การบินไทย ยันไม่ทบทวนการเช่า โบอิ้ง 787 หลังพบปัญหาแบตเตอรี่


โบอิ้ง 787

โบอิ้ง 787


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

            การบินไทย ยันไม่ทบทวนการเช่าเครื่องบิน โบอิ้ง 787 หลังพบปัญหาแบตเตอรี่ไหม้ ที่สายการบินประเทศญี่ปุ่น คาดแก้ปัญหาเสร็จสิ้นก่อนส่งมอบในปี 2557 ขณะที่สายการบินทั่วโลก ระงับให้บริการเครื่องบินรุ่นดังกล่าวแล้ว ส่วนทางด้าน จ.พิษณุโลก ติดป้าย บริจาคโบอิ้ง 747 เพื่อการศึกษาและเรียนรู้

            จากกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศทั่วโลก ระงับการให้บริการเครื่องบินโดยสาร โบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ หลังจากมีรายงานว่า พบปัญหาที่แบตเตอรี่ในห้องควบคุมระบบไฟฟ้าใต้ห้องนักบิน แถมส่งกลิ่นไหม้ตลบทั้งห้องนักบินและห้องโดยสาร ที่สายการบินญี่ปุ่น

            โดยสายการบินนิปปอน เอเวย์ส ประเทศญี่ปุ่น ต้องร่อนลงจอดฉุกเฉินเมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา เพราะมีการตรวจสอบพบการรั่วไหลของอิเล็กโทรไลท์ และมีรอยไหม้หลายจุดที่แบตเตอรี่ในห้องควบคุมระบบไฟฟ้าใต้ห้องนักบิน แถมส่งกลิ่นไหม้ตลบทั้งห้องนักบินและห้องโดยสาร และหลังเกิดเหตุ ทางสายการบินก็ได้ออกมาขอโทษผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางกับเที่ยวบินนั้น โดยกล่าวว่ารู้สึกเสียใจที่ทำให้ผู้โดยสารเกิดความวิตกกังวลในความปลอดภัย ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

            จากข่าวดังกล่าว ได้ทำให้เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ ของสายการบินหลายแห่งทั่วโลก ระงับการให้บริการเช่นกัน ด้วยความวิตกด้านความปลอดภัยว่า หากนำขึ้นบินจะประสบปัญหาเดียวกัน หรือเกิดหายนะขึ้น

            อย่างไรก็ดี ขณะนี้สายการบินต่าง ๆ ที่ระงับการให้บริการเครื่องบินโบอิ้ง 787 กำลังอยู่ระหว่างรอการตรวจสอบความปลอดภัยจากสำนักงานบริหารการบินแห่งสหพันธ์ สหรัฐอเมริกาอยู่ และจะไม่นำเครื่องบินโบอิ้ง 787 ขึ้นบินจนกว่าจะมั่นใจว่าเครื่องบินมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง

            ทั้งนี้ ทางด้านนักวิเคราะห์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า เป็นเรื่องปกติที่เครื่องบินรุ่นใหม่ ๆ จะพบปัญหาอยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะปัญหาเล็ก ๆ ไปจนถึงปัญหาน่าวิตก จนต้องนำเครื่องลงดังกล่าว ดังนั้น สายการบินที่นำเครื่องรุ่นใหม่ขึ้นบินเป็นแห่งแรก ๆ มักจะมีความเสี่ยงสูง สายการบินหลายแห่งจึงมักจะไม่เลือกที่จะเป็นสายการบินแห่งแรก ๆ ที่นำเครื่องบินรุ่นใหม่มาใช้ เพราะเหตุผลดังกล่าวนี้เอง

            ส่วนทางด้าน นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า การบินไทยได้สั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้มา 8 ลำ คาดว่าจะได้รับมอบล็อตแรกภายในปี 2557 และทยายส่งมอบเสร็จภายในปี 2560 ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินรุ่นดังกล่าว จึงไม่มีผลกระทบใด ๆ กับการบินไทย
    
            ขณะที่ ฝ่ายช่างการบินไทยได้ประสานกับบริษัท โบอิ้ง บริษัทผู้ผลิตเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ของเครื่องบินรุ่นนี้อย่างต่อเนื่อง และรับทราบเบื้องต้นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินรุ่นดังกล่าว ยังไม่เกี่ยวข้องกับด้านความปลอดภัย จึงต้องรอผลสรุปปัญหาจากทั้งโบอิ้ง และทางหน่วยงานด้านความปลอดภัยอากาศยานของสหรัฐอเมริกา (SIA) อีกครั้ง และหาเป็นปัญหาใหญ่ จะกลับมาทบทวนว่าจะเช่าเครื่องบินนี้หรือไม่ ทั้งนี้เบื้องต้นเชื่อว่า บริษัท โบอิ้ง จะสามารถแก้ปัญหาได้ก่อนส่งมอบรับเครื่องในปี 2557

            สำหรับทางสำนักบริหารการบินสหรัฐฯ หรือ เอฟเอเอ ได้ออกคำเตือนให้สายการบินทั่วโลกคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยของสายการบินเป็นหลัก เพื่อให้หน่วยงานที่ดูแลการบินในแต่ละประเทศคอยตรวจสอบสถานการณ์ในประเทศ นอกจากนั้น สำนักงานความปลอดภัยทางด้านการบินยุโรป หรือ อีเอเอสเอ ก็ได้สั่งระงับเครื่องบินรุ่นดังกล่าวแล้ว และจะมีผลโดยตรงต่อสายการบิน ล็อต แอร์ไลน์ส ของโปแลนด์ ที่มีเครื่องบิน 787 จำนวน 2 ลำ ซึ่งเป็นสายการบินเดียวในยุโรปที่ใช้เครื่องบินรุ่นนี้
 
            ทางด้าน บริษัทจีเอส ยัวซา ของญี่ปุ่น ที่ผลิตแบตเตอรี่ที่ใช้ในเครื่องดรีมไลเนอร์ ชี้แจงว่า ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าปัญหาเกิดจากแบตเตอรี่ หรือระบบไฟฟ้า พร้อมกับยืนยันว่า บริษัทมีประสบการณ์และความชำนาญในการผลิตแบตเตอรี่มายาวนาน และเชื่อว่าการพิสูจน์สาเหตุอาจจะต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์เลยทีเดียว
 
            ขณะเดียวกัน ที่ท่าอากาศยานจังหวัดพิษณุโลก ผู้โดยสารทั้งต่างจังหวัด และชาวพิษณุโลก ต่างให้ความสนใจ กับป้ายข้อความขนาดใหญ่ ที่ติดไว้บนเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 2 ลำ ซึ่งมีข้อความบนเครื่องบินทั้ง 2 ลำว่า "เครื่องบินลำนี้ เป็นทรัพย์สินที่บริจาคเพื่อการศึกษาและเรียนรู้" และเมื่อได้สอบถาม นายเกษม อินทสร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดพิษณุโลก ก็ทราบว่า เครื่องบินทั้งสองลำ เป็นเครื่องบินของ บริษัท โอเรียลไทย จำกัด ซึ่งมาจอดที่ท่าอากาศยาน จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ปี 2551 และช่วงปี 2554 ก็ถูกกองปราบมาตรวจสอบ และอายัดดำเนินคดีไว้ จนถึงปัจจุบันเครื่องบินก็ยังจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานจังหวัดพิษณุโลกเช่นเดิม โดยยังเสียค่าจอดเครื่องบินตามระเบียบของท่าอากาศยานในอัตรา 1,000 กว่าบาทต่อลำต่อ 1 วัน หรือ ทั้งสองลำเสียค่าจอดเดือนละ 70,000 กว่าบาทต่อเดือน

            นอกจากนี้ ผอ.ท่าอากาศยานจังหวัดพิษณุโลก กล่าวต่อว่า ในการติดป้ายข้อความเครื่องบินทั้งสองลำนั้น ทาง บริษัท โอเรียลไทย จำกัด ได้ขออนุญาตจากท่าอากาศยานจังหวัดพิษณุโลกแล้ว เมื่อประมาณ 5 เดือนก่อน แต่ไม่ทราบว่าเจตนาเพื่อการศึกษา หรือบริจาคให้หน่วยงานไหน อย่างไรก็ดี อยากให้มีการดำเนินคดีในเรื่องต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ท่าอากาศยาน จ.พิษณุโลก จะได้ใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

 



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
การบินไทย ยันไม่ทบทวนการเช่า โบอิ้ง 787 หลังพบปัญหาแบตเตอรี่ โพสต์เมื่อ 17 มกราคม 2556 เวลา 18:08:46 3,423 อ่าน
TOP
x close