่า แคธลีน สมิธ นักวิจัยจากสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดซึ่งชี้ว่า ภายในอุจจาระของมนุษย์นั้นมีแร่ทองคำและโลหะมีค่าอื่น ๆ ปะปนอยู่หลายชนิด อาทิ แพลทินัม และเงิน ซึ่งหากทราบวิธีสกัดนำแร่เหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ก็จะเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง โดยทองคำที่ทีมงานของเธอค้นพบจากกากของเสียนั้น จัดอยู่ในระดับแหล่งแร่ขั้นต่ำที่สุด
ขณะที่นักวิจัยอีกกลุ่มก็ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลการวิจัยสิ่งปฏิกูลของมนุษย์เช่นกัน ว่าหากนำอุจจาระของชาวอเมริกัน 1 ล้านคนมารวมกัน จะประกอบไปด้วยแร่โลหะที่มีมูลค่าถึง 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 420 ล้านบาท) ซึ่งหากหาวิธีสกัดนำแร่เหล่านี้ออกมาใช้ประโยชน์ได้ ก็จะช่วยลดความจำเป็นในการทำเหมือง และลดปริมาณการปล่อยโลหะที่ไม่พึงประสงค์ออกสู่ธรรมชาติ อันเป็นหนทางอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของโลก
ขณะที่แคธลีนกล่าวว่า หากเราสามารถแยกโลหะรบกวนที่ทำให้กากชีวภาพถูกนำไปใช้ในไร่หรือป่าได้อย่างจำกัด และสามารถสกัดเอาโลหะมีค่าออกมาใช้ประโยชน์ ก็จะมีแต่ได้กับได้ เราพบว่ามีโลหะอยู่ทุกที นับตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ผงซักฟอก ตลอดจนอนุภาคนาโนที่ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในถุงเท้า
ทั้งนี้โรงบำบัดน้ำเสียของสหรัฐฯ จะทิ้งกากชีวภาพมากกว่า 7 ล้านตันในแต่ปี โดยครึ่งหนึ่งจะถูกนำมาใช้เป็นปุ๋ย ขณะที่อีกครึ่งจะถูกเผาทำลายไม่ก็กลบฝัง ขณะที่แคธลีนได้เผยแนวทางการวิจัยของเธอและลูทีมในขณะนี้ว่า ส่วนหนึ่งจะมุ่งศึกษาวิธีคัดแยกโลหะไม่พึงประสงค์ที่ทำให้กากชีวภาพไม่สามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยได้อย่างเต็มที่ และอีกส่วนหนึ่งจะให้ความสนใจในการเก็บรวบรวมโลหะมีค่าที่สามารถนำมาขายได้ รวมถึงโลหะบางชนิดที่มีความสำคัญเชิงเทคโนโลยี เช่น วาเนเดียม และทองแดง ที่ใช้ในการผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ และโลหะผสม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล