เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
จับแล้ว ! หนุ่มฆ่าโหดภรรยาสาวสะกดวิญญาณ รับทำไปเพราะบันดาลโทสะ หึงหวงเรื่องผู้ชาย โต้ข่าวเล่นของสะกดวิญญาณด้านพ่อแม่ไม่รับขอขมา วอนขอให้ลงโทษประหาร ขณะที่ญาติรุมกระทืบเละ
จากกรณีที่ นายสมเกียรติ อุทัยอินทร์ อายุ 24 ปี ลงมือปลิดชีพ นางสาวเดือน (ขอสงวนนามสกุล) ภรรยาสาว อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ อย่างเหี้ยมโหด โดยใช้มีดเชือดคอ กรีดศีรษะ กกหู หัวเข่า ใต้คาง ขมับซ้ายและขวา โดยรอยบาดแผลที่ขมับนั้น ถูกกรีดเป็นรูไม้ไขว้กัน คาดว่าเป็นการสะกดวิญญาณ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา
ล่าสุด วานนี้ (26 เมษายน 2557) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายสมเกียรติ มาแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า หลังจากที่เกิดเหตุก็ติดตามหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ และต่อมาก็สืบได้ว่านายสมเกียรติได้หลบหนีไปอยู่บ้านญาติคนหนึ่ง ที่ จ.สุรินทร์ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปจับกุม
ทั้งนี้ นายสมเกียรติ ได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยระบุว่า ตนทำงานเป็นลูกจ้างโรงงานทำลูกชิ้น และได้จดทะเบียนสมรสกับ นางสาวเดือน เมื่อปี 2556 อยู่กินฉันสามีภรรยาที่บ้านนางสาวเดือน ซึ่งทุกวันตนจะขับขี่จักรยานยนต์กับนางสาวเดือนไปยังโรงงานลูกชิ้น หลังจากนั้นนางสาวเดือนจะขับต่อไปยังมหาวิทยาลัย สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนางสาวเดือนนั้น มีปากเสียงทะเลาะกันมาตลอด เนื่องจากตนระแวงว่านางสาวเดือนจะตีตัวออกห่างเพราะมีชายคนอื่น เพราะระยะหลังเห็นนางสาวเดือนเล่นแชทเฟซบุ๊กกับเพื่อนชาย จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ตนโทรไปหานางสาวเดือนหลายครั้ง แต่ไม่ยอมรับสาย อีกทั้งยังมีการกดตัดสายตนทิ้ง ทำให้ตนระแวงว่า นางสาวเดือนจะมีชายคนอื่น
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า หลังจากกลับบ้าน ตนกับนางสาวเดือนก็มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง เรื่องที่นางสาวเดือนเล่นเฟซบุ๊กและชอบตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง ด้านนางสาวเดือนก็เดินหนีเข้าบ้านไป ตนจึงลากตัวนางสาวเดือนออกมาจากบ้าน ด้วยบันดาลโทสะจึงได้ใช้ไม้ไผ่ที่เหลาเป็นกับดักหนู เชือดเข้าที่คอ ศีรษะและมือของนางสาวเดือน รวมถึงแทงที่เข่าด้วย ก่อนที่นางสาวเดือนจะล้มฟุบนอนจมกองเลือดที่หน้าบ้าน แล้วตนก็วิ่งหลบหนีไป และไปอาศัยอยู่กับญาติที่ จ.สุรินทร์ จนกระทั่งจับกุมได้ในที่สุด
ส่วนประเด็นเรื่องที่มีคาถาอาคมนั้น นายสมเกียรติยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ส่วนรอยไขว้กันที่เชื่อว่าสะกดวิญญาณ หรือวิชาล่องหนนั้น ไม่ใช่เรื่องจริงเช่นกัน ตนไม่เคยเรียนไสยศาสตร์ และไม่มีรอยสักตามร่างกาย ไม่ได้ทำพิธีสะกดวิญญาณตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ซึ่งการทำร้ายนางสาวเดือนเป็นการกระทำที่เกิดจากความหึงหวง และตนไม่คิดว่านางสาวเดือนจะถึงแก่ความตาย ตนเสียใจมาก พร้อมที่จะรับโทษ และจะเดินทางไปขอขมาศพนางสาวเดือนและขอขมาพ่อแม่ของนางสาวเดือนด้วย
ขณะที่ พ่อแม่ของนางสาวเดือน ระบุว่า ดีใจมากที่ตำรวจตามจับคนร้ายได้ ตนอยากให้ลงโทษประหารชีวิต เพราะติดคุกไปไม่นานก็มาทำกรรมกับคนอื่นอีก ส่วนการขอขมานั้น ตนไม่รับ เพราะทำกับลูกคนขนาดนี้ ขอขมาไปก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตลูกของตนฟื้นคืนขึ้นมา
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวของ นายสมเกียรติ ฆาตกรสุดโหดไปยังห้องควบคุมผู้ต้องหา แต่ระหว่างที่กำลังเดินไปนั้น ญาติพี่น้องของนางสาวเดือนกว่า 30 คน กรูเข้ามารุมประชาทัณฑ์นายสมเกียรติอย่างมากมาย ด้านเจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยดึงตัวนายสมเกียรติออกมาอย่างทุลักทุเล
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก