จากเหตุการณ์ เครนถล่มที่มัสยิดในเมืองเมกกะ มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บชาวไทยแล้ว 3 ราย สูญหายอีก 3 ราย
ความคืบหน้าล่าสุดเหตุการณ์ เครนก่อสร้างขนาดใหญ่ถล่ม ภายในบริเวณมัสยิดศักดิ์สิทธิ์ หรือมัสยิดอัลฮะรอม ในเมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวั นที่ 11 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีรายงานผู้เสียชีวิต 107 ราย และบาดเจ็บ 238 คน
ล่าสุดในวันนี้ (12 กันยายน 2558) สำนักงานกิจการฮัจญ์แห่ งประเทศไทยได้จัดตั้ งกองอำนวยการเฉพาะกิจติดตามข้ อมูลข่าวสารเครนถล่ม เพื่อประมวลข้อมูลให้เป็นปัจจุ บัน พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ออกติ ดตามผู้ประสบภัยในโรงพยาบาลทุ กแห่งในพื้นที่เมืองเมกกะ และประสานงานให้ความช่วยเหลื อคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุ การณ์ดังกล่าว พบว่ามีผู้แสวงบุญชาวไทยอยู่ ในจำนวนผู้ประสบภัยด้วย โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ได้แก่
1.
นางแมะเยาะ แตมอ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 1 ตำบลช้างไห้ตก
อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์กับผู้ ประกอบกิจการชื่อห้างหุ้นส่ วนจำกัด ฮาญาติเทรเวิล เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลคิ งไฟซอล ด้วยอาการเจ็บหน้าอก และมีบาดแผลบริเวณใบหน้า ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว อยู่ในความดูแลของแพทย์ ไทยในแคมป์แพทย์ ประจำประเทศไทยในนครเมกกะ
2. นายสะมาแอ ซาซู อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 1 ตำบลยะหา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์กับผู้ ประกอบการชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัดฮาญาติเทรเวิล เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลคิ งไพซอล ด้วยอาการเจ็บหัวเข่า ขาขวา และมีบาดแผลบริเวณใบหน้า ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว อยู่ในความดูแลของแพทย์ ไทยในแคมป์แพทย์ ประจำประเทศไทยในนครเมกกะ
3. นางซอลีฮะ ยีเร็ง ยังไม่ทราบอายุและภูมิลำเนา มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์อนุญาตให้กลับโรงแรมที่พั กได้
นอกจากนี้ สำนักงานกิจการฮัจญ์แห่ งประเทศไทยยังได้รับแจ้งจากผู้ ประกอบกิจการฮัจญ์ว่า มีผู้แสวงบุญชาวไทยสูญหายไม่ สามารถติดต่อได้อีก 3 ราย คือ ผู้แสวงบุญจากห้างหุ้นส่วนจำกั ดเอสเอ็มแอนด์วิชั่น, ห้างหุ้นส่วนจำกัดเอสดับลี วเปอร์นิก้าปัตตานี และห้างหุ้นส่วนจำกัดมาร์นายเอ็ กซ์เพรส โดยในตอนนี้กำลังอยู่ระหว่ างการตรวจสอบว่าทั้ง 3 คนนี้พลัดหลงจากการไปเยี่ยมญาติ หรือประสบเหตุจากเหตุการณ์ เครนล้มทับ
ด้านนายวีระ โรจนพจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เผยว่า สำนักงานกิจการฮัจญ์แห่ งประเทศไทยได้จัดตั้ งกองอำนวยการเฉพาะกิจติดตามข้ อมูลข่าวสารเครนถล่มในบริเวณมั สยิดอัลฮะรอม เพื่อประมวลข้อมูลให้เป็นปัจจุ บัน พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ออกติ ดตามผู้ประสบภัยในโรงพยาบาลทุ กแห่งในพื้นที่เมืองเมกกะ และประสานงานให้ความช่วยเหลื อคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุ การณ์ดังกล่าว