แม่เผยภาพลูกสาว 4 ขวบ กลับบ้านหัวปูด มีแผลใหญ่ที่แก้ม ซ้ำครูไม่คิดแจ้งผู้ปกครอง ปล่อยให้เด็กทนเจ็บจนเลิกเรียน ได้ฟังคำชี้แจงทำโมโหหนัก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ภัทษลัลฎาค์ เกิดพงษ์
วันที่ 26 มิถุนายน 2567 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ภัทษลัลฎาค์ เกิดพงษ์ ออกมาแชร์เรื่องราวอุทาหรณ์ที่โรงเรียนบางแห่งอาจไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก กับภาพของลูกสาวที่มีบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณใบหน้า จนแก้มบวม หน้าผากปูดคล้ำ ซึ่งนอกจากจะไม่รู้สาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น ยังต้องเครียดกับคำพูดของครูที่ยิ่งซ้ำเติมความรู้สึกเข้าไปอีก
เจ้าของโพสต์ระบุว่า กลับมาหาลูก 6 โมงเย็น เจอลูกสภาพนี้ ลูกอายุ 4 ขวบครึ่ง หน้าบวมฉึ่ง หัวปูดตาปิด ใต้ตาบวม ยายบอกตอนมาจากโรงเรียนคือตาบวมแทบปิด หน้าผากโนเป็นลูกมะกรูด ตอนนี้ยุบลงแต่ก็ยังโนตามรูป
นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่น้องเจ็บตัวจากการไปโรงเรียน โทร. ไปสอบถามครู ครูบอกไม่เห็นตอนน้องเจ็บ ครูอยู่ในห้อง น้องเล่นข้างนอก มีเพื่อนน้องวิ่งมาบอกว่าน้องเจ็บ น้องร้องไห้ไม่หยุด ไม่บอกว่าเล่นยังไงถึงเจ็บ จริง ๆ ตอนแรกแม่ก็โมโหแล้วนะ เพราะว่าตั้งแต่เปิดเทอมมา น้องเจ็บตัวมาก ๆ มา 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกน้องบอกเพื่อนผลักเข่าแตกมา เป็นแผลใหญ่ แผลเปิดประมาณ 5 เซนติเมตร เป็นหลุมเลย แผลเพิ่งจะหายไป ครั้งนั้นครูก็ไม่แจ้ง และก็ไม่เห็นเหตุการณ์เหมือนกัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ภัทษลัลฎาค์ เกิดพงษ์
แม่ : ทำไมคุณครูไม่แจ้งผู้ปกครอง จะได้พาน้องไปหาหมอ
ครู : ไม่ทันคิดค่ะ (ในใจแม่รู้สึกว่า พูดออกมาได้ยังไง)
แม่ : แล้วถ้าเราพาน้องรักษาไม่ทัน น้องเลือดคั่ง กะโหลกร้าว หาหมอไม่ทันทำไง ?
ครู : แล้วน้องเป็นแบบนั้นหรือยัง ?
แม่ : ครูพูดได้ยังไง มันชีวิตคนนะ ชีวิตลูกเราทั้งคนนะ การตัดสินใจการดูแลครูแย่มาก
ครู : ขอโทษแล้วกันค่ะ (น้ำเสียงรำคาญแม่ ไม่มีน้ำเสียงรู้สึกผิดเลย)
การคุยครั้งนั้น ครูจบการสนทนาด้วยประโยคว่า "ถ้าแม่ไม่พอใจก็เข้าไปเจอที่โรงเรียนได้เลย" ได้ฟังคำนั้น รู้สึกโมโหจนตัวสั่น น้ำตาไหล มันเป็นแบบนี้นี่เอง โรงเรียนมันไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยเหรอ อุบัติเหตุเกิดได้ เล่นเจ็บได้ แต่มันต้องไม่ใช่การตัดสินใจให้เด็กร้องไห้เพราะเจ็บเพราะปวดครึ่งวันหรือเปล่า
แม่ ๆ คนอื่นคิดว่าอย่างไร ตนเป็นแม่ที่คิดเยอะ คิดมากไปหรือเปล่า จากปากลูก ลูกบอกครูเอาน้ำเย็นมาเช็ดให้ บอกให้หยุดร้อง แล้วบังคับให้นอนหลับ เด็กหัวปูดตาปิดขนาดนี้ไม่คิดจะสังเกตอาการเลยเหรอ บังคับเด็กหลับเนี่ยนะ
ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ไปกว่า 2.8 พันครั้ง โดยหลายคนต่างเห็นใจคุณแม่ที่ต้องมาเห็นลูกในสภาพนี้ ซ้ำยังต้องมาเจอครูที่เหมือนจะไม่ใส่ใจอาการของเด็กเลย ยืนยันว่าหากเป็นที่อื่น หากเด็กเกิดบาดเจ็บระดับนี้ ครูน่าจะแจ้งผู้ปกครองให้รับรู้และหาทางช่วยเหลือทันที โดยหลายคนแนะนำให้ว่าทำการร้องเรียนครูเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเคสแบบนี้ขึ้นอีก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ภัทษลัลฎาค์ เกิดพงษ์