ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เว็บไซต์ไชน่าเดลี่ ของจีน รายงานเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนว่า แม่ใจโหดชาวจีน ลงมือฆ่าลูกชายฝาแฝดสมองพิการ ด้วยการกดน้ำจนเสียชีวิต ก่อนกินยาเบื่อหนูฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตาย
รายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนปีที่แล้ว นางหัน กวนเฟิ่ง วัย 37 ปี คุณแม่ลูกแฝดจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้ก่อเหตุฆ่าลูกชายฝาแฝดของตัวเอง ซึ่งเป็นเด็กที่มีความพิการทางสมอง ด้วยการจับกดน้ำจนลูกชายเสียชีวิตทั้งคู่ ส่วนตัวเองก็พยายามฆ่าตัวตายด้วยการกินยาเบื่อหนูในเวลาต่อมา แต่โชคดีที่สามีมาช่วยไว้และนำตัวส่งโรงพยาบาลได้ทัน
โดย หัน กวนเฟิ่ง ได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่เธอจะมีลูก เธอก็ใช้ชีวิตกับสามีเฉกเช่นเดียวกับผู้หญิงทั่วไป คือช่วยกันทำงานหาเงินเก็บหอมรอมริบ แต่เมื่อ 2 ปีก่อน เธอก็คลอดลูกชายฝาแฝดน่ารัก แต่โชคร้ายที่เป็นเด็กที่มีภาวะสมองพิการทั้งคู่ ค่าใช้จ่ายเธอก็เลยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอต้องหาเงินมาจ้างพี่เลี้ยงเด็กอยู่หลายคน และต้องดูแลลูกชายฝาแฝดไปด้วยพร้อม ๆ กัน จนในที่สุด รายได้ของเธอก็เริ่มร่อยหรอ ไม่มีเงินพอสำหรับการจ้างพี่เลี้ยงเด็กอีกต่อไป จึงออกจากงานมาเลี้ยงลูกชายฝาแฝดด้วยตัวเอง แต่ยิ่งนานวันเข้า เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอไม่สามารถดูแลลูกชายทั้งสองคนแบบนี้ไปตลอดชีวิตได้ เพราะวันหนึ่งเธอก็ต้องจากโลกนี้ไปก่อนลูกชายอยู่ดี ขณะที่รายได้ในตอนนั้นก็เริ่มไม่ เพียงพอต่อการเลี้ยงลูกแล้ว ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจตัดปัญหาทุกอย่าง ด้วยการจบชีวิตตัวเองและลูกชาย โดยเธอได้วางยานอนหลับลูกชายทั้งสอง แล้วจับลูกชายกดน้ำในอ่างอาบน้ำจนเสียชีวิต จากนั้น เธอก็ได้กินยาเบื่อหนูและยาฆ่าแมลงเพื่อฆ่าตัวตายตามไป แต่สามีของเธอก็เข้ามาเห็นเข้า ก่อนที่จะนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลโดยด่วน และแพทย์ก็สามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้ทัน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว หัน กวนเฟิ่ง ได้กล่าวว่า "ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ ฉันจะขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานสังคมสงเคราะห์ แทนที่จะฆ่าลูกชายเพื่อตัดปัญหาแบบนั้น แต่ในวันนั้น ฉันกังวลเกี่ยวกับอนาคตของลูกชายมาก ถ้าวันหนึ่งฉันอายุมากขึ้น และไม่มีเรี่ยวแรงจะดูแลพวกเขาได้ พวกเขาจะมีชีวิตอยู่อย่างไร"
ทั้งนี้ หลังจากคดีนี้ได้รับการเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวจีนหลายคนรู้สึกเห็นใจเธอเป็นอย่างมาก โดยมีชาวจีนกว่า 558 คน ส่งจดหมายไปแสดงความเห็นใจ หัน กวนเฟิ่ง พร้อมกับเรียกร้องให้ศาลลดหย่อนโทษให้เธอด้วย เพราะเธอเองก็พยายามฆ่าตัวตายตามไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นเหยื่อในปัญหานี้เช่นเดียวกัน ขณะที่ศาลในมณฑลกวางตุ้ง ได้ตั้งข้อหาฆ่าคนตายให้กับเธอในเบื้องต้นแล้ว แต่ยังคงเก็บคดีนี้ไว้พิจารณาเพื่อตัดสินโทษต่อไป
