หนุ่มไรเดอร์ไปส่งออร์เดอร์ลูกค้า
ปลายทางปักหมุดไว้เป็นตึกร้าง ทั้งเปลี่ยวทั้งไม่มีไฟ
งานนี้เลือกอยู่ต่อไม่ตีรถกลับ ด้านทุกคนพยายามช่วยให้คิดดีแล้ว
แต่มันทำไม่ได้จริง ๆ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Suwat Radomboon
เป็นอาชีพที่ต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดอยู่เสมอ
สำหรับงานไรเดอร์ส่งอาหาร ซึ่งบางครั้งจุดหมายที่ต้องไปส่งนั้น
ก็อาจทำให้เกือบจะต้องถอดใจไปเลยก็มี
วันที่ 18 กันยายน 2566 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่ง โพสต์ลงใน กลุ่มที่ไม่ว่าพิมพ์อะไรเราก็ให้กำลังใจในทุกเรื่องแบบงงๆอิหยังวะ เปิดเผยว่าตนเองเป็นไรเดอร์ แต่ต้องเจอกับสถานการณ์ที่บีบหัวใจ เมื่อไปส่งอาหารตามที่ลูกค้าปักหมุด แต่จุดดังกล่าวกลับเป็นเหมือนบ้านร้าง อยู่ในพื้นที่ค่อนข้างรกร้าง ไม่มีไฟฟ้า จนเมื่อได้เห็นภาพดังกล่าวจึงถามสมาชิกในกลุ่มว่า "ควรโทร. หาลูกค้า หรือวนรถกลับออกไปเลยดีกว่าครับ"
วันที่ 18 กันยายน 2566 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่ง โพสต์ลงใน กลุ่มที่ไม่ว่าพิมพ์อะไรเราก็ให้กำลังใจในทุกเรื่องแบบงงๆอิหยังวะ เปิดเผยว่าตนเองเป็นไรเดอร์ แต่ต้องเจอกับสถานการณ์ที่บีบหัวใจ เมื่อไปส่งอาหารตามที่ลูกค้าปักหมุด แต่จุดดังกล่าวกลับเป็นเหมือนบ้านร้าง อยู่ในพื้นที่ค่อนข้างรกร้าง ไม่มีไฟฟ้า จนเมื่อได้เห็นภาพดังกล่าวจึงถามสมาชิกในกลุ่มว่า "ควรโทร. หาลูกค้า หรือวนรถกลับออกไปเลยดีกว่าครับ"
ด้านสมาชิกในกลุ่มได้เห็นบรรยากาศเช่นนี้ ต่างก็พากันหลอนไปตาม ๆ กัน แต่ก็ยังคงให้กำลังใจเจ้าของโพสต์เช่น อย่าคิดมาก คนสั่งอาจจะไม่ใช่คนก็ได้, บ้างก็มองว่าเขาน่าจะหิว ไม่มีใครถวายอะไรตั้งหลายวัน แต่อีกหลายคนต่างก็เป็นห่วงหนุ่มไรเดอร์ เพราะตรงนั้นมันดูเปลี่ยวจริง ๆ กังวลว่าเรื่องโจรอาจจะอันตรายว่าเจอผี
หนุ่มไรเดอร์ อัปเดตว่า ลูกค้าลงมารับแล้ว และใส่ไฟฉายติดหัวลงมาจากตึก ตึกนี้ไฟฟ้าน่าจะเสียเฉย ๆ แต่ก็ยังมีเรื่องที่คาใจว่า ตอนโทร. ไปคุยสายลูกค้าผู้หญิง แต่ลูกค้าผู้ชายลงมา ตอนท้ายปลายสาย พูดว่า "ขอบคุณนะคะ ที่ขับรถเข้ามาส่ง" ซึ่งปกติไม่เคยได้ยินประโยคแบบนี้เลย อีกทั้งทางเข้ายังมืดมาก มีหญ้าปกคลุม ข้างในมีน้ำขัง ขับผ่านวนกลับมาถึงเห็นทางเข้า
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Suwat Radomboon
คนคอมเมนต์พยายามคิดบวก แต่ยิ่งคิดยิ่งเจอแต่ปัญหา มาทำอะไรกันตรงนี้
ทั้งนี้ ได้มีคนพยายามชวนให้คิดบวกเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น อาจจะมีความเป็นไปได้ที่ผู้หญิงเป็นคนสั่งอาหาร แล้วให้ผู้ชายเป็นคนรับอาหาร ซึ่งที่แบบนั้นผู้หญิงก็คงจะไม่อยากอยู่ แต่ก็ยังมีข้อสงสัยคือ ตรงหน้าบ้านไม่มีไฟ หลอดไฟที่เคยมีหายไปเลยเหลือแต่ฐาน หากจะบอกว่าโดนตัดไฟก็มีทางอื่นที่แก้ได้ หากน้ำไฟถูกตัดยังมีวิธีการอื่นในการแก้ปัญหา และแปลกกว่าคือ ผู้ชายมาทำอะไรในที่มืด ๆ แบบนี้ ทำไมไม่มาตอนกลางวัน ซึ่งก็มีคนมาบอกว่า ผู้หญิงและผู้ชายอาจจะอยู่ด้วยกัน พอเห็นว่าตรงนั้นเป็นที่อันตราย ก็ให้ผู้ชายลงมารับของดีกว่า
ต่อมา หนุ่มไรเดอร์ กลับไปพิสูจน์ที่จุดดังกล่าวอีกครั้งในตอนกลางวัน ก็พบว่าตึกดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างรกร้างจริง แต่ก็ยังมีร่องรอยผู้คนขับรถเข้า-ออก หรือตากผ้าไว้ที่ชั้น 3 ชั้น 1 จึงสบายใจแล้วว่าที่นี่มีคนอยู่จริง ๆ
ส่วนคอมเมนต์จากชาวเน็ตที่ติดตามเรื่องนี้ เมื่อได้เห็นภาพตอนกลางวันก็โล่งใจขึ้นที่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องผี เพราะสิ่งที่น่ากลัวกว่าคืออาจมีการก่ออาชญากรรม ลักพาตัว เป็นแหล่งซ่องสุม แต่ด้วยบรรยากาศของตึกนี้ก็ยังน่าคิดอยู่ดีว่า เพราะอะไรลูกค้าที่สั่งจึงต้องมาอยู่ตรงนี้ เป็นต้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Suwat Radomboon
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Suwat Radomboon