เผยเรื่องราวงดงามของคุณลุงคุณป้าชาวจีน จิตใจเมตตาเกินคำบรรยาย รับเด็กพิการกำพร้ามาเลี้ยงเป็นลูกกว่า 40 คน
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2558 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เปิดเผยเรื่องราวสุดประทับใจของคุณลุงคุณป้าชาวจีนในวัย 60 เศษ ๆ ทั้งคู่ได้รับเด็กพิการมาเลี้ยงกว่า 40 คน ตลอด 26 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะเป็นภาระในสายตาใครหลาย ๆ คนก็ตาม จิตใจของทั้งคู่งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้จริง ๆ
การรับเลี้ยงเด็กพิการนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2532 เฉิน เทียนเหวิน และโกว ไกหรัน ภรรยาของเขา ได้พบกับเด็กพิการถูกทิ้งคนหนึ่ง พวกเขารู้สึกสลดใจและสงสารเด็กมาก ก็เลยนำเด็กพิการมาเลี้ยงที่บ้าน โดยเลี้ยงดูร่วมกับลูก ๆ 3 คนของพวกเขา
แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นของจิตใจอันงดงาม เพราะหลังจากนำเด็กพิการคนแรกมาอุปการะเลี้ยงดู ทั้งคู่ก็พยายามมองหาเด็กพิการที่ถูกทิ้ง เพื่อพากลับบ้านมาเลี้ยงดูเพิ่มอีก ในที่สุด ภายในเวลาไม่กี่ปี สมาชิกเด็กพิการในบ้านก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งนี้ทำให้ทางการท้องถิ่นสนอกสนใจมากและเข้ามาพูดคุยที่บ้าน ก่อนจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือสองสามีภรรยาคู่นี้ ด้วยการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็ก ๆ เป็นเงินเดือนละ 750 บาท ต่อเด็ก 1 คน
เมื่อเด็กพิการในบ้านมีมากขึ้น คุณป้าโกวเลยพบว่าตัวเองไม่มีเวลาเลี้ยงดูเด็ก ๆ เลย เธอเลยตัดสินใจออกจากงานมาดูแลเด็ก ๆ ที่บ้าน และหลังจากนั้นไม่นาน คุณลุงเฉินก็ลาออกมาช่วยดูแลเด็ก ๆ ด้วยเช่นกัน
การเลี้ยงดูเด็กพิการให้เติบโตขึ้นมาในสังคมได้นั้นเป็นเรื่องยากมาก เมื่อคุณป้าโกวและคุณลุงเฉินได้พบว่าเพื่อนบ้านไม่ยอมรับเด็ก ๆ ในครอบครัวของพวกเขาเลย เวลาพาเด็ก ๆ ไปเดินตามถนน ชาวบ้านก็จะพากันเมินเฉยและไม่ยอมให้ลูก ๆ ของตัวเองเข้าใกล้เด็กกำพร้าที่มีความผิดปกติเหล่านี้ เพราะเป็นเด็กไม่สมประกอบบ้าง พิการบ้าง แถมยังไร้การศึกษา
ไม่เพียงแค่ชาวบ้านเท่านั้นที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่ลุงเฉินและป้าโกวทำ แต่จุนเหว่ย ลูกคนโตของพวกเขาก็ไม่ปลื้มและต่อว่าอยู่หลายครั้งว่าพวกเขาเอาความวุ่นวายเข้ามาในชีวิต แทนที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบเหมือนคนอื่น ๆ
แต่แล้วในที่สุด จุนเหว่ยกลับเป็นฝ่ายพูดไม่ออก เมื่อลุงเฉินและป้าโกวสารภาพกับเขาว่า เขาเองก็เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาเลี้ยงเหมือนกัน ความจริงดังกล่าวทำให้จุนเหว่ยถึงกับช็อก เขาออกจากบ้านไปอย่างโกรธเคืองแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลยนับตั้งแต่นั้น
