เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ เรื่องเล่าเช้านี้
ญาติและชาวบ้านเป็นงง! หญิงวัย 48 ปี ตายแล้วฟื้นถึง 2 ครั้ง ญาติรีบนำน้ำหวานให้ดื่มพร้อมกับบีบนวด แต่สุดยื้อหมดลมหายใจถาวรในเวลาต่อมา
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่าที่บริเวณมัสยิด หมู่ที่ 1 ต.ชะไว อ.ไชโย จ.อ่างทอง เกิดเหตุคนตายแล้วฟื้นขณะกำลังจะทำพิธีฝังศพอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งภายหลังรับแจ้งรีบเดินทางไปตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังยืนดูศพ นางฟาติมะ เดชพงษ์ อายุ 48 ปี ชาว จ.สิงห์บุรี พร้อมกับจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนก็ทำพิธีอาบน้ำทำความสะอาดศพก่อนจะทำพิธีฝัง
จากการสอบถาม นางลิดา เดชพงษ์ อายุ 66 ปี ญาติของผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลลพบุรีมานานเนื่องจากป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ และเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ทางแพทย์โรงพยาบาลลพบุรี ได้แจ้งว่าทางนางฟาติมะหมดลมหายใจแล้ว แต่ระหว่างที่พยาบาลกำลังถอดสายออกซิเจนออกนางฟาติมะกลับหายใจขึ้นมาอีกครั้ง แต่สักพักไม่กี่นาทีนางฟาติมะก็หมดลมหายใจตายไปอีก ญาติจึงทำเรื่องนำศพออกจากโรงพยาบาลลพบุรีและนำขึ้นรถมาเพื่อจะนำมาฝังที่สุเหร่าใน ต.ชะไว จ.อ่างทอง
จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น. ระหว่างที่เดินทางมาถึงจังหวัดสิงห์บุรีใน ต.บ้านแป้ง จู่ ๆ นางฟาติมะ กลับฟื้นขึ้นมาหายใจเองลืมตาได้ ทางญาติจึงนำนางฟาติมะมาที่สุเหร่า จากนั้นชาวบ้านและญาติ ๆ ต่างช่วยกันบีบนวด และนำน้ำหวานให้นางฟาติมะกิน ซึ่งนางฟาติมะก็กินไปได้เกือบ 1 แก้ว จนญาติ ๆ ต่างดีใจ แต่สุดท้ายในเวลาประมาณ 13.00 น. นางฟาติมะก็หมดลมหายใจในที่สุด
นอกจากนี้ ทางด้านนางลัดดาวัลย์ ทาษร อายุ 51 ปี เพื่อนบ้านนางฟาติมะ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เป็นเรื่องน่าแปลกมากที่จู่ ๆ นางฟาติมะก็ตายแล้วฟื้นถึง 2 ครั้ง ตอนที่ฟื้นก็อยู่ด้วยเนื้อตัวที่แข็งกลับนิ่มเหมือนคนปกติ ที่สำคัญตนเองเป็นคนให้น้ำหวานให้นางฟาติมะดื่มเอง ซึ่งก็ดื่มตามปกติแต่ไม่พูดเท่านั้น จากนั้นก็หมดลมหายใจไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก