เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Dreena Burton
เด็ก ๆ เกือบทุกคนต้องเคยทานเยลลี่ เนื้อเหนียวหนุบสีสันสดสวยอย่างแน่นอน เพราะเป็นขนมที่วางขายอยู่ในโรงเรียนทั่วไป เด็ก ๆ ก็เลยหาซื้อ หาชิมได้ง่าย แถมรสชาติยังอร่อยถูกใจเด็ก ๆ เสียด้วย แม้ขนมเหล่านั้นจะไม่มีประโยชน์สักเท่าไหร่นักก็ตาม และเชื่อว่า หลายคนน่าจะพอทราบว่า ขนมเนื้อเหนียว ๆ อย่าง "เยลลี่" นั้น ทำมาจาก "เจลาติน"
สำหรับ "เจลาติน" (Gelatin) นั้น เป็นสารที่ถูกนำมาผสมส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์หลายชนิด เช่น เครื่องสำอาง ยา อาหาร และฟิล์มถ่ายรูป โดยเฉพาะขนมยอดฮิตหลาย ๆ ชนิด ล้วนมี "เจลาติน" เป็นส่วนประกอบ ทั้ง ไอศกรีม เยลลี่ โยเกิร์ต วุ้น อาหารเคลือบน้ำตาล หมากฝรั่ง แยม ซีเรียลบาร์ ฯลฯ เรียกว่าเป็นของอร่อย ๆ ที่ทานกันบ่อย ๆ ทั้งนั้น แต่หลายคนก็ยังไม่เคยรู้เลยว่า "เจลาติน" ที่ผสมในขนมหวาน ๆ นั้นทำมาจากอะไร อ๊ะ...ถ้าได้รู้อาจต้องอึ้ง! นั่นเพราะ "เจลาติน" พวกนี้ เป็นโปรตีนที่เกิดจากการสลายคอลลาเจนด้วยกรดหรือด่าง ซึ่งมีอยู่ในเนื้อเยื่อ กระดูก และลำไส้บางส่วนของสัตว์ เช่น โค กระบือ สุกร และม้านั่นเอง
หลายคนที่ไม่เคยทราบมาก่อนถึงกับตกใจกับความจริงเรื่องนี้ แถมยังแชร์ภาพการผลิตเจลาตินที่เผยให้เห็นกระดูกสัตว์เป็นส่วนประกอบอยู่ชัด ๆ ไปทั่วโลกไซเบอร์ ทำเอาหลาย ๆ คนรู้สึกขยาด และบอกว่า จะไม่กินขนมแบบนี้อีกแล้ว 555 ขณะที่หลายคนก็บอกว่า รู้อยู่แล้วว่า "เจลาติน" ทำมาจากกระดูกสัตว์ แต่ก็ไม่เคยเห็นภาพชัด ๆ แบบนี้มาก่อน
นอกจากนี้ ยังมีการส่งข้อมูลแชร์กันด้วยว่า เยลลี่ ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายเอาเสียเลย เพราะทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารที่ดีได้ยาก มีน้ำตาลเยอะ แถมยังเจือสีสังเคราะห์ และถ้าเด็ก ๆ ทานเข้าไปมาก ๆ จะทำให้รู้สึกอิ่ม และทานอาหารได้ยาก มีผลเสียต่อตัวเด็กด้วย
โอ้ว! เห็นภาพนี้แล้ว ยังจะกล้าทานอาหารและขนมที่มีเจลาตินผสมอยู่ลงไหมนะ?