เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
มาเลเซียแอร์ไลน์ ขาดการติดต่อ ล่าสุด รัฐบาลมาเลเซีย แถลงยืนยัน ข่าวเครื่องบินมาเลเซียตก พบผู้ต้องสงสัยอีก 2 ราย ใช้พาสปอร์ตที่ถูกขโมยหรือพาสปอร์ตปลอมขึ้นเครื่องบินลำดังกล่าว และยังใช้เงินไทยซื้อตั๋วพร้อมกันจากสายการบินไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ส
จากกรณีที่เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777-200 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 กัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง ขาดการติดต่อสูญหายไปจากเรดาร์ของหอบังคับการการบิน ประเทศเวียดนาม ภายหลังบินออกจากสนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มุ่งหน้าไปลงจอดยังสนามบินกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้า ข่าวมาเลเซียแอร์ไลน์ตก วันนี้ (9 มีนาคม 2557) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรียแถลงว่า หลังจากสถานทูตออสเตรียได้รับข้อมูลว่า มีชาวออสเตรีย 1 คน อยู่บนเครื่องบินของมาเลเซียแอร์ ทางสถานทูตได้มีการตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารแล้ว โดยพบว่าผู้โดยสารคนดังกล่าวได้ใช้หนังสือเดินทางที่ถูกขโมยไปเมื่อ พ.ศ. 2555 ขณะที่ นายคริสเตียน โคเซล เจ้าของหนังสือเดินทางที่แท้จริง เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่ขณะนี้สามารถยืนยันได้แล้วว่า นายคริสเตียนปลอดภัยดีและยังอาศัยอยู่ที่บ้านพักของเขาในประเทศออสเตรีย
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของอิตาลี แจ้งว่า ไม่มีผู้โดยสารชาวอิตาลีอยู่บนเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เช่นกัน แม้จะมีชื่อของชาวอิตาลีอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้โดยสาร คือ นายลุยจิ มารัลดี วัย 37 ปี แต่หนังสือพิมพ์คอร์ริเอเรเดลลา เซรา ของอิตาลี รายงานว่า หนังสือเดินทางของนายมารัลดีถูกขโมยที่มาเลเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2556
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ ดาโต๊ะ อาซิส คาปราวี รองรัฐมนตรีคมนาคม มาเลเซีย ถึงกรณีชาวต่างชาติ 2 คน มีชื่ออยู่บนเครื่องมาเลเซียแอร์ไลน์ ทั้งที่ไม่ได้ขึ้นเครื่อง และจากการแถลงข่าวของทั้ง 2 ประเทศ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า จะต้องมีผู้โดยสารอย่างน้อย 2 คน ใช้พาสปอร์ตปลอม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้โยงไปถึงเหตุก่อการร้ายนั้น นายคาปราวี ตอบเพียงว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงรวบรวมภาพหลักฐานจากกล้อง รปภ. ของสนามบินและกล้องวงจรปิดขณะการตรวจกระเป๋าสัมภาระ จึงยังไม่สามารถชี้ชัดใด ๆ ได้ จนกว่าเรื่องราวจะกระจ่าง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของเวียดนาม เผยว่า พบคราบน้ำมันขนาดใหญ่ 2 จุด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเครื่องบินโดยสารลำนี้ อาจประสบอุบัติเหตุตกในทะเลนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของเวียดนาม โดยมีการยืนยันว่า เที่ยวบิน MH370 มีผู้โดยสารรวม 227 ราย มีลูกเรือปฏิบัติหน้าที่บนเครื่องอีก 12 ราย และมีการยืนยันจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงว่า โศกนาฏกรรมกลางเวหาที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการก่อการร้าย
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Malaysian Maritime Enforcement / AFP
ทางด้าน นายฮิสชามุดดินห์ ฮุสเซอิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของมาเลเซีย ได้ออกมาพูดในตอนแรกว่า ในจำนวนรายชื่อผู้โดยสารทั้งหมดนั้น มีผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 4 คน แต่ต่อมา นายฮุสเซอิน ก็ออกมาแก้ลำให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า แท้จริงแล้ว มีผู้ต้องสงสัย 2 คนเท่านั้น
ด้านสำนักข่าวบีบีซีได้รับการยืนยันว่า คนที่แอบสวมพาสปอร์ตอิตาลี และคนที่แอบสวมพาสปอร์ออสเตรียนั้น ได้ซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวนี้พร้อมกัน จากสายการบินไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ส โดยใช้เงินบาทไทย ซึ่งเลขที่ตั๋วของทั้งสองคนนั้นต่อกัน นอกจากนี้ ทั้งสองคนยังได้จองตั๋วเครื่องบินที่มีกำหนดบินในวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2557 ต่อจากกรุงปักกิ่งไปที่ประเทศในยุโรปอีกด้วย
หลังจากนี้ทางการมาเลเซียจะมุ่งเป้าสืบสวนผู้โดยสารต้องสงสัย ที่เบื้องต้นทราบชื่อพร้อมข้อมูลครบหมดแล้ว แต่ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ และไม่ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นการก่อการร้ายหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเตรียมเข้าร่วมการสืบสวนครั้งนี้ โดยจะมีการขยายวงสืบสวนไปยังผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเที่ยวบินมาเลเซียแอร์ไลน์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก