เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก region6.prd.go.th
อินโดนีเซียเสี่ยงสูญเสียพื้นที่ 1,500 เกาะ ในปี 2593 หากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และจะได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงหากไม่มีการเตรียมการ
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 เว็บไซต์ดอว์น มีรายงานว่า นายอันชา ศรีนิวาสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากธนาคารเพื่อการพัฒนาของเอเชีย หรือ ADB เผยว่า ภายในปี 2573 กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซียและพื้นที่เกาะทางตอนเหนือของประเทศมีความเสี่ยงที่จะจมลงใต้ระดับน้ำทะเล และภายในปี 2593 พื้นที่ 1,500 เกาะของอินโดนีเซียจะหายไปจากแผนที่โลก อันเป็นผลสืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หากไม่เริ่มลงมือทำอะไรสักอย่าง
นายอันชา ยังได้เผยถึงการคาดการณ์ทางวิทยาศาสตร์ต่ออินโดนีเซีย ที่มีหมู่เกาะร่วม 17,000 เกาะ และมีผู้อยู่อาศัยถาวรใน 6,000 เกาะ โดยระบุว่า ภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงที่สุด ของหมู่เกาะเหล่านี้คือ การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และผู้คน 42 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 กิโลเมตร จากชายฝั่งจะต้องพบกับความเสี่ยงที่จะสูญเสียที่อยู่อาศัย หากระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นถึง 90 เซนติเมตร ในสิ้นศตวรรษนี้
สำหรับนายอันชา เป็นหนึ่งในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการจะออกมาส่งเสียงเตือนถึงผลกระทบที่เป็นอันตรายของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะส่งผลเลวร้ายอย่างยิ่งต่อประเทศ โดยอินโดนีเซียจะต้องกลายเป็นประเทศที่ยากจนและได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุดอย่างแน่นอน หากไม่มีการเตรียมตัวรับมือต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
ด้าน นายจอห์น เคอร์รี่ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ก็เคยดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกเมื่อเขาได้กล่าวคำปราศรัยถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในจาการ์ตาเมื่อไม่นานมานี้ โดยนายจอห์นได้เตือนว่า ครึ่งหนึ่งของกรุงจาการ์ตาอาจจะต้องจมอยู่ใต้น้ำ หากระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นถึง 50 เซนติเมตร และหากน้ำทะเลเปลี่ยนเป็นกรดก็จะทำให้มีจำนวนปลาในทะเลลดน้อยลงด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอินโดนีเซียได้เคยสูญเสียพื้นที่เกาะเล็ก ๆ 24 เกาะ ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา เกาะปาปัว และเกาะไรอู ไปแล้วระหว่างปี 2548-2550 จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ตามรายงานของกระทรวงกิจการทางทะเลและประมง
