นักอนุรักษ์ ยุ ไซเตส คว่ำบาตรไทย ตัวการค้างาช้างผิดกฎหมาย


ช้าง

นักอนุรักษ์ ยุ ไซเตส คว่ำบาตรไทย (ไทยโพสต์)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก WWF Thailand

         ไทยตกเป็นเป้าโจมตีขององค์กรอนุรักษ์ โดยกองทุนชีวิตป่าโลกจับมือองค์กรทราฟฟิกเรียกร้องประเทศสมาชิกอนุสัญญาไซเตสคว่ำบาตรไทย พร้อมกับไนจีเรีย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ระบุเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการค้างาช้างผิดกฎหมาย
   
         ประเทศไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ซึ่งมีสมาชิกทั้งสิ้น 177 ชาติ ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 3-14 มีนาคมนี้ แต่ไทยในฐานะที่เป็นชาติสมาชิกด้วย กำลังถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดกฎหมายห้ามการค้างาช้าง โดยล่าสุดองค์กรอนุรักษ์กลุ่มสำคัญทั้งกองทุนชีวิตป่าโลก (WWF) และองค์กรทราฟฟิก (TRAFFIC) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเรียกร้องให้ไซเตสลงโทษประเทศที่ละเมิด
   
         "เป็นสิ่งสำคัญที่ไซเตสจะใช้อำนาจของตนเผชิญหน้ากับปัญหานี้" จิม ลีพ ผู้อำนวยการใหญ่ของ WWF กล่าวผ่านการประชุมทางไกลมายังกรุงเทพฯ "เราอยากให้ชาติต่าง ๆ ในไซเตสแซงก์ชั่นสามประเทศที่มีส่วนสำคัญที่สุดต่อปัญหาการค้างาช้าง ซึ่งก็คือ ไทย, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และไนจีเรีย"
   
         องค์กรทั้งสองเสนอว่า ชาติสมาชิกไซเตสควรจะหยุดทำการค้าขายแลกเปลี่ยนชนิดพันธุ์ทั้งหมด 35,000 ชนิดที่อยู่ภายในอนุสัญญานี้ กับทั้ง 3 ชาติที่กระทำผิดกฎ จนกว่าจะมีการดำเนินการควบคุมการค้างาช้าง
   
         ตัวแทนของกองทุนชีวิตป่าโลกผู้นี้กล่าวว่า ปัจจุบันเรากำลังเผชิญวิกฤติการลักลอบล่าสัตว์ป่าอย่างที่ไม่เคยเผชิญมานานมากแล้ว การล่าช้างเพื่อเอางาและการล่าแรดเพื่อเอานอเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก ข้อมูลขององค์กรนี้ระบุว่า แต่ละปีมีช้างแอฟริกาถูกฆ่าเพื่อเอางาอย่างผิดกฎหมายถึงปีละ 30,000 ตัว
   
         ทั้งนี้ ปัจจุบันแอฟริกามีช้างป่าประมาณ 472,000 ตัว แต่การขยายตัวของประชากรกำลังคุกคามที่อยู่อาศัยของพวกมัน
   
         ส่วนปัญหาการล่าแรดเพื่อเอานอก็น่าวิตกมากเช่นกัน ปี 2555 มีแรดแอฟริกาใต้ถูกล่ามากเป็นสถิติถึง 668 ตัว เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ถึงเกือบ 50% ขณะที่ในปีนี้ WWF พบว่ามีแรดถูกฆ่าตายแล้ว 100 ตัว
   
         การลักลอบค้าชิ้นส่วนอวัยวะสัตว์ป่าเหล่านี้เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเอเชียและตะวันออกกลาง ที่ซึ่งงาช้างและนอแรดถูกใช้เพื่อทำเครื่องประดับและยาแผนโบราณ โดยตลาดที่สำคัญคือจีนและเวียดนาม
   
         สตีเวน บรอด ผู้อำนวยการบริหารองค์กรทราฟฟิก กล่าวว่า แม้ว่ารัฐบาลจีนได้มีมาตรการหลายอย่างเพื่อแก้ไขปัญหานี้ แต่ความต้องการของตลาดยังเป็นแรงขับดันสำคัญ ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดที่รัฐบาลจีนต้องดำเนินการ
   
         ส่วนกรณีเวียดนาม บรอดกล่าวว่า ประเทศนี้กำลังกลายเป็นประเทศผู้บริโภคนอแรดมากที่สุดในโลก เนื่องจากการทำตลาดเกินการควบคุม ซึ่งรวมถึงการโฆษณาสรรพคุณว่าเป็นยาบรรเทาอาการเมาค้างได้ ขณะที่รัฐบาลเวียดนามกลับไม่ดำเนินการจริงจัง
   

         กลุ่มอนุรักษ์เหล่านี้ยังได้เรียกร้องรัฐบาลไทยห้ามการขายงาช้างทุกชนิด โดยให้เหตุผลว่าพวกอาชญากรอาศัยช่องโหว่กฎหมายไทย นำงาช้างแอฟริกามาขายในร้านค้าของไทยโดยที่ลูกค้าซึ่งมักเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่รู้ที่มาที่ไปอย่างแท้จริง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นักอนุรักษ์ ยุ ไซเตส คว่ำบาตรไทย ตัวการค้างาช้างผิดกฎหมาย โพสต์เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 09:04:45 1,793 อ่าน
TOP
x close