แก๊งตบทรัพย์ขับชน ถ้าไม่จ่ายเงินเจอรุมกระทืบอ่วม เผยทริกคนแบบไหนตกเป็นเป้า

          ชายเตือนภัยชาว จ.อุดรธานี ระวังแก๊งตบทรัพย์ขับชน เรียก 3 หมื่น ไม่จ่ายเจอทุบรถ รุมกระทืบ คนจะช่วยเจออ้างเป็นตำรวจ

          วันที่ 18 กรกฎาคม 2567 โหนกระแส รายงานว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์รูปผู้ชายถูก แก๊งชนแล้วตบทรัพย์ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ พร้อมระบุข้อความว่า แก๊งตบทรัพย์ทำร้ายเจ้าทุกข์ไหปลาร้าหัก สองสามีภรรยาถ่ายคลิปบันทึกภาพ แต่ถูกแก๊งนี้ทุบโทรศัพท์ทิ้ง ผู้เสียหายไม่ยอมจ่ายเงิน

          วิธีก่อเหตุ จะเลือกรถที่ออกเก่า ที่คาดว่าไม่ได้ต่อประกัน เหตุเกิดถนนพิบูลย์รักษ์ ไปบ้านสุมเส้า จ.อุดรฯ แก๊งนี้ชอบก่อเหตุตรงถนนหลักที่เปลี่ยว ไม่มีบ้านคน วิธีป้องกัน ห้ามลงจากรถเด็ดขาด บันทึกภาพคลิปเป็นหลักฐาน แจ้งไปที่ 191 แชร์บอกต่อ ๆ กันไป เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและญาติพี่น้อง โพสต์ดังกล่าวมีคนสนใจและแชร์จำนวนมาก และจากคอมเมนต์ยังพบว่ามีเหยื่อแก๊งชนตบทรัพย์หลายราย

          จากการสอบถาม นายสาร อายุ 44 ปี ซึ่งถูกแก๊งชนแล้วตบทรัพย์ รุมทำร้ายร่างกายจนไหปลาร้าหัก เล่าว่า วันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตนกับภรรยาขับรถกระบะไปวัดสายตาประกอบแว่นให้กับพระเกจิอาจารย์ที่นับถือ เสร็จแล้วก็ตั้งใจจะไปดูสวนที่บ้านหายโศก อ.เพ็ญ เวลาประมาณ 12.30 น. ตนเป็นคนขับรถไม่เร็วและไม่รีบ เพราะเป็นถนน 2 ช่องจราจร

          อีกประมาณ 500 เมตร ก่อนถึงสามแยกบ้านโนนยางพรพิบูลย์ ตนขับแซงรถกระบะ สีบรอนซ์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร แล้วเลี้ยวเข้าเลนเดิม ไม่นานก็ได้ยินเสียงดังปังบริเวณท้ายรถฝั่งซ้ายมือ ตอนแรกตนคิดว่ายางรถระเบิด จึงปล่อยให้รถไหลไปเรื่อย ๆ จนรถหยุด


          เมื่อลงจากรถมาดูกลับพบว่ายางล้อรถปกติ แต่รถมีร่องรอยเฉี่ยวชนบริเวณซุ้มล้อหลังด้านซ้าย จากนั้นรถกระบะคันที่ตนขับแซงมา ก็ได้ขับเข้ามาพร้อมกับบีบแตร จอดดักหน้ารถตนเอาไว้ มีผู้ชายอายุประมาณ 30-35 ปี จำนวน 2 คน เปิดประตูเดินลงจากรถ ไม่พูดพล่ามทำเพลงก็กล่าวหาว่าตนขับรถเฉี่ยวชนรถเขาบริเวณซุ้มล้อหน้าด้านขวา พร้อมกับต่อว่าตนว่าชนแล้วหนี ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งรถคันดังกล่าวก็มีร่องรอยเฉี่ยวชน และยังพูดอีกว่า "รถราคาเป็นล้าน มึงมีปัญญาจ่ายไหม" จากนั้นก็ชกหน้าตน และเรียกเงินค่าเสียหาย 3 หมื่นบาท แถมหักกระจกมองข้างรถของตนด้วย

          ตอนนั้นตนรู้ทันทีว่าเจอแก๊งชนตบทรัพย์เข้าแล้ว ตนเดินออกจากที่เกิดเหตุ เพราะไม่ต้องการให้แก๊งดังกล่าวทำร้ายภรรยา ขณะเดินไปตนก็โทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.พิบูลรักษ์ แต่แก๊งดังกล่าวยังขู่เรียกค่าเสียหายจากภรรยาตน 2 หมื่นบาท และขู่ว่าจะเอาปืนตามไปยิงตนด้วย

          พอตนเดินห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 300-400 เมตร แก๊งตบทรัพย์ขับรถตามมาเฉี่ยวชนตนจนล้ม จากนั้นก็ลงมารุมทำร้าย ทั้งต่อยทั้งเตะจนล้มลงแล้วช่วยกันกระทืบ หยิบเอาท่อนไม้ที่หลังกระบะมาฟาดที่ขมับซ้ายจนแตก อีกคนก็ใช้ท่อนไม้ฟาดที่หลัง ทำให้ไหปลาร้าหัก มือถือก็ถูกทุบ ภรรยาตนพยายามจะมาช่วย แต่ตนส่งสายตาให้ภรรยากลับไปนั่งอยู่ในรถ เพราะถ้าภรรยามาช่วยตน ภรรยาก็ต้องโดนทำร้ายไปด้วย

          จากนั้นแก๊งตบทรัพย์ก็ลากตนขึ้นกระบะรถ ให้นั่งหันหน้าไปทางท้ายรถ มีคนนั่งคุม พอย้อนกลับมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนจึงกระโดดลงจากรถ แล้ววิ่งขึ้นรถตัวเองที่จอดอยู่ ขับไป สภ.พิบูลย์รักษ์ และแจ้งความ ตำรวจได้ออกมาที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่พบแก๊งดังกล่าวแล้ว


          ขณะที่ทั้งสองคนกำลังรุมทำร้ายตน มีชาวบ้านขับรถผ่านมาและลงมาสอบถาม แก๊งตบทรัพย์อ้างว่าเป็นตำรวจ กำลังจับยาบ้า ทำให้ชาวบ้านไม่เข้ามาช่วยตน

          นอกจากนี้แก๊งตบทรัพย์ยังได้เข้าไปค้นรถของตน คล้ายกับค้นหาเงิน พอตนวิ่งหนีมาขึ้นรถและขับไปโรงพัก เงินสด 600 บาท ในกระเป๋าเสื้อตนได้หายไป เชื่อว่าแก๊งดังกล่าวล้วงเอาเงินตนไปด้วย

          เมื่อตนนำรูปคนร้ายและรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุให้ตำรวจเช็กทะเบียน พบว่าเป็นทะเบียนปลอม ซึ่งหลังจากก่อเหตุกับตนแล้ว แก๊งดังกล่าวก็ได้ไปก่อเหตุบนถนนบริเวณเดียวกันกับผู้หญิง ข่มขู่จนต้องโอนจ่ายค่าเสียหายให้ 2,500 บาท


          อยากจะออกมาเตือนภัยให้กับคนที่ใช้รถใช้ถนน แก๊งดังกล่าวก่อเหตุอุกอาจ เหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป หาเรื่องว่าตนเฉี่ยวชนรถแล้วเรียกเงินค่าเสียหาย ไม่มีการเรียกประกันภัยมาพูดคุย พูดจาออกแนวข่มขู่ พอไม่ได้เงินก็จะทำร้ายร่างกาย ผู้ที่ประสบพบเจอแก๊งนี้ อย่าลงจากรถเด็ดขาด และรีบโทร. แจ้งตำรวจหรือไม่ก็ขับรถไปโรงพักจะปลอดภัยที่สุด และฝากตำรวจให้ช่วยติดตามจับแก๊งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด

          ขณะเดียวกันมีข้อมูลว่า แก๊งชนตบทรัพย์กำลังอาละวาดใน จ.อุดรธานี บริเวณถนนเส้นรอง หรือถนนระหว่างอำเภอ นาข่า-สุมเส้า, หนองหาน-เพ็ญ, พิบูลย์รักษ์-สุมเส้า, กุมภวาปี-ศรีธาตุ และศรีธาตุ-วังสามหมอ ซึ่งมีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และมักจะเรียกเงินจากมากไปหาน้อย 30,000 หากไม่ได้ก็ลดลงไปจนถึง 2,500 บาท หรือหากไม่ได้จริง ๆ ก็จะรุมทำร้าย

ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส