ดราม่าเชฟกระทะเหล็ก ชาวเน็ตถามแล่เนื้อโชว์ เกินไปไหม ?
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก IRON CHEF Thailand
ชาวเน็ตตั้งคำถาม เชฟกระทะเหล็กนำสัตว์ทั้งตัวมาชำแหละกลางรายการ ทำเกินไปไหม เพราะดูเป็นการโชว์มากกว่าทำอาหาร ขณะที่หลายคนมองเป็นเรื่องธรรมดาของรายการทำอาหาร ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น
เชฟกระทะเหล็ก รายการแข่งขันทำอาหารเรตติ้งสูง เจอประเด็นดราม่าซะแล้ว เมื่อมีผู้ชมส่วนหนึ่งรู้สึกไม่เห็นด้วยที่ช่วงหลังมานี้ทางรายการนำสัตว์ทั้งตัวมาจัดวางเป็นวัตถุดิบให้เชฟเลือกชำแหละส่วนที่ต้องการตามใจชอบ ซึ่งภาพดังกล่าวไม่น่าดูเอาเสียเลย
โดยในเว็บไซต์พันทิปดอทคอมได้มีการตั้งกระทู้ "### มันเกินไปแล้วที่ทำแบบนี้ รายการ เชฟกระทะเหล็ก" โดยคุณ ninepope เพื่อเรียกร้องให้ถอดรายการเชฟกระทะเหล็กออกจากทีวี เพราะมองว่าทางรายการใช้อาหารเป็นเครื่องมือในการค้าไปเสียแล้ว อย่างล่าสุดได้นำกวางทั้งตัวมาวางกลางรายการเพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันแล่ สับ เฉือน ตัด เนื้อและส่วนประกอบต่าง ๆ ออกมาไปทำอาหาร ดูแล้วไม่เหมาะสม อีกทั้งยังทำร้ายจิตใจผู้ชมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ต้องมาเห็นภาพเช่นนี้ แทนที่ทางรายการจะเตรียมเนื้อกวางส่วนต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าแล้วให้เชฟผู้เข้าแข่งขันไปเลือกหยิบเอง
ผู้ตั้งกระทู้ยังมองด้วยว่า การทำเช่นนี้ก้าวข้ามคำว่า "อาหาร" ไปแล้ว เพราะเป็นการโชว์เสียมากกว่า ทั้งที่ไม่จำเป็นเลย หากต่อไปรายการนำสัตว์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่เป็นสัตว์ที่เกิดมาเพื่อเป็นอาหาร เช่น งู มาชำแหละสด ๆ กลางรายการ อะไรจะเกิดขึ้น ?
งานนี้สมาชิกคนอื่น ๆ ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้อย่างมากมาย โดยส่วนหนึ่งเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ เพราะเห็นว่าการนำสัตว์ทั้งตัวมาชำแหละให้ผู้ชมนับล้านเห็นออกจะโหดร้ายเกินไป และดูเป็นการเรียกเรตติ้งมากกว่า ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ทีมงานสามารถเตรียมเนื้อที่แล่แล้วมาจัดวางไว้ให้เชฟเลือกก็ได้
ขณะที่ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งก็มองว่า ภาพที่เห็นนี้เป็นเรื่องธรรมดาของอาหารการกิน ไม่ได้โหดร้ายทารุณอะไรเลย อย่างรายการทำอาหารของต่างประเทศก็มีการชำแหละเนื้อโชว์เช่นกัน เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงทักษะของเชฟ หรือถ้าเป็นปลา กุ้ง ปู เราอาจจะดูชินตา แต่เมื่อเป็นสัตว์ใหญ่อย่างกวางเลยอาจดูแปลกตาไปก็ได้ ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่แตกต่างกัน ส่วนเด็ก ๆ ก็คงไม่ได้ชมรายการนี้เพราะออกอากาศตอนเที่ยงคืนแล้ว
อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ก็มองว่าใครจะคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับความรู้สึกนึกคิดและจิตใจของแต่ละคนมากกว่า