แม้ลูกชายคนโตจะจากไปอย่างไม่รู้ว่าจะหวนกลับมาหรือไม่ แต่ป้าโกวและลุงเฉินก็ยังคงดูแลเด็กกำพร้าพิการอย่างดีที่สุด กระทั่งวันหนึ่งเรื่องราวของทั้งคู่ก็ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ผู้คนรู้สึกนับถือในจิตใจอันเมตตาของทั้งคู่ นำมาซึ่งการบริจาคเสื้อผ้าและเงินให้กับเด็กพิการ ขณะที่ทางการท้องถิ่นก็ได้เพิ่มเงินสนับสนุนขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้ป้าโกวและลุงเฉินได้รับเงินสนับสนุนเดือนละ 7,000 บาทต่อเด็ก 1 คน
แต่แล้วในที่สุด จุนเหว่ยกลับเป็นฝ่ายพูดไม่ออก เมื่อลุงเฉินและป้าโกวสารภาพกับเขาว่า เขาเองก็เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาเลี้ยงเหมือนกัน ความจริงดังกล่าวทำให้จุนเหว่ยถึงกับช็อก เขาออกจากบ้านไปอย่างโกรธเคืองแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลยนับตั้งแต่นั้น
แม้ลูกชายคนโตจะจากไปอย่างไม่รู้ว่าจะหวนกลับมาหรือไม่ แต่ป้าโกวและลุงเฉินก็ยังคงดูแลเด็กกำพร้าพิการอย่างดีที่สุด กระทั่งวันหนึ่งเรื่องราวของทั้งคู่ก็ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ผู้คนรู้สึกนับถือในจิตใจอันเมตตาของทั้งคู่ นำมาซึ่งการบริจาคเสื้อผ้าและเงินให้กับเด็กพิการ ขณะที่ทางการท้องถิ่นก็ได้เพิ่มเงินสนับสนุนขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้ป้าโกวและลุงเฉินได้รับเงินสนับสนุนเดือนละ 7,000 บาทต่อเด็ก 1 คน
และเมื่อเวลาผ่านไป ชาวบ้านเริ่มเปิดใจและเข้าใจในสิ่งที่ลุงเฉินกับป้าโกวได้ทำ ความเมตตาของทั้งคู่ก็ได้กลายเป็นเรื่องน่าประทับใจในสายตาชาวบ้าน จนตอนนี้ทั้งคู่ก็ได้รับยกย่องให้เป็นบุคคลตัวอย่างไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลอดระยะเวลา 26 ปีที่ผ่านมา ลุงเฉินกับป้าโกวจะรับเลี้ยงเด็กพิการกำพร้ามาแล้วกว่า 40 คน แต่ที่ผ่านมาก็มีบางคนที่เสียชีวิตลงไปบ้าง และแม้ว่าเด็กที่เสียชีวิตลงแต่ละคนจะถูกฝังโดยไม่มีการสร้างแท่นหินบนหลุมศพ แต่ลุงเฉินกับป้าโกวก็จำได้แม่นยำว่าใครถูกฝังอยู่ที่ไหนบ้าง และมีการทำพิธีให้ด้วยความรักราวกับเด็กเหล่านั้นคือลูกแท้ ๆ ของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลอดระยะเวลา 26 ปีที่ผ่านมา ลุงเฉินกับป้าโกวจะรับเลี้ยงเด็กพิการกำพร้ามาแล้วกว่า 40 คน แต่ที่ผ่านมาก็มีบางคนที่เสียชีวิตลงไปบ้าง และแม้ว่าเด็กที่เสียชีวิตลงแต่ละคนจะถูกฝังโดยไม่มีการสร้างแท่นหินบนหลุมศพ แต่ลุงเฉินกับป้าโกวก็จำได้แม่นยำว่าใครถูกฝังอยู่ที่ไหนบ้าง และมีการทำพิธีให้ด้วยความรักราวกับเด็กเหล่านั้นคือลูกแท้ ๆ ของตัวเอง