เมนูสมองหมา ใช้หลอดแหย่จมูกดูดกิน อ้างช่วยเพิ่มพลังทางเพศ


เมนูสมองหมา ใช้หลอดแหย่จมูกดูดกิน อ้างช่วยเพิ่มพลังทางเพศ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

            เผยวัยรุ่นอีสานเปิปสมองหมา ใช้หลอดแหย่จมูกหมาดูดกิน อ้างช่วยเพิ่มพลังทางเพศ โดยเฉพาะสมองหมาดำ เชื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น แพงถึงหัวละ 100 บาท ขณะที่สมองควาย-สมองวัว ก็ฮิต

            วันนี้ (1 พฤศจิกายน 2556) ผู้สื่อข่าวข่าวสด รายงานการสำรวจตลาดสดพบว่า ขณะนี้เนื้อสัตว์ทั้งเนื้อควายและเนื้อวัว มีราคาสูงขึ้น ทำให้ร้านค้าภาคอีสานหลายแห่งไม่สามารถนำเนื้อมาประกอบอาหารลาบก้อยได้ เนื่องจากราคาแพงไม่คุ้มทุน จึงหันไปหาใช้เนื้ออย่างอื่นแทนนั่นก็คือ เนื้อสุนัข

            ทั้งนี้ นายแดง (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของร้านอาหารประเภทลาบก้อย ใน จ.สกลนคร เผยว่า เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ร้านอาหารประเภทลาบก้อยมีเยอะมาก แต่ขณะนี้ทยอยปิดตัวลงเรื่อย ๆ เพราะเนื้อวัว-เนื้อควาย มีราคาสูงขึ้น จากกิโลกรัมละ 120 บาท ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 200-250 บาท นอกจากราคาแพงแล้วยังหายากอีกด้วย เพราะวัว-ควาย มีปริมาณลดลง จากปัญหานี้ทำให้ชาวบ้านหันมากินเนื้อสุนัขแทน เนื่องจากเนื้อสุนัขมีราคาถูกกว่า ตกอยู่ตัวละ 120-250 บาท จึงทำให้ตลาดเนื้อสุนัขยังคงมีอยู่ ถึงแม้จะมีการกวดขันจับกุมผู้ลักลอบค้าสุนัขก็ตาม

            สำหรับเมนูเด็ดที่กำลังเป็นที่นิยมมาขอให้ทำคือ สมองวัว-สมองควาย โดยมีการสั่งให้ทำกินมากเป็นพิเศษ ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า คนส่วนใหญ่เชื่อว่ากินสมองสัตว์เหล่านี้จะเป็นยาโด๊ปสร้างพลัง ทำให้คึกคัก จนขณะนี้สมองควายและวัวเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ต่างจากแต่ก่อนที่มีการล้มวัวล้มควาย แต่ไม่มีใครสนใจหัวควายเลย ส่วนราคาซื้อขายอยู่ที่ 500-800 บาท ตามขนาด

            ในส่วนของวิธีการกินนั้น ชาวบ้านจะนำสมองควายมาปรุงผสมกับเครื่องเทศ จากนั้นนำไปหมกไฟให้สุกก่อน แล้วนำออกมารับประทานกันนั้นเป็นกลุ่ม โดยสาว ๆ จะเชื่อว่าถ้ากินแล้วจะทำให้ผิวสวย หน้าขาวสดใสโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอาง
 
            ขณะที่ นายอานนท์ (ขอสงวนนามสกุล) พ่อค้ารับแลกหมาจากบ้านท่าแร่ กล่าวว่า การแลกสุนัขของที่นี่ยังมีเหมือนเดิมตามปกติ แต่ต้องหลบให้ดี จริง ๆ แล้วพวกตนก็ไม่ต้องการทำผิดกฎหมาย แต่เนื่องจากราคาเนื้อวัว-เนื้อควาย แพงขึ้น และหาซื้อยาก สุนัขเลยเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นิยมซื้อมารับประทานกัน ทั้งสุนัขแดดเดียว หรือสุนัขสด ซึ่งขณะนี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด

            นายอานนท์ กล่าวต่อว่า ราคาสุนัขที่แพงที่สุดคือ เนื้อสุนัขดำ ซึ่งมีราคาแพงกว่าเท่าตัว เนื่องจากจะเข้าหน้าหนาว มีกลุ่มผู้บริโภคบางส่วนเชื่อว่าหากกินหมาดำจะสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย และจะกินเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่า หัวสุนัขที่ชำแหละแล้ว จะเป็นที่ต้องการของกลุ่มวัยรุ่น เมื่อก่อนขายหัวละ 10-15 บาท ขณะนี้ราคาประมาณหัวละ 50-70 บาท และหากเป็นหัวสุนัขดำจะสูงถึง 100 บาท โดยสอบถามทราบว่า ผู้บริโภคจะนำหัวสุนัขดำไปต้มแล้วกินสมอง โดยเชื่อว่าให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายและเพิ่มพลังทางเพศ ทำให้เสพสุขได้หลายครั้งต่อวัน

            ส่วนวิธีการกินนั้น ทราบมาว่า จะนำหัวสุนัขไปเผาไฟ แล้วนำมาล้างให้สะอาด ก่อนที่จะใส่เครื่องเทศในหม้อแล้วต้มจนเดือด จากนั้นจะนำหัวสุนัขลงต้ม เมื่อสุกแล้วจะทำมาสับเพื่อนำสมองมากินแกล้มเหล้า โดยบางรายก็ใช้หลอดแหย่เข้าไปในรูจมูกของสุนัขและดูดสมองกินกันอย่างเอร็ดอร่อย

            ส่วนทางด้าน นายสมบูรณ์ กุดนอก นักวิชาการ สำนักงานสาธารณสุขชำนาญการ จังหวัดสกลนคร กล่าวว่า การกินสมองวัวและควาย พบว่ากินมาตั้งแต่คนรุ่นก่อนแล้ว แต่กินกันแบบสุก ๆ ส่วนที่บอกว่าสมองวัวและควายจะเป็นยาโด๊ปนั้น ตนก็ไม่ทราบเช่นกัน และคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า เพราะสมองไม่มีคุณค่าทางด้านโปรตีนมากกว่าเนื้อส่วนอื่นเลย

            สำหรับการกินสมองสุนัขนั้น ตนยังไม่เคยเห็น แต่ก็อยากจะเตือนผู้บริโภคว่าจะบริโภคอะไรก็ตาม ต้องทำให้สุกและสะอาด โดยเฉพาะสุนัข อาจจะติดเชื้อโรคมากับสุนัขได้ โดยเฉพาะพิษสุนัขบ้า



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมนูสมองหมา ใช้หลอดแหย่จมูกดูดกิน อ้างช่วยเพิ่มพลังทางเพศ อัปเดตล่าสุด 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา 11:41:26 48,913 อ่าน
TOP
x close