ลูกฆ่าพ่อแม่และน้องชาย ลั่นหลังพ้นโทษจะบวชไม่สึก ญาติไม่ปักใจเชื่อคำให้การ


ลูกฆ่าพ่อแม่และน้องชาย ลั่นหลังพ้นโทษจะบวชไม่สึก ญาติไม่ปักใจเชื่อคำให้การ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ LAKORNHD Thaitv (Official) สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            ลูกฆ่าพ่อแม่และน้องชาย ด้านญาติยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ บอกแรงจูงใจไม่น่าจะมาจากแรงกดดันจากครอบครัว ชี้มีพร้อมทุกอย่าง ระบุรถนิสสัน เทียน่า พ่อซื้อให้แล้ว แต่ให้ขับเวลาอยู่กับพ่อเท่านั้น ด้านย่าบอกถึงโกรธแต่ก็ให้อภัย เผยหลานชายบอกว่าหลังพ้นโทษจะบวชไม่สึก
 
            จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ กรณีที่ นายอัควัฒน์ ศรพรหม อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดัง ได้ใช้อาวุธปืนปลิดชีพพ่อแม่และน้อง จากนั้นวางปืนใส่ที่มือของน้อง พร้อมกุเรื่องให้การกับตำรวจว่า น้องถูกกดดันจากพ่อแม่จึงตัดสินใจฆ่าพ่อแม่จากนั้นก็ยิงตัวเองตายตาม

            แต่แล้วเมื่อตรวจพิสูจน์หลักฐานกลับพบความผิดปกติ โดยพบว่านายอัควัฒน์เป็นคนปิดกล้องวงจรปิด อีกทั้งปืนที่วางในมือน้อง ก็วางคนละข้างกับฝั่งขมับที่โดนยิง และบนเสื้อผ้าในวันเกิดเหตุของนายอัควัฒน์ก็มีคราบเขม่าดินปืนด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถซักไซ้จนนายอัควัฒน์จนมุม และยอมรับว่าลงมือฆ่าคนในครอบครัวทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า เป็นเพราะโกรธแค้นแม่ที่ด่าทอต่อว่า และผิดสัญญาที่จะออกรถป้ายแดงให้หลังเข้ามหาวิทยาลัยได้

            อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันนี้ (14 มีนาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้นำเสนอความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยระบุว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (13 มีนาคม 2557) ทางญาติได้จัดพิธีฌาปนกิจน้องชายที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีครูและเพื่อนนักเรียนมาร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก ส่วนงานฌาปนกิจคุณแม่จะมีขึ้นในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม ขณะที่คุณพ่อซึ่งเป็นข้าราชการป่าไม้เก่าจะมีพิธีฌาปนกิจในช่วงเย็นวันเดียวกัน

ลูกฆ่าพ่อแม่และน้องชาย ลั่นหลังพ้นโทษจะบวชไม่สึก ญาติไม่ปักใจเชื่อคำให้การ

            ทั้งนี้ ทางญาติฝั่งแม่นั้นไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายอัควัฒน์ โดยน้าสาวระบุว่า จากการลงมือของหลานดูเหมือนเตรียมการมาเป็นอย่างดี เชื่อว่าจะต้องมีเหตุที่โกรธแค้นมาก ๆ หรือมีคนยั่วยุให้กระทำการดังกล่าว เพราะครอบครัวของหลานสมบูรณ์แบบ ไม่มีเรื่องที่ทำให้คิดได้เลยว่าปัญหาครอบครัวจะเป็นแรงจูงใจในการก่อเหตุร้ายเช่นนี้

            นอกจากนี้ น้าสาวยังได้นำภาพครอบครัวที่ถ่ายเมื่อตอนปีใหม่ที่ผ่านมาให้ดูด้วย โดยเป็นภาพของทุกคนกำลังกินหมูกระทะที่หน้าบ้าน มีเครื่องเสียง ทุกคนร้องเพลงกันสนุกสนานเฮฮา มีการแย่งไมค์ร้องเพลงกับน้องด้วย และคิดว่าหลานก็ไม่น่าจะเก็บกดอะไร อาจจะมีโลกส่วนตัวบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเก็บตัว เพราะไปหาไปเจอก็มีการลงมาพูดคุยทักทายตลอด

ลูกฆ่าพ่อแม่และน้องชาย ลั่นหลังพ้นโทษจะบวชไม่สึก ญาติไม่ปักใจเชื่อคำให้การ

            แต่ทั้งนี้ช่วงตอนที่หลานเรียนมัธยมศึกษาก็มีการมาปรึกษาบ้างว่าแม่ไม่ยอมให้ออกไปเที่ยวคนเดียว ตนก็ให้เหตุผลว่า แม่เป็นห่วงเพราะช่วงนั้นมีข่าวเด็กนักเรียนยิงกันตายบ่อย ซึ่งจะไปไหนแม่ก็ไปรับไปส่งตลอด โดยตนก็ได้บอกกับพี่สาวว่า หลานโตแล้วก็น่าจะให้เขาไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง พอหลานเข้ามหาวิทยาลัย พี่สาวตนก็ปล่อย ให้ไปไหนมาไหนเอง

            สำหรับเรื่องรถนิสสัน เทียน่า ที่หลานอยากได้นั้น ความเป็นจริงแล้วคือพ่อของหลานได้ซื้อไว้แล้ว เพียงแต่ยังไม่ให้ขับไปไหนมาไหนคนเดียว แต่ให้ขับเฉพาะเวลาที่อยู่กับพ่อเท่านั้น เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตราย ในส่วนความสัมพันธ์กับน้องชาย เขารักกันมาก มีกระโดดกอดคอ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด มีอะไรก็ปรึกษากันดี

            ขณะที่ น้าชาย เผยว่า ตนสงสัยในคำให้การของหลาน เพราะมันขัดแย้งกับสภาพความเป็นจริง ซึ่งครอบครัวเขาค่อนข้างสมบูรณ์ ส่วนเรื่องเรียนก็ไม่น่าจะกดดันอะไร เพราะไม่มีใครบังคับ เขาเลือกเรียนคณะนั้นเอง พอเขาสอบติดมหาวิทยาลัย พ่อแม่และน้องชาย รวมถึงญาติทุกคนก็ดีใจ หาซื้อคอนโดฯ ที่ใกล้มหาวิทยาลัยให้อยู่ หลานชายคนนี้ได้มากกว่าน้องคนเล็กเสียอีก ซึ่งตนไม่เชื่อว่าแรงจูงใจมาจากความกดดันในครอบครัว และตนไม่เชื่อว่าเด็กคนเดียวจะวางแผนอะไรได้ขนาดนี้

            ส่วนทางคุณย่าซึ่งเป็นแม่ของพ่อนายอัควัฒน์ ให้การว่า ครอบครัวเขาก็รักกันดี ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ตอนแรกก็ตกใจและไม่เชื่อว่าหลานจะฆ่าพ่อแม่และน้องชายได้ลงคอ ซึ่งตนคิดคล้าย ๆ กับน้าชายว่าอาจจะมีคนแนะนำหรือไปยุยงหรือเปล่า

            คุณย่า เล่าต่อว่า หลังจากที่เกิดเหตุหลานก็ไม่ได้กล่าวว่าทำไปเพราะอะไร แต่เข้ามาบอกว่า "ขอโทษย่า หลังพ้นโทษจะขอบวชแบบไม่สึก" ซึ่งถามว่าตนโกรธไหม ตนโกรธ แต่ก็ให้อภัยได้ เพราะอย่างไรเขาก็เป็นหลาน ถึงแม้เขาจะลงมือฆ่าลูกชายของตนก็ตามที

            อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า นายอัควัฒน์ยังให้การแบบวกไปวนมา ซึ่งตอนนี้ยังไม่สรุปสำนวน และจะสอบสวนอีกครั้งเพื่อหาแรงจูใจ ส่วนตอนนี้เป็นห่วงสภาพจิตใจของนายอัควัฒน์เพราะเขาเครียดมาก และในห้องคุมขังเป็นที่ทราบกันดีว่า หากใครมีข้อหาข่มขืนเด็กหรือทำร้ายพ่อแม่ บรรดานักโทษด้วยกันจะไม่พอใจและอาจจะมีการทำร้ายกันขึ้น จึงต้องจับตามองอยู่ตลอด












เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลูกฆ่าพ่อแม่และน้องชาย ลั่นหลังพ้นโทษจะบวชไม่สึก ญาติไม่ปักใจเชื่อคำให้การ อัปเดตล่าสุด 14 มีนาคม 2557 เวลา 10:56:23 104,012 อ่าน
TOP
x close