อยากกินซาซิมิแท้ ๆ ไม่ต้องบินไปไกล ที่ไทยก็ผลิตปลาดิบคุณภาพเยี่ยมได้แล้ว !

อยากกินซาซิมิแท้ ๆ ไม่ต้องบินไปไกล ที่ไทยก็ผลิตปลาดิบคุณภาพเยี่ยมได้แล้ว !

        ปลาดิบ ซาซิมิ นึกถึงทีไรอยากบินไปกินที่ญี่ปุ่นทุกที แต่รู้ไหมที่ไทยก็ผลิตปลาดิบสด ๆ คุณภาพดีได้แล้วเหมือนกันที่ระยอง

        ใครที่เป็นทีมปลาดิบหรือซาซิมิ อาหารญี่ปุ่นสไตล์ดั้งเดิม คงนึกอยากกินปลาดิบสดใหม่แบบฉบับญี่ปุ่นแท้ ๆ ดูสักที ซึ่งนับแต่นี้จะไม่ใช่แค่เรื่องมโนแล้วล่ะค่ะ เพราะที่ระยองก็มีแหล่งผลิตปลาดิบที่สด มีคุณภาพเยี่ยมเทียบเท่ามาตรฐานญี่ปุ่นกันแล้ว และกระบวนการผลิตปลาดิบในทุกขั้นตอน วิทยากรจากญี่ปุ่นก็มาเทรนด์ให้เหมือนกระบวนการผลิตปลาดิบในญี่ปุ่นเป๊ะ ๆ เลยทีเดียว

 อยากกินซาซิมิแท้ ๆ ไม่ต้องบินไปไกล ที่ไทยก็ผลิตปลาดิบคุณภาพเยี่ยมได้แล้ว !

อยากกินซาซิมิแท้ ๆ ไม่ต้องบินไปไกล ที่ไทยก็ผลิตปลาดิบคุณภาพเยี่ยมได้แล้ว !

        ถ้าใครคิดอยากลิ้มลองปลาดิบสด ๆ ตามวิถีกินปลาดิบของคนญี่ปุ่นแบบแท้ ๆ ที่ไม่ต้องนำเข้าข้ามน้ำข้ามทะเลมาจนความสดหดหาย ก็ไม่ต้องรอโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น หรือนั่งละเมอกันอีกต่อไป เพราะโครงการ Set-net ที่ระยอง อันเนื่องมาจากความร่วมมือของ Toyko University of Marine Science and Technology, คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, สมาคมประมงระยอง และศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ริเริ่มติดตั้งแหล่งผลิตปลาดิบที่ระยองมาตั้งแต่ปี 2003 โน่นเลย ซึ่งก็แน่นอนว่าตอนเริ่มโครงการ วิทยากรและผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ของญี่ปุ่นก็มาช่วยดูแลและควบคุมการติดตั้งร่วมกับทีมคนไทยในทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ทั้งสอนวิธีหว่านแห วางอวนดักปลา และเทคนิคต่าง ๆ ตามวัฒนธรรมการกินปลาดิบของญี่ปุ่น เพื่อให้ผลผลิตที่ได้ มีคุณภาพเยี่ยมและใกล้เคียงปลาดิบตามวัฒนธรรมญี่ปุ่นมากที่สุด

อยากกินซาซิมิแท้ ๆ ไม่ต้องบินไปไกล ที่ไทยก็ผลิตปลาดิบคุณภาพเยี่ยมได้แล้ว !

อยากกินซาซิมิแท้ ๆ ไม่ต้องบินไปไกล ที่ไทยก็ผลิตปลาดิบคุณภาพเยี่ยมได้แล้ว !

        ซึ่งจุดนี้จะมีข้อแตกต่างกันบ้างในขั้นตอนการจับปลาเท่านั้น เพราะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นน่านน้ำ ณ ที่นั้น ๆ รวมไปถึงวิถีการจับสัตว์น้ำของชาวประมงในพื้นที่นั้นด้วยนั่นเอง และหลังจากจับปลาได้มาแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ก็สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือขั้นตอนเก็บรักษาคุณภาพของปลาหลังการจับ ซึ่งต้องนำปลามาควบคุมอุณหภูมิ โดยนำปลาที่จับมาใส่ไว้ถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ เพื่อรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัยและความสดของปลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะหากปลาดิบอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สกปรก อาจทำให้ปลามีเชื้อโรค จนนำมาซึ่งอาการอาหารเป็นพิษได้นะคะ    

        ดังนั้นจึงไม่เพียงแค่กระบวนการดูแลและจับปลาเท่านั้นที่ต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ แต่ทางญี่ปุ่นยังได้เสนอข้อควรระวังพื้นฐานในการดูแลปลาดิบก่อนส่งถึงมือผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ไว้ดังนี้ด้วย

อยากกินซาซิมิแท้ ๆ ไม่ต้องบินไปไกล ที่ไทยก็ผลิตปลาดิบคุณภาพเยี่ยมได้แล้ว !

1. สุขภาพและอนามัยของพนักงานในการจัดการดูแลปลา

        ปลาดิบคุณภาพดีต้องมาจากการดูแลที่ดีด้วย ฉะนั้นพนักงานที่มีหน้าที่จัดการปลาดิบจะต้องมีสุขภาพดีและสุขอนามัยที่สะอาดสะอ้าน โดยจะต้องรักษาสุขภาพและสุขอนามัยของตนอย่างเคร่งครัด ต้องล้างมือเป็นประจำ เล็บต้องตัดให้สั้น และต้องสวมเสื้อผ้าที่สะอาดตลอดเวลา ซึ่งถ้าพนักงานคนใดมีบาดแผลแม้เพียงเล็กน้อยที่นิ้วมือ หรือเกิดการติดเชื้อที่ส่วนใดก็ตาม จะต้องหยุดพักงานโดยทันทีแบบไม่มีข้อแม้เลยนะคะ เชื่อหรือยังว่าเขาเข้มงวดกับเรื่องความสะอาดกันจริง ๆ

2. ห้องครัวต้องสะอาด มีสุขอนามัย

        ห้องครัวสำหรับผลิตปลาดิบต้องผ่านการทำความสะอาดอย่างดี ทำให้ปลอดเชื้อ และย้ำด้วยการฆ่าเชื้อเพื่อฆ่าจุลินทรีย์อีกรอบ เพราะเชื้อโรคอยู่รอบตัวเราเสมอ ไม่ว่าจะในชั้นอากาศ มากับอุณภูมิที่ไม่เหมาะสมต่อการจัดเก็บปลาดิบ ความชื้น หรือสภาพแวดล้อมที่สุ่มเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อโรคอื่น ๆ

        รวมไปถึงเสื้อผ้าที่ใส่ในห้องครัวหรือผ้าเช็ดอุปกรณ์ต้องสะอาด ไม่มีเชื้อโรค และทำให้แห้งหลังใช้ทุกครั้ง โดยจะมีน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับทำความสะอาดห้องครัวและอุปกรณ์ทุกชิ้นในครัวโดยเฉพาะไว้ให้

        ส่วนเขียงและใบมีดที่ทำปลาจะต้องผ่านการล้างด้วยน้ำยาสูตรพิเศษ และฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะปลอดเชื้อและปลอดภัยต่อผู้บริโภคจริง ๆ

3. เชฟทำปลาต้องคลีนสุด ๆ

        การล้างไขมัน โปรตีน โซเดียม ