x close

เอลิซ่า แลม คดีการตายปริศนาแช่ในแท็งก์น้ำโรงแรมซีซิล


เอลิซ่า แลม คดีการตายปริศนาแช่ในแท็งก์น้ำโรงแรมซีซิล

เอลิซ่า แลม คดีการตายปริศนาแช่ในแท็งก์น้ำโรงแรมซีซิล


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก mundoesotericoparanormal.com, คุณ Dennis Romero สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            กลายเป็นที่ฮือฮาในวงการอินเทอร์เน็ตอย่างมากในขณะนี้ สำหรับคดีเอลิซ่า แลม นักศึกษาแคนาดาเชื้อสายจีน วัย 21 ปี ที่ถูกฆ่าทิ้งในแท็งก์น้ำในโรงแรมที่สหรัฐฯ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่คลิปวิดีโอวงจรปิดที่บันทึกภาพเธอครั้งสุดท้ายได้รับการเปิดเผยออกมา ก็ทำเอาหลายคนขนลุก เมื่อพบว่าเธอทำท่าเหมือนหวาดกลัวและคุยกับใครสักคนบริเวณหน้าลิฟต์ ก่อนจะหายตัวไปและกลายเป็นศพในแท็งก์น้ำหลังจากนั้น

            เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในโรงแรมซีซิล โฮเต็ล ในลอสแอนเจลิส เมื่อเดือนมกราคม 2556 นางสาวเอลิซ่า แลม วัย 21 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยบริทิชโคลัมเบียในแคนาดา ได้เดินทางมาเที่ยวในสหรัฐฯ โดยเช็กอินเข้าพักในโรงแรมซีซิลตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม แต่หลังจากนั้น 5 วัน เธอกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

            หลังจากเธอได้หายตัวไป ปรากฏว่าน้ำในโรงแรมซึ่งมาจากแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าโรงแรม ก็เริ่มประสบปัญหา คือ น้ำเริ่มไหลน้อย มีสีดำในตอนแรกเปิด รสชาติแปลกประหลาด จนทำให้ลูกค้าหลายรายที่เข้าพักทนไม่ไหว ต้องแจ้งทางโรงแรมทันที ซึ่งเมื่อได้รับการแจ้งจากลูกค้าหลายรายเข้า ทางโรงแรมจึงตัดสินใจให้ช่างขึ้นไปตรวจสอบและซ่อมแท็งก์น้ำ ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ และก็ต้องช็อกเมื่อพบว่า มีศพของเอลิซ่า แลม ถูกแช่จนเน่าเปื่อยในสภาพเปลือยอยู่ในแท็งก์น้ำ สร้างความขยะแขยงให้กับลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรมช่วงเวลานั้น เมื่อรู้ว่าตัวเองใช้น้ำแช่ศพ และพากันเช็กเอาท์ออกไปตาม ๆ กัน

เอลิซ่า แลม คดีการตายปริศนาแช่ในแท็งก์น้ำโรงแรมซีซิล

            แต่สิ่งที่ทำให้คดีของเธอโด่งดัง และถูกนำมาเชื่อมโยงกับเรื่องลี้ลับที่ไม่อาจหาคำตอบได้ในขณะนี้ ก็คือหลังจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า ครั้งสุดท้ายที่กล้องจับภาพของเธอได้ คือในวันที่ 31 มกราคม หรือ 5 วันหลังจากที่เธอเช็กอินเข้าพักในโรงแรม เธอได้เดินเข้าไปในลิฟต์ และแสดงท่าทีแปลก ๆ คล้ายกับกำลังมองหาใครสักคนอยู่ ก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์อีกครั้ง แต่ก็พบว่าลิฟต์ใช้การไม่ได้ ประตูลิฟต์ไม่ยอมปิดเลย จากนั้นเธอก็ออกมายืนนอกลิฟต์ พร้อมโบกไม้โบกมือเหมือนคุยกับใครสักคน ทั้งที่ไม่มีใครยืนอยู่บริเวณนั้น (หลายคนวิจารณ์ว่าเธออาจเมายา) แล้วเธอก็เดินหายไป และหลังจากเธอเดินหายไปได้ไม่นาน ลิฟต์เจ้ากรรมก็กลับมาใช้การได้เหมือนเดิมซะอย่างนั้น

            อย่างไรก็ดี นับจากวันนั้นจนวันนี้ แม้จะไม่มีใครทราบสาเหตุที่แน่ชัด และสาเหตุการตายของเอลิซ่ายังเป็นที่ข้องใจของใครหลาย ๆ คน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สรุปว่าการเสียชีวิตครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ และน่าจะเกี่ยวข้องกับภาวะไบโพลาร์ หรืออาการคนสองบุคลิกของเอลิซ่าเอง ขณะที่การชันสูตรศพพบว่า เธอไม่มีร่องรอยเกี่ยวกับการใช้สารเสพติดหรือยาใด ๆ เลย และจากการตรวจปอด พบว่าเธอมีน้ำในปอดปริมาณมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอน่าจะเสียชีวิตจากการจมน้ำตาย หรือถูกคนร้ายนำร่างของเธอมาทิ้งลงในแท็งก์ขณะที่เธอยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง

            จากเหตุการณ์สยองที่เกิดขึ้นนี้ ได้นำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสงสัยอย่างแพร่หลายนับตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ว่า ท่าทีที่เธอแสดงออกในลิฟต์นั้นคืออะไร เธอเดินผ่านระบบประตูนิรภัยบนดาดฟ้าไปจบชีวิตลงในแท็งก์น้ำสูงกว่า 5 เมตรได้อย่างไร คดีนี้เชื่อมโยงกับพนักงานในโรงแรมหรือสิ่งลี้ลับกันแน่ ทำไมเธอจึงไปเสียชีวิตในสภาพเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์เช่นนั้นได้ มันเป็นอุบัติเหตุอย่างที่ตำรวจเปิดเผยจริงหรือ ขณะที่สื่อต่างประเทศหลายแห่งได้ขุดคุ้ยเรื่องราวของโรงแรมแห่งนี้ จนพบว่า ซีซิล โฮเต็ล เป็นโรงแรมที่มีประวัติอาชญากรรมสยองขวัญมายาวนานมาก

            ซีซิล โฮเต็ล สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1927 โดยเป็นโรงแรมหรูในลอสแอนเจลิส สำหรับรองรับบรรดานักธุรกิจต่างเมืองในยุคนั้น แต่ต่อมาได้มีการปรับลดราคาห้องพักลง ทำให้ผู้คนทุกระดับสามารถเข้าพักได้ และมีคดีอาชญากรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายหลายคดี หรือการฆาตกรรม โดยในจำนวนนี้ มีฆาตกรต่อเนื่องนามว่า ริชาร์ด รามิเรซ ที่ใช้โรงแรมแห่งนี้ซุกตัวก่อเหตุฆาตกรรมสาวกว่า 13 คน ในปี ค.ศ. 1985

            และที่น่าประหลาดใจคือ การเสียชีวิตของแขกที่มาพักหลายรายนั้น ยังกลายเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และคดีการเสียชีวิตปริศนาล่าสุด ก็คือ คดีของเอลิซ่า แลม นั่นเอง







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เอลิซ่า แลม คดีการตายปริศนาแช่ในแท็งก์น้ำโรงแรมซีซิล อัปเดตล่าสุด 29 ตุลาคม 2556 เวลา 12:02:13 167,075 อ่าน
TOP