เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ไร้ชื่อลงแข่งซีเกมส์ สมาคมฯ เผย พร้อมให้โอกาสหากคดีสิ้นสุด ด้านตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนัก พร้อมค้านประกันตัว ด้านภรรยาลั่น ไม่คืนดีด้วย บอกเกินจะรับได้ ล่าสุด เจ้าตัวถูกฝากขังผลัดแรก 12 วันแล้ว เตรียมยื่นหลักทรัพย์ 6-7 ล้าน ประกันตัว
สืบเนื่องจากกรณีที่ นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและใช้ปืนข่มขู่ พญ.ณิธิวดี ภรรยา และนางบุญชิต พณิชย์ผาติกรรม มารดา จนทนไม่ไหวและได้เข้าร้องเรียนต่อ นางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.เอาชัย กาญจนพิทักษ์ รักษาการเลขาธิการสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมเตรียมนักกีฬาอยู่แค่ 2 ชุด เพื่อแข่งขันในซีเกมส์ ครั้งที่ 27 เดือนธันวาคม ประเทศพม่า และเอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 2 เดือนสิงหาคม ที่เมืองหนานจิงของจีน โดยไม่มีรายชื่อของนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ในฐานะนักกีฬาของสมาคมฯ แต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี หากมีรายการแข่งขันระดับนานาชาติและมีการคัดเลือกในอนาคต ทางสมาคมพร้อมที่จะให้โอกาสนายจักรกฤษณ์กลับมาร่วมคัดตัวได้อีก เมื่อพ้นข้อกล่าวหาไปแล้ว
สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวว่า วันนี้ (15 กรกฎาคม) พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัว นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี โดยแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 4 ข้อหา รวมเป็น 8 ข้อหา ดังนี้..
1. พยายามฆ่าผู้อื่น
2. ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ
3. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. กระทำความรุนแรงในครอบครัว
5. พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
6. มีอาวุธปืนที่เจ้าพนักงานทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้
7. ขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงานหลังจากที่ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ สน.มีนบุรี และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำรวจเจาะเลือด
8. ข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยการใช้กำลังบังคับขู่เข็ญ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาทั้งหมดและยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากกลัวว่านายจักรกฤษณ์จะไปข่มขู่พยานหรือทำลายหลักฐาน ขณะเดียวกันกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะนำมารดาและภรรยาของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ไปกระทรวงยุติธรรม เพื่อดำเนินการเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานต่อไป
ส่วนกรณีที่ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ร้องขอให้นางปวีณาช่วยให้ครอบครัวของตัวเองกลับมาเป็นเหมือนเดิมนั้น โดยยืนยันว่ารักลูกรักเมียนั้น ทางด้านภรรยา พญ.ณิธิวดี กล่าวว่า คงเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะกลับไปคืนดีด้วย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว แต่มีเรื่องทะเลาะกันแทบทุกวัน ตนเคยจะพาลูกหนีออกจากบ้าน แต่ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ กลับใช้ปืนชี้หน้าพร้อมข่มขู่ว่า หากเอาลูกไปก็เอาไปได้แต่ร่าง ไม่มีวิญญาณ ทำให้ตนรู้สึกยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น ส่วนเรื่องการเสพยาเสพติดนั้น ยืนยันว่าเสพมานานแล้วนับตั้งแต่กลับจากโอลิมปิกครั้งล่าสุดก็ยิ่งเสพหนักขึ้นกว่าเดิม
ขณะที่ นางบุญคิด ผู้เป็นแม่ของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ยืนยันว่า ลูกกับภรรยา โต้เถียงกันอย่างรุนแรง และตบตีลูกหลานหลายครั้ง อีกทั้งยังชอบพกปืนติดตัวตลอดเวลา ยิงปืนในบ้านหลายครั้ง ทำให้คนในครอบครัวรู้สึกหวาดกลัวมากจนทนไม่ไหว
ต่อมาเมื่อช่วง 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายจักรกฤษณ์ ฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-26 กรกฎาคม 2556 ซึ่งทางด้าน นายจักรกฤษณ์ เมื่อเดินทางมาถึงศาล ก็ไม่มีอาการโศกเศร้าแต่อย่างใด พร้อมกับกล่าวว่า ตนไม่มีสิทธิ์พูดอะไร และตนก็พกรูปลูกสาวติดตัวตลอดเวลา ส่วนในเรื่องการประกันตัวนั้น ตนมีเพื่อนคอยช่วยเหลือ ซึ่งตนไม่ได้เตรียมการใด ๆ เองเลย และทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย โดยหลักทรัพย์สำหรับการประกันตัวนั้น น่าจะอยู่ที่ 6-7 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีการข่มขู่พยาน และพยายามทำลายหลักฐาน อีกทั้งยังพยายามวิ่งหลบหนี นอกจากนี้ ทางด้านแม่และภรรยาของนายจักรกฤษณ์ ก็จะเดินทางไปยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัวด้วยเช่นกัน
ส่วนความคืบหน้าล่าสุด ด้านศาลมีนบุรี ไม่อนุญาตให้ประกันตัว นายจักรกฤษณ์ เนื่องจากจำเลยมีพฤติกรรมทำร้ายภรรยา และคุกคามคนในครอบครัว ทั้งใช้อาวุธปืนข่มขู่ ใช้เข็มขัดฟาด ใช้ไฟฟ้าช็อต ใช้กำลังชกต่อย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้บ่งชี้ได้ว่า เจ้าตัวไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมตนเองได้ ทางศาลเกรงว่า หากปล่อยตัวไปก็จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและคุกคามคนในครอบครัว ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอประกันตัว
ขณะที่ภายหลังฟังคำสั่งศาล นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า ยอมรับผิดทุกอย่าง และอยากให้ครอบครัวกลับมาปรองดองเหมือนเดิม ซึ่งจะขอคุ้มครองพยานก็ได้ แต่ขณะนี้สิ่งที่ครอบครัวทำ มีเป้าหมายอยากให้ตนเองเข้าคุก ซึ่งส่วนตัว ไม่เห็นด้วย เพราะเคยรับใช้ทีมชาติมาหลายปี มีความดี ความชอบอยู่ และไม่ได้ไปฆ่าคนตาย
ส่วนสาเหตุที่เกิดการแจ้งความดำเนินคดีขึ้น นายจักรกฤษณ์ ระบุว่าเป็นเพราะครอบครัวไม่ได้คุยและเจอหน้าหลายวันจึงทำให้เรื่องบานปลาย
ทั้งนี้ นายจักรกฤษณ์ ได้กล่าวทิ้งท้ายทั้งน้ำตาว่า คิดถึงลูกสาว อยากกอดและร่วมฉลองวันเกิดลูกสาว อย่างไรก็ตาม นายมนัสชน ทนายความ กล่าวว่า หลังจากนี้จะยื่นประกันนายจักรกฤษณ์อีกครั้งในสัปดาห์หน้า
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก