ลูกชายตามหาแม่ที่พลัดพรากกว่า 22 ปี กับวินาทีที่รอคอย ในตีสิบ


ตีสิบย้อนหลัง ยาห์ย่า แบ็คการ์ ลูกชายตามหาแม่ที่พลัดพรากกว่า 24 ปี กับวินาทีที่รอคอย

ตีสิบย้อนหลัง ยาห์ย่า แบ็คการ์ ลูกชายตามหาแม่ที่พลัดพรากกว่า 24 ปี กับวินาทีที่รอคอย

ตีสิบย้อนหลัง ยาห์ย่า แบ็คการ์ ลูกชายตามหาแม่ที่พลัดพรากกว่า 24 ปี กับวินาทีที่รอคอย


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการตีสิบ โพสต์โดย คุณ FullTVThailand

            ไม่ว่าด้วยเหตุผลได้ก็ตามที่ทำให้ลูกกับแม่ต้องพลัดพรากจากกัน แต่เชื่อเลยว่า.. สายใยแห่งความรัก ความผูกพันระหว่างแม่กับลูกจะไม่มีวันขาดจากกัน ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะอยู่ห่างกันคนละฟากฟ้า คนละขั้วโลกก็ตาม เฉกเช่นเรื่องราวของหนุ่มวัย 24 ปีคนนี้ ที่ออกตามหาแม่มานานหลายปี และในที่สุดโชคชะตาฟ้าก็ลิขิตอีกครั้ง เมื่อเขาได้เจอแม่ที่เขาตามหามาเนิ่นนาน...

            เมื่อค่ำคืนวันที่ 12 มีนาคม 2556 รายการตีสิบ ได้นำเสนอเรื่องราวดังกล่าว โดยคุณวิทวัส เปิดเผยว่า มีชายคนหนึ่งส่งอีเมลจากอเมริกา ระบุชื่อว่า "ยาห์ย่า แบ็คการ์" เพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาแม่ พร้อมแนบรูปผู้หญิงคนหนึ่งที่ยาห์ย่าระบุว่าเป็นแม่ของเขา และมีข้อความระบุสั้น ๆ ว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นคนไทย แม่ของเขาหน้าตาแบบนี้ เขาอยากจะเจอแม่เพื่อกราบขอบคุณที่แม่ให้กำเนิดเขามา..

ตีสิบย้อนหลัง ยาห์ย่า แบ็คการ์ ลูกชายตามหาแม่ที่พลัดพรากกว่า 24 ปี กับวินาทีที่รอคอย

            หลากหลายคนที่ส่งเรื่องผ่านรายการตีสิบ ให้เป็นสื่อกลางในการตามหาครอบครัว บ้างก็ได้เจอ บ้างก็ไม่ได้เจอ บ้างก็ต้องใช้เวลานานร่วมปี หรือหลายปี แต่ในการตามหาคุณแม่ของยาห์ย่าครั้งนี้ เหมือนดังพรหมลิขิตขีดเส้นไว้ ใครจะเชื่อว่าใช้เวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น ทางรายการก็ได้พบกับคุณจิ๊บ อัญชลี คุณแม่ของยาห์ย่าอย่างง่ายดาย...

            คุณจิ๊บ ได้เล่าถึงวินาทีที่คุณวิทวัสติดต่อไปว่า ตนรู้สึกช็อกมากเพราะชื่ออัญชลีไม่มีใครเรียก ชื่อนี้เป็นชื่อเก่าของตน ตนเปลี่ยนชื่อเป็น ภัทรธิดา มานานหลายปีแล้ว และเมื่อคุณวิทวัสได้ถามว่าใช่แม่ของยาห์ย่าหรือไม่ ทำให้ตนตกใจมาก เพราะยาห์ย่านั้น เป็นชื่อที่ตนตั้งให้ลูกชาย

            "จิ๊บแต่งงานกับพ่อของยาห์ย่าที่มัสยิดย่านพระโขนง ตามประเพณีอิสลามเพราะคุณปู่ของยาห์ย่าเป็นโต๊ะอิหม่าม หลังจากแต่งงานก็ได้ย้ายไปอยู่เมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ต่อมาแต่งงานอยู่กินกันได้สักระยะตนก็ตั้งท้องยาห์ย่า ซึ่งพอคลอดออกมา ด้วยความรู้สึกของคนเป็นแม่ คือนึกถึงความรักของพ่อของแม่ที่เลี้ยงเรามา เลยอยากจะพาลูกกลับมาเมืองไทย มาไหว้คุณตา คุณยาย... แต่แฟนไม่ยอมบอกว่าอยากให้ลูกอยู่ซาอุฯ อยากให้ลูกเป็นอิสลาม ซึ่งจิ๊บพยายามขอหลายครั้ง แต่แฟนก็ไม่ยอมให้กลับ เลยคิดว่าไม่ได้ล่ะ เราต้องดื้อ เลยจะอุ้มลูกออกจากบ้านเพื่อไปสถานทูตไทย แฟนจึงยอมให้กลับ" คุณจิ๊บ กล่าว

ตีสิบย้อนหลัง ยาห์ย่า แบ็คการ์ ลูกชายตามหาแม่ที่พลัดพรากกว่า 24 ปี กับวินาทีที่รอคอย

            คุณจิ๊บ เล่าต่อว่า เมื่อมาถึงประเทศไทย ด้วยปัญหาเรื่องพาสปอร์ตที่ของแฟนจิ๊บจะหมดอายุภายใน 3 เดือน ซึ่งจริง ๆ แล้วตามกำหนดมันต้องมีอายุมากกว่า 6 เดือน จึงทำให้ลูกกับแฟนต้องกลับไปซาอุฯ ตนก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอคอยวันที่แฟนจะพาลูกมาหาตลอดเวลา... แต่ระหว่างนั้น ตนก็ได้โทรศัพท์ติดต่อกับแฟน แต่ด้วยความที่เมื่อก่อนไม่มีมือถือ การติดต่อข้ามประเทศก็ไม่สะดวกสักเท่าไร หนำซ้ำคุณพ่อคุณแม่ของแฟนก็ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เลยทำให้สื่อสารกันลำบาก จะคุยทีก็ต้องรอแฟนกลับบ้านมาก่อน ซึ่งการติดต่อก็ขาด ๆ หาย ๆ ไป

            "ตอนที่พาลูกกลับมาครั้งแรกลูกอายุประมาณ 9 เดือน เวลาผ่านไปประมาณ 2 ปี เค้าก็มาหาที่ไทยอีก อุ้มยาห์ย่ามาด้วย เพื่อให้เราใจอ่อน บอกเราว่ากลับไปกันเถอะ แต่จิ๊บไม่ยอม อยากให้ลูกอยู่เมืองไทย ซึ่งเขาก็ไม่ยอมเหมือนเดิม และอ้างว่าใบเกิดลูกอยู่ที่นู่น แล้วก็เอาลูกกลับไปด้วย... ต่อจากนั้นไม่นาน เพื่อนของตนที่ไปทำพิธีฮัจญ์ กลับมาเล่าให้ฟังว่า แฟนของตนแต่งงานใหม่ไปแล้ว และย้ายไปอยู่ที่อื่น ตนก็รีบติดต่อกลับไป ก็พบว่าคุณพ่อของแฟนเสียแล้ว เลยทำให้ไม่สามารถทราบที่อยู่ใหม่ของแฟน ไม่รู้ว่าเขาย้ายไปไหน ซึ่งตลอดเวลาตนก็พยายามติดต่อเสาะหาที่อยู่เขามาตลอดแต่ก็ไม่พบวี่แววเลย"
 
            เวลาล่วงเลยผ่านมาหลายปี ลูกชายของคุณจิ๊บก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ และเริ่มที่จะตามหาคุณแม่ซึ่งให้กำเนิดเขา พร้อมบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเป็นในวันนี้ เพราะเขามีแม่เป็นแรงบันดาลใจเสมอ ถึงแม้ว่าจะพลัดพรากจากกันตั้งแต่ยังเด็กก็ตาม แต่แม่ก็อยู่ในใจเขาเสมอมา และถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะก้มกราบขอบพระคุณคุณแม่ ที่มอบชีวิตให้กับเขา...

            หลังจากที่ทางรายการทราบว่าคุณจิ๊บ คือคุณแม่ของยาห์ย่าจริง จึงได้ส่งอีเมลกลับไปหายาห์ย่า โดยอีเมลฉบับดังกล่าวระบุว่า... ทางรายการขอแสดงความยินดีกับคุณยาห์ย่าด้วย ขณะนี้เราได้พบคุณแม่ของคุณแล้ว เธอตกใจมากเมื่อทราบว่าคุณยาห์ย่าอยู่ที่อเมริกา และรู้สึกภูมิใจเมื่อทราบว่าตอนนี้คุณเป็นนักพูดที่มีชื่อเสียงในอเมริกา... โทรไปหาเขาได้เลย หรือไม่แน่ตอนนี้คุณอาจจะได้รับโทรศัพท์จากแม่คุณแล้วก็เป็นได้

ตีสิบย้อนหลัง ยาห์ย่า แบ็คการ์ ลูกชายตามหาแม่ที่พลัดพรากกว่า 24 ปี กับวินาทีที่รอคอย

            เพียงแค่ 2 ชั่วโมงที่ทางรายการส่งอีเมลให้ยาห์ย่าไป ก็มีอีเมลตอบกลับจากเขา โดยมีข้อความดังนี้... ตอนนี้ผมยังช็อกอยู่เลย ผมตื่นมาตอนตี 2 เพราะเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ซึ่งเมื่อตนรับปลายสายก็พูดว่า... นั่นยาห์ย่าใช่ไหมลูก นี่แม่พูดนะ ผมคิดว่าผมฝันไป ผมได้เจอแม่แล้วจริง ๆ ... ผมเพิ่งวางโทรศัพท์จากแม่ไป ผมดีใจมากที่แม่ปลอดภัย และมีความสุขดี ผมจะรีบเดินทางมาเมืองไทยให้เร็วที่สุด

            ด้านคุณจิ๊บหลังจากได้ยินคุณวิทวัสเล่าถึงอีเมลฉบับดังกล่าวก็น้ำตาซึม และพูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า... "หลังจากที่ตนรู้ว่าลูกเป็นนักพูดสาธารณะ ตนเสิร์ชชื่อลูกหาในกูเกิล และก็ร้องไห้เมื่อได้เห็นหน้าลูก น้ำตาตนไหลออกมาตลอด ตนต้องขอบคุณสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย ที่ลูกของตนเป็นคนดี แล้วก็ทำประโยชน์ให้กับสังคม ตนภาคภูมิใจในตัวลูกมาก ซึ่งสิ่งนี้ตนเชื่อว่า เป็นผลมาจากพลังแห่งความรัก พลังแห่งแรงอธิษฐานที่ตนถือศีลภาวนาให้ลูกตลอด บวกกับการดูแลคุณพ่อ คุณแม่อย่างดีมาตลอด ซึ่งผลบุญจึงส่งให้ตนได้พบกับลูกจริง ๆ "

            "ตอนนี้ยาห์ย่าโทรมาหาทุกวันเลย ทั้งตื่นเช้า และก่อนนอน มันเป็นความสุขที่ไม่เคยมีมาก่อน.. ความรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เมื่อก่อนนอนไม่ค่อยหลับ คิดถึงลูก อยากเจอลูก แต่ตอนนี้เจอแล้ว พลังแห่งความรักมันมีจริง ๆ " คุณจิ๊บ กล่าวทั้งน้ำตา
 
            คุณจิ๊บ เล่าให้ฟังอีกว่า เราแลกกันส่งรูปให้ดู ตนก็ส่งรูปในที่ทำงาน ส่งรูปต่าง ๆ ไปให้เขา ส่วนเขาก็ถามตนว่า คุณแม่ ๆ ทำไมคนไทยดูไม่แก่เลย ด้านคุณวิทวัส กล่าวเสริมว่า ยาห์ย่าบอกว่าแม่เขาสวยเหมือนมิสยูนิเวิร์ส ซึ่งคุณจิ๊บฟังแล้วถึงกับคลี่ยิ้มออกมาเลยทีเดียว...

            ต่อมาคุณวิทวัสก็ได้เปิดวิดีโอที่ยาห์ย่าฝากมาให้คุณจิ๊บ ซึ่งในคลิปวิดีโอดังกล่าว ยาห์ย่าพูดว่า นานเกือบ 25 ปี ที่เราไม่ได้เจอกัน ผมไม่รู้ว่าจะบรรยายความรู้สึกผมอย่างไร ผมอยากจะบอกว่าตลอดชีวิตของผมถึงแม้ว่าไม่มีแม่อยู่ใกล้ แต่ผมรู้สึกว่าเหมือนมีแม่เคียงข้างผมมาโดยตลอด.. แม่ของผมเป็นนางฟ้า เป็นกำลังใจให้ผม เมื่อยามที่ผมโดดเดี่ยว ผมมีแม่อยู่ในใจเสมอ ผมอยากจะกราบขอบคุณแม่ที่มอบชีวิตให้ผม ที่อุ้มท้องผมนาน 9 เดือน ที่ทำให้ผมได้อยู่บนโลกในนี้... ผมอยากให้แม่รู้ว่า ผมรักแม่มาก และเฝ้ารอวันที่เราจะได้เจอกัน"

            อย่างไรก็ตาม ทางรายการเตรียมทำเซอร์ไพรส์ให้คุณจิ๊บ ด้วยการพายาห์ย่ามาเซอร์ไพรส์ที่รายการ แต่ด้วยอุปสรรคเรื่องเที่ยวบินทำให้ยาห์ย่าไม่สามารถมาทันตอนที่รายการบันทึกเทปได้ จึงต้องเลื่อนเที่ยวบินเป็นไฟลท์ต่อไปแทน... ส่วนคุณจิ๊บก็เข้าใจว่าอีก 2 วัน เธอถึงจะได้เจอลูก และเธอก็นับเวลาถอยหลังอย่างตื่นเต้นเช่นกัน โดยบอกกับทางรายการว่า คำแรกที่อยากจะบอกลูกก็คือ แม่รักลูกนะ และแม่ก็เสียใจที่ไม่ได้ดูแลลูก ต่อจากนี้ทุกเวลาจะเป็นของลูก จะชดใช้ความสุข ชดเชยเวลาทั้งหมด ให้เขา... ในส่วนที่ขาดหายไป
 
            แต่ทั้งนี้ ทางรายการก็ไม่ยอมที่จะหยุดเซอร์ไพรส์ เพราะในวันรุ่งขึ้น คุณวิทวัสได้ไปรับยาห์ย่าที่สนามบิน ประกอบกับคุณจิ๊บทำงานอยู่ในสำนักงานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในส่วนอาคารผู้โดยสาร จึงได้วางแผนให้แม่กับลูกได้เจอกันที่นั่น โดยเพื่อน ๆ ของคุณจิ๊บก็ได้ร่วมมือกับทางรายการ ทำทีว่าให้เธอมาทำธุระให้ผู้อำนวยการ ซึ่งเธอก็ลงมาตามคำสั่ง แต่พอลงมาถึงหน้าล็อบบี้โรงแรมที่นัดผู้อำนวยการไว้ กลับพบคุณวิทวัสซะอย่างนั้น

ตีสิบย้อนหลัง ยาห์ย่า แบ็คการ์ ลูกชายตามหาแม่ที่พลัดพรากกว่า 24 ปี กับวินาทีที่รอคอย

            ส่วนทางด้านยาห์ย่าก็เตรียมเซอร์ไพรส์แม่ของเขาเช่นกัน ด้วยการปลอมตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟ ขณะที่คุณวิทวัสก็ทำทีว่ามาขอสัมภาษณ์พูดคุย พร้อมบอกข่าวเรื่องไฟลท์บินของยาห์ย่า ก่อนที่จะชักชวนให้คุณจิ๊บทานน้ำ และวินาทีที่พนักงานเสิร์ฟเดินมาเสิร์ฟน้ำ คุณจิ๊บก็ได้ยินเสียงจากพนักงานเสิร์ฟว่า "ไฮ มัม" คุณจิ๊บถึงกับอ้าปากค้าง และเข้าสวมกอดลูกชายของเธอในทันที ส่วนยาห์ย่าห์พร่ำบอกว่ารักแม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก... พร้อมกับก้มลงกราบเท้าแม่ และกอดหอมแม่หลายทีเลยทีเดียว

            หลังจากนั้นยาห์ย่าก็แนะนำให้คุณจิ๊บรู้จักแฟนสาวที่คบกันมากกว่า 10 ปี พร้อมกับเพื่อน ๆ ชาวแก๊งที่มาแสดงความยินดีในครั้งนี้ด้วย ส่วนเพื่อน ๆ ของคุณจิ๊บก็ได้เตรียมป้ายไฟ MOM LOVE YAHYA มาถือโชว์ด้วย... โดยยาห์ย่ากล่าวว่า หลังจากนี้จะอยู่เมืองไทย 4 วัน จะทำอะไรก็ได้ตามที่แม่อยากให้ทำ และอยากให้แม่ไปอยู่ที่อเมริกาด้วย ส่วนคุณจิ๊บก็บอกว่าต้องดูแลคุณตาคุณยายก่อน เนื่องจากท่านอายุมากแล้ว แต่รับปากว่าจะไปเที่ยวในวันเกิดของยาห์ย่า วันที่ 15 เมษายน นี้แน่นอน ท้ายนี้ ยาห์ย่าเข้าไปกอดคุณจิ๊บและบอกว่า.. จะดูแลคุณแม่ให้เหมือนกับราชินีเลย

            ...วินาทีแห่งการรอคอยสิ้นสุดลง ทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยวินาทีแห่งความสุข... ตลอดระยะเวลากว่า 22 ปีที่พวกเขาต้องพลัดพรากกัน ตอนนี้กลับถูกเติมเต็มด้วยความรักความอบอุ่น ที่ทั้งคู่ต่างตามหาความรู้สึกนี้มานานแสนนาน อย่างไรก็ตาม กระปุกดอทคอมก็ขอแสดงความยินดีกับพวกเขาด้วยนะคะ อ้อมกอดของแม่เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดในโลกแล้วล่ะ ว่าไหม?

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลูกชายตามหาแม่ที่พลัดพรากกว่า 22 ปี กับวินาทีที่รอคอย ในตีสิบ โพสต์เมื่อ 13 มีนาคม 2556 เวลา 12:10:09 15,403 อ่าน
TOP
x close