หลังจากที่ทั้งสองคน ได้เจอกันเมื่อปี 2013 ที่งานเต้นรำแบบละติน นางสาวมาติน่า ก็ยอมทำทุกอย่างตามที่นายอเล็
กซานเดอร์สั่ง รวมทั้งการเล่นเซ็กส์แบบวิตถาร 3 คน ด้านตำรวจเองได้พบอุปกรณ์เล่
นเสียวแบบฮาร์ดคอร์หลายชิ้น ที่บ้านของนายอเล็กซานเดอร์ ทั้งแส้ กุญแจมือ ยาสลบ
มีดทหาร น้ำกรด และมีดผ่าตัด ซึ่งเมื่อตำรวจถามว่าเหตุ
ใดเขาจึงมีมีดผ่าตัดไว้ที่บ้าน นายอเล็กซานเดอร์ก็บอกว่า "ผู้หญิงบางคนขอให้ผมสลักอั
กษรย่อของชื่อผมบนร่างกายของเธอ นั่นเป็นอาชญากรรมหรือเปล่า"
ด้านพยานผู้หญิงคนหนึ่งพู
ดในระหว่างการไต่สวนว่า เธอกับนายอเล็กซานเดอร์
และนางสาวมาติน่า มีเซ็กส์แบบ 3 คน ที่กรีซ ในปี 2014 ซึ่งเธอและมาติน่าต้องทำตามที่
เขาสั่งทุกอย่าง พวกเธอต้องเรียกเขาว่า พระราชา ในขณะที่เขาจะตัดสินใจว่า
ส่วนไหนจับได้ ส่วนไหนจับไม่ได้ และเขาจะทำอะไรกับพวกเธอก็ได้
นอกจากนี้ นางสาวมาติน่า ยังยอมให้นายอเล็กซานเดอร์สลักตัวอักษร A ลงบนแก้มของเธอ และสักชื่อของเขาบนอกข้างซ้ายของเธอ เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจงรักภักดี นอกจากนี้ เธอยังต้องลิสต์รายชื่อแฟนเก่าของเธอ 8 คน เพื่อที่จะเอาน้ำกรดไปสาดใส่หน้าให้เสียโฉมตามที่อเล็กซานเดอร์ต้องการด้วย ทั้งสองคนถูกจับหลังจากที่มี
การ
สาดน้ำกรด หรือสารไฮโดรคลอริก ใส่ใบหน้าของนายเปโตร บาร์บินี่ วัย 22 ปี
อดีตแฟนเก่าของนางสาวมาติน่า จนทำให้เขามีแผลไฟไหม้ระดับ 3
ที่ใบหน้าและส่งผลต่อดวงตา
ด้านนักจิตวิทยาบอกว่า นายอเล็กซานเดอร์เป็นพวกซาดิสต์ชอบควบคุมทุกอย่าง เขาล่อลวงให้นางสาวมาติน่า ที่ศึกษาวิชา MBA ที่มหาวิทยาลัยระดับสูงของอิ
ตาลี กระทำตามที่เขาสั่งทุกอย่าง ด้านนางสาวมาติน่าก็ยอมรั
บในศาลว่า "ฉันอยากจะทำอะไรชั่วร้ายให้
อเล็กซานเดอร์ เพื่อพิสูจน์ว่าฉันรักเขา"
อย่างไรก็ตาม นายอเล็กซานเดอร์ ได้แต่งงานกับ โกโรน่า บูล็อก นางแบบสาวชาวโครเอเชีย แต่เขาเองยังแอบมีบ้านเล็กบ้
านน้อยและพยายามทำให้นางสาวมาติ
น่าหึงด้วยการจูบผู้หญิงคนอื่
นต่อหน้าเธอ
ด้านคุณพ่อของมาติน่า กล่าวกับหนังสือพิมพ์อิตาเลียนว่า ลูกสาวที่แสนจะขยันและใฝ่รู้ของเขานั้น ได้เปลี่ยนไปชั่วข้ามคืนหลังจากที่เธอถูกนายอเล็กซานเดอร์ล้างสมอง เธอเองกลายเป็นคนขี้อิจฉา หึงหวง และใช้สารสเตียรอยด์เพื่อลดน้ำหนักเพื่อเขา ทุก ๆ วันเธอก็ยิ่งเปราะบางลง เธอเลิกคิดอะไรด้วยตัวเองและคิดถึงแต่ผู้ชายที่เธอตกหลุมรัก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศาลได้สั่งจำคุกนายอเล็
กซานเดอร์และนางสาวมาติน่า คนละ 14 ปี ซึ่งมาติน่าเอง ก็เพิ่งคลอดลูกชายในคุก แต่ลูกของเธอก็ถูกพรากไปในทันที
เพื่อให้คนอื่นเลี้ยงดูแทน
"ผมเคยเจออาชญากรมาทุกรูปแบบ ทุกระดับ ทั้งแก๊งมาเฟีย โจรติดอาวุธ ผู้ก่อการร้ายที่พร้อมที่จะฆ่าผู้บริสุทธิ์ รวมถึงนักฆ่าระดับมืออาชีพ แต่ผมไม่เคยรู้สึกได้ถึงพลังแห่งความอันตรายเหมือนคดีนี้มาก่อน" ผู้พิพากษาจุยเซปเป้ เกนนารี กล่าวภาพจาก
corrierequotidiano.it ,
lastampa.it