เสี่ยอู๊ด สิทธิกร บุญฉิม เปิดใจเคลียร์ข่าวครั้งแรก ในวู้ดดี้เกิดมาคุย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย

          เสี่ยอู๊ด สิทธิกร บุญฉิม เปิดใจหลังออกจากคุก กับรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย เป็นครั้งแรก เล่าถึงชีวิตในเรือนจำ เผยเคยคิดฆ่าตัวตาย เสี่ยอู๊ด โต้เคยเป็นแฟน แพท พาวเวอร์แพท ในคุก

          หลังจากที่ เสี่ยอู๊ด สิทธิกร บุญฉิม หรือ เสี่ยอู๊ดพระเครื่อง ถูกศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี ในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน กรณีโฆษณาหลอกลวงให้ประชาชนเช่าพระสมเด็จเหนือหัว เมื่อปี 2550 ล่าสุด เสี่ยอู๊ด ก็ได้พ้นโทษออกจากเรือนจำมาแล้ว เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556 ก่อนจะมาเปิดใจแบบเอ็กซ์คลูซีฟเป็นครั้งแรกในรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย ที่ออกอากาศเมื่อค่ำคืนวันที่ 30 มิถุนายน 2556

          เริ่มต้น วู้ดดี้ ถามถึงความรู้สึกที่ เสี่ยอู๊ด ได้รับอิสรภาพเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี แต่เจ้าพ่อพระเครื่อง กลับบอกว่า เป็นอิสรภาพที่ยังไม่มีอิสระเท่าใดนัก เพราะถูกกำหนดให้ไปนู้น มานี่ วันนี้ต้องทำอย่างนู้น อย่างนี้ เลยยังไม่ได้พักผ่อน หลังจากพ้นโทษออกมา เขาก็ได้เดินสายทำบุญ

         เมื่อถามถึงวินาทีที่ถูกจับเข้าคุก เสี่ยอู๊ด บอกว่า ตั้งแต่เด็กเขาเป็นคนที่ไม่หนีอยู่แล้ว พอแม่จะตี พี่ ๆ น้อง ๆ วิ่งหนีหมด แต่เขานั่งอยู่เฉย ๆ ให้แม่ตี เพราะคิดว่าจะหนีทำไม ยิ่งหนี เขาก็ยิ่งไล่ ก็เหมือนกับคดีความ เขาก็ไม่หนี จะพาไปขังคุกก็ไป โดยในวันที่ถูกควบคุมตัวที่สนามบินนั้น วันนั้นเขากำลังพาลูกน้องไปเที่ยวประจำปีที่ญี่ปุ่น ตอนนั้นเช็กอินแล้วและกำลังรับประทานอาหารอยู่ ก็มีเจ้าหน้าที่จาก DSI มาแสดงหมายศาลแล้วจับตัวเขาไป ตอนแรกก็ตกใจที่มากันเยอะมาก แต่ไม่ได้รู้สึกเครียด ไม่ได้คิดหนี ตอนเข้าคุกก็เดินเข้าไปเลย ไม่ได้ใช้สูตรเข้าคุกโดยเดินหันหลังเข้าตามที่คนพูดกัน โดย 5 ปีที่ผ่านมาตอนอยู่ในคุก เขาเป็นแค่ผู้ต้องขังที่ใส่ชุดสีน้ำตาล ยังไม่ใช่นักโทษ

          ด้านความรู้สึกที่ต้องติดคุกนั้น เสี่ยอู๊ด บอกว่า จริง ๆ แล้วทุกโครงการที่ตัวเองทำก็เกิดเรื่องขึ้นทุกครั้ง มีที่เป็นคดีความบ้างไม่เป็นบ้าง แต่กับเรื่องนี้ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นหนุมานแบกกรุงลงกาไว้เพียงผู้เดียว เพราะยังมีระดับสูงขึ้นไปอีก แต่เขามี "ความรับผิดชอบ"

         "มนุษย์เราอย่ารับแต่ชอบอย่างเดียว เราต้องกล้ารับทุกอย่าง" เสี่ยอู๊ด บอกด้วยว่านั่นจึงทำให้เขายอมรับทุกอย่างตามคำตัดสินของศาล จะผิดจะถูกไม่ได้มอง แต่รู้ว่าเขาภาคภูมิใจที่ไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับผู้อื่นที่เขาเคารพรัก และในวันที่กำลังเดินเข้าเรือนจำ เขาได้เขียนจดหมายตัดพ้อขณะฝนตกถึงผู้ที่เขาเคารพรักว่า เขาไม่เชื่อว่าบุญกุศลมีจริง ถ้าบุญมีจริงวันนี้เขาต้องไม่เข้าคุก เพราะที่ผ่านมาก็ทำเรื่องดี ๆ ทำตามที่ท่านสอนมาโดยตลอด ปกป้องท่าน แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ทำไมสวนทางกับอดีตที่ทำมาทั้งหมด จึงอยากให้ท่านรับรู้




          เมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงโทษจำคุกได้ เสี่ยอู๊ด ก็ทำใจเดินเข้าเรือนจำ ซึ่งเขาก็ได้เล่าบรรยากาศในเรือนจำที่เขาใช้ชีวิตกินอยู่มาตลอด 5 ปีให้ฟังว่า เป็นเหมือนโรงเรียนกินนอนประจำ ผู้คุมเหมือนกับ ครู หมอ ยาม ญาติ และที่ปรึกษา ไม่ได้เลวร้ายเหมือนในหนัง ก็เป็นไปตามอัตภาพ

        จากนั้น เสี่ยอู๊ด ก็ขอเคลียร์ข่าวลือที่คนพูดกันทุกประเด็น เริ่มตั้งแต่ข่าวที่ว่าเขาเข้าไปในเรือนจำ และได้เป็นแฟนกับ แพท พาวเวอร์แพท อดีตนักร้องดังที่ติดคุกเพราะค้ายาอี...เรื่องนี้ ทำเอานักธุรกิจพระเครื่องคนดังถึงกับส่ายหน้า ว่า ไม่เป็นความจริง ไม่รู้จัก และไม่เคยเจอ เพราะเรือนจำที่เขาอยู่เป็นเรือนจำคดีทั่วไป และยืนยันว่า ไม่มีเรื่องความรักในเรือนจำอย่างที่สื่อไปลงข่าวกันแน่นอน เพราะในคุกเป็นสถานที่กักกัน ไม่ใช่สวนสนุกหรือสรวงสวรรค์เสียหน่อย

         ส่วนข่าวลือที่ว่าเขาสนิทสนมกับผู้คุมเหลือเกินนั้น เสี่ยอู๊ด บอกว่า คำถามนี้ไม่ส่งผลดีเลย อย่าว่าแต่ตอบเลย แค่พูดไปก็อายปาก เพราะมันไม่เป็นความจริง เช่นเดียวกับข่าวลือที่ว่า แท้จริงแล้ว เสี่ยอู๊ดไม่ได้อยู่ในเรือนจำแต่กลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่ตึกช้างซึ่งเป็นบ้านของเขา แล้วสร้างภาพฮั้วกัน เรื่องนี้เสี่ยอู๊ดก็ยืนยันว่า ไม่จริง เพราะเขาไม่ได้มีอภิสิทธิ์อะไร และก็ไม่มีลูกน้องอยู่ในเรือนจำด้วย..."ในประเทศนี้ ไม่ว่าใครที่ต้องคดี ต้องเข้าเรือนจำทุกคน ไม่มีใครไม่เข้า ใหญ่มาขนาดไหนก็เข้าหมด" เสี่ยอู๊ด ย้ำคำหนักแน่น

          เมื่อวู้ดดี้ถามว่า ระหว่างอยู่ในคุก มีจิตตกบ้างไหม เพราะเมื่อหลายปีก่อน เคยปรากฏเป็นข่าวครึกโครมว่า เสี่ยอู๊ด พยายามฆ่าตัวตายในคุกเพื่อประชดชีวิต

          เรื่องนี้ เสี่ยอู๊ด ยอมรับว่า เคยจะฆ่าตัวตายจริง เพราะรู้สึกอิ่มกับความเป็นมนุษย์ โดยเมื่อปลายปี 2553 หลังจากที่ผู้ใหญ่ที่ตนเคารพรักได้เลื่อนยศสูงสุด ผมก็รู้จักน้อยใจ เพราะทำเพื่อท่านมาเยอะ เมื่อเห็นท่านประสบความสำเร็จสูงสุดแล้ว ผมก็คิดว่างั้นไปดีกว่า ไม่ได้น้อยใจศาล แต่น้อยใจท่าน เพราะการที่เข้ามาอยู่ในคุก มันเหมือนกับว่าเขาเป็นคนชั่ว จึงไม่อยากอยู่ที่นี่ เพราะไม่อยากเป็นคนที่ไม่ดี
 
          เสี่ยอู๊ด ตัดพ้อว่า ทุกคนบอกว่าเขาผิด แสดงว่าเขาชั่ว ก็นำเขาไปไว้ในสถานที่นั้นเพื่อจะลงโทษไม่ใช่หรือ ดังนั้น ถ้าผมชั่วก็อย่าอยู่มันเลย คิดทุกวันทุกคืนก่อนนอนว่าทำไมต้องมาอยู่ที่นี่ แล้วจึงตัดสินใจกินยานอนหลับที่ร้ายแรงที่สุดเม็ดสีม่วง ได้รับมา 50 เม็ด แต่หายไปครึ่งหนึ่ง เหลือ 20 เม็ด ก่อนจะกิน ตัวเองก็ได้แจกของแจกเสื้อให้ทุกคน แต่งตัวเรียบร้อยแล้วกินยา โดยเลือกช่วงเวลาหัวค่ำเพราะใช้เวลานานก่อนผู้คุมจะมา

           เมื่อถามว่า เสี่ยอู๊ด ไม่กลัวบาปเลยหรือ? เพราะการฆ่าตัวตายเป็นบาป...เสี่ยอู๊ด ได้ย้อนถามกลับไปว่า "บาปเป็นอย่างไรล่ะ ในเมื่อผมทำบุญแล้ว มหาศาล ผลยังออกมาเป็นอย่างนี้ ก็บอกแล้วไงว่าวันที่ผมเข้าเรือนจำ ผมเขียนจดหมายไปหาผู้ใหญ่ของผม เพราะผมไม่เชื่อเรื่องบุญและบาปแล้วไง นรกอยู่ตรงไหน สวรรค์อยู่ตรงไหน มันเป็นอุปโลกน์ จริง ๆ แล้วในโลกนี้ นรก สวรรค์ บุญ บาป สำหรับผม ผมไม่เชื่อว่ามีจริง แต่ก่อนเชื่อ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อแล้ว ในโลกนี้มีจริงอยู่เพียง 2 สิ่ง คือ สุข และทุกข์"




         
          แต่เมื่อเสี่ยอู๊ดฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ เขาก็ลั่นวาจาว่า "เมื่อผมตายในคุกไม่ได้ ถ้ามีโอกาสผมจะมาตายนอกคุก" วู้ดดี้จึงรีบแย้งว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการฆ่าตัวตาย แต่เสี่ยอู๊ดบอกว่า ชีวิตใครก็ชีวิตของเขา เขาต้องการกลับไปในที่ ๆ เขามา มาจากไหนก็อยากกลับไปที่นั่น

          หลังจากนั้น วู้ดดี้ได้พูดขอไม่ให้เสี่ยอู๊ดฆ่าตัวตาย แต่เสี่ยอู๊ดสวนกลับว่า คนที่จะขอกันได้มีเพียง 3 คน หนึ่งคือคนที่เขาเป็นหนี้บุญคุณ คนที่สองคือคนที่เขารักมาก และคนที่สามต้องเป็นคนที่รักเขามาก ซึ่งคนที่เป็นหนี้บุญคุณก็คือคนที่หยิบยื่นคุกให้เขาเอง ส่วนคนที่เขารักมากก็ไม่เคยมาเยี่ยมเขาที่คุกเลยตลอด 5 ปี ส่วนคนที่รักเขามากคือพ่อแม่ ซึ่งก็เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้น ไม่มีใครจะขอชีวิตเขาได้แล้ว

          เสี่ยอู๊ดเผยต่อว่า ที่ผ่านมา เขาได้ขายของทุกอย่างหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ ตึก เอาเงินแจกหมดแล้ว ไม่มีเงินในบัญชี ไม่มีสมุดบัญชี วู้ดดี้ไม่เชื่อ จึงถามว่า ค่าใช้จ่ายทุกวันนี้เอามาจากไหน เสี่ยอู๊ดตอบว่า เอามาจากคนที่เคารพรักเขา ส่งเงินมาให้ใช้ในคุก 3 ล้านบาทกับคนแถว ๆ นี้ โอนเงินมาให้ 2 ล้าน ตอนนี้ต้องการทำให้ตัวเองเป็นศูนย์ และไม่ได้เป็นเสี่ยแล้ว

          หลังจากนั้น วู้ดดี้ ก็ได้พาเสี่ยอู๊ดไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศูนย์มะเร็ง จ.ลพบุรี ตามความประสงค์ของเสี่ยอู๊ด ซึ่งผลก็คือเขามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี เพียงแต่มีปัญหาเรื่องความอ้วนเท่านั้น

          อย่างไรก็ตาม เรื่องราวความในใจของนักธุรกิจพระเครื่องคนดังยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะเสี่ยอู๊ด ยังได้เปิดใจเล่าถึงคนที่เขารักมากคนหนึ่ง แต่ไม่เคยมาเยี่ยมเขาเลยตลอดเวลา 5 ปีที่เขาถูกจองจำ

          "เขาคนนั้นเป็นคนดีจริง ๆ ไม่เอาอะไรเลย รถสปอร์ต 3 คันก็เอาคืนหมด จะคืนแม้กระทั่งพระเครื่อง แต่ผมขอให้เก็บไว้ สาเหตุที่คิดว่าเขาเป็นคนดี เพราะประโยคสุดท้ายเขาฝากมาบอกว่า "พี่ครับเลิกอาชีพนี้เถอะ เพราะมีคนคิดร้ายต่อพี่เยอะมาก" ยังไงก็ยังรักคนนี้อยู่" เสี่ยอู๊ด บอก

          นอกจากนั้นแล้ว เสี่ยอู๊ด ก็เตรียมจะเปิดเผยเบื้องหลังความจริงสุดช็อกว่า "ใครอยู่เบื้องหลังการที่เขาออกมาแฉ ฟิล์ม รัฐภูมิ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว" โดยบอกเพียงแค่คนนั้นมีน้องสาว... หากอยากรู้เบื้องลึกเบื้องหลังจากปากเสี่ยอู๊ด ติดตามต่อได้ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย คืนวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2556 เวลา 22.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี