ออสเตรเลียตื่นปลาเดินได้จากปาปัวนิวกินี อยู่บนบกนาน 6 วันยังไม่ตาย หวั่นกลายเป็นสายพันธุ์เอเลี่ยนรุกรานปลาท้องถิ่น
รายงานในวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 จากเว็บไซต์ซิดนีย์มอร์นิ่งเฮรัลด์ ระบุว่า นักนิเวศวิทยากำลังหวั่นเกรงว่าปลาเดินได้จากปาปัวนิวกินีจะรุกรานเข้าเกาะหลักของออสเตรเลีย โดยนักวิจัยระบบนิเวศทางน้ำจากมหาวิทยาลัยคุก นำโดย ดอกเตอร์นาธาน วอล์ทแธม ได้ค้นพบมันในพื้นที่ของออสเตรเลียเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2548 บนเกาะบอยกูและเกาะซายไบ ซึ่งอยู่ทางเหนือสุดของเกาะในกลุ่มตอร์เรส สเตรท ดินแดนของออสเตรเลีย และอยู่ห่างจากปาปัวนิวกินีเพียง 4 และ 6 กิโลเมตรตามลำดับ
จากการศึกษาพบว่าปลาชนิดนี้เป็นปลาน้ำจืดที่สามารถหายใจบนบกได้ อยู่บนบกได้นานถึง 6 วัน เคลื่อนที่บนบกโดยใช้ครีบคืบไปบนพื้น สามารถจำศีลอยู่ในปลักโคลนได้นานถึง 6 เดือน และเมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็ได้ค้นพบเพิ่มเติมว่ามันยังสามารถอยู่ในน้ำเค็มได้ด้วย อันหมายความว่าปลาเดินได้ชนิดนี้มีความสามารถในการปรับตัวและอยู่รอดได้เป็นอย่างดี และยิ่งกระตุ้นความกังวลของนักนิเวศวิทยามากขึ้นถึงแนวโน้มที่มันจะกลายเป็นสายพันธุ์รุกรานหรือเอเลียนสปีชี่ส์แก่พันธุ์ปลาท้องถิ่น
ดอกเตอร์นาธานเผยว่า ช่วงที่ขึ้นไปสำรวจบนสองเกาะเล็กนั้นกำลังอยู่ในฤดูแล้งน้ำ แหล่งน้ำที่เหลือบนเกาะจึงมีความเค็มมากกว่าปกติเป็น 2 เท่า แต่กลับพบว่าปลาเดินได้ชนิดนี้ยังสามารถอาศัยอยู่ได้ นอกจากนี้ยังได้พบชิ้นส่วนปลาเดินได้นี้อยู่ในระบบย่อยอาหารในซากปลากะพงและปลาตระกูลปลาช่อนบนเกาะ บ่งบอกว่าปลาเจ้าถิ่นน่าจะตายเพราะครีบแข็ง ๆ ของปลาเดินได้ไปติดคาและปิดกั้นทางเดินอาหาร แม้แต่นกที่กินปลาเดินได้เข้าไปก็มีโอกาสตายเพราะสาเหตุนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามแม้จะมีความหวั่นเกรงว่าปลาเดินได้อาจรุกรานเข้ามาถึงเกาะหลักของออสเตรเลีย นักนิเวศวิทยาก็เผยว่าโอกาสที่พวกมันรุกรานด้วยการคืบมาบนบกนั้นมีต่ำมาก แต่จะมาในรูปแบบติดมากับเรือลากอวนหรือจากเรือตกปลาที่ใช้มันเป็นเหยื่อแล้วปล่อยทิ้งลงแหล่งน้ำธรรมชาติ
สำหรับหนทางในการป้องกันปัญหา ตอนนี้นักวิจัยกำลังศึกษาว่าปลาเดินได้เหล่านี้สามารถทนระดับความเค็มของน้ำได้มากเท่าไร ตลอดจนอุณหภูมิน้ำสูงสุดที่พวกมันสามารถอาศัยอยู่ได้ เพื่อประยุกต์เป็นแนวทางในการควบคุมปริมาณและป้องกันการรุกรานของปลาชนิดนี้ต่อไป
ภาพจาก JCU Media