กานต์ วิภากร พร้อมน้องสาวผู้อยู่ในเหตุการณ์ เปิดโต๊ะแถลงข่าวกรณี เสก โลโซ บุกทำร้ายร่างกาย ทอมบี ลูกน้องคนสนิท ยันเจ้าตัวไม่เคยยั่วยุเสก คาดเข้าใจผิดเป็นเจ้าของเพจแอนตี้เสก พร้อมเผยลูกสาวซึมเศร้าหลังเกิดเรื่อง พาไปคุยกับจิตแพทย์พรุ่งนี้
วันที่ 19 เมษายน 2559 ที่โรงพยาบาลปิยะเวท พระราม 9 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กานต์ วิภากร พร้อมด้วย เก๋ น้องสาวผู้อยู่ในเหตุการณ์ และนายแพทย์บริพัตร วงศ์ประชุม แพทย์ผู้รักษาอาการ ร่วมแถลงข่าวถึงกรณี เสก โลโซ นักร้องชื่อดัง ทำร้ายร่างกาย ทอมบี ลูกน้องคนสนิทเจ็บหนักจนกระดูกกรามหัก ต่อหน้าต่อตาน้องกวาง ลูกสาวคนเล็ก
ด้าน กานต์ อดีตภรรยาเสก ระบุว่า คาดว่าสาเหตุที่เสกลงมือน่าจะเกิดจากการถกเถียงกันอย่างรุนแรงในอินเทอร์เน็ต อาจทำให้เสกโกรธ ทั้งนี้ยืนยันว่าบีไม่เคยด่าพ่อแม่ของเสกแน่นอน หากมั่นใจให้นำหลักฐานมาโชว์ นอกจากนี้บีก็ไม่ใช่แอดมินเพจแอนตี้เสก โลโซ อย่างที่เสกบอกก่อนหน้านี้แต่อย่างใด การที่เสกเข้าใจว่าบี ด่าแม่ น่าจะเป็นเพราะเพจดังกล่าวเคยด่าแม่ของเสก จึงทำให้เข้าใจผิดว่าบีเป็นคนด่าก็เป็นได้ ส่วนที่เสกระบุว่า ได้ไปแจ้งความเรื่องเพจแอนตี้นั้น ตนเองยังไม่ทราบรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่เสกออกมาระบุว่า ไม่กังวลกับการทำร้ายร่างกายในครั้งนี้เพราะคิดว่าทำสิ่งที่ถูกต้อง เหมือนตำรวจจับโจรนั้น ส่วนตัวมองว่า เสกเองไม่ใช่ตำรวจ หากคิดแบบนั้นจริงแสดงว่าเขาทำผิดแล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองผิด และไม่มีการขอโทษหรือสำนึกผิดแม้แต่น้อย ส่วนตัวคิดน่าจะมีการแจ้งข้อหา 3 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ และข่มขู่โดยการขู่เข็ญ ซึ่งตนเองก็ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะทำแบบนี้เพราะก่อนหน้านี้เป็นคนดี ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนละคนไม่ใช่เสกที่เคยรู้จัก
อดีตภรรยาเสก ระบุว่าอีกว่า ยืนยันว่าหลังจากหย่าไม่เคยมีการยั่วยุกันใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะมีข้อตกลงกันตอนหย่าว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกันและกันอีก ซึ่งเมื่อทำแบบนี้ถือว่าเขาผิดข้อตกลงในการหย่า ซึ่งบีเองก็ไม่เคยติดต่อหรือยุ่งเกี่ยวอะไรกับเสกอีกเลย ส่วนที่เสกระบุว่าบีเคยมีคดีที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงนั้นตนไม่ทราบ เพราะเป็นส่วนของบี แต่สิ่งที่ตนเองพบนั้น บีเองก็ดีกับครอบครัวทุกอย่างและช่วยเหลือในฐานะพนักงานคนหนึ่งของบริษัท ในขณะที่เสกเองยังไม่ยอมหยุด ซึ่งตนคิดว่าเสกน่าจะไม่หายดี เพราะการใช้ยามานานต้องบำบัดนานกว่านี้ ไม่แน่ใจว่ากลับไปเสพยาอีกหรือไม่ และคงต้องถามจิตแพทย์
ขณะที่ในส่วนของน้องกวางนั้น หลังจากเกิดเรื่องขึ้นตนก็พยายามจะไม่พูดเรื่องนี้กับลูก เพราะอยากให้จิตใจลูกเป็นปกติโดยเร็ว ส่วนตัวคิดว่าเสกไม่น่าจะทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าลูก และตนคิดว่าจะพากวางไปพบจิตแพทย์ เพื่อให้หมอช่วยพูดคุย เพราะหลังจากเกิดเรื่องลูกดูเศร้า นอกจากนี้ตนคิดว่าคงไม่ให้กวางไปนอนที่บ้านเสกอีก เพราะไม่ทราบว่าจะเป็นอะไรหรือไม่ และยืนยันว่ากวางไม่เคยไลน์หาพ่อตามที่เสกอ้าง มีแต่เสกไลน์มาแต่กวางไม่ตอบกลับเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะบีกับกวางก็สนิทกันจึงอาจเสียใจ
ขณะที่ นายแพทย์บริพัตร เปิดเผยว่า ขณะเข้ารักษาผู้ป่วยมีอาการกระดูกกรามล่างซ้ายหัก ซึ่งขณะนี้ได้รับการรักษาแล้ว ล่าสุดผู้ป่วยกำลังอยู่ระหว่างการพักฟื้นร่างกาย โดยรวมถือว่าปลอดภัยแล้ว ซึ่งคงต้องรอให้กระดูกติด และจะอนุญาตให้กลับบ้านได้พรุ่งนี้ เพราะผู้ป่วยพูดได้แล้วในบางคำที่ไม่อ้าปาก สื่อสารได้บ้าง ทานอาหารอ่อนได้ สมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือน เชื่อว่าคงใช้เวลากายภาพระยะหนึ่งเพื่อให้กลับมาสมบูรณ์ ซึ่งโดยปกติกระดูกจะเริ่มติดภายใน 4-6 สัปดาห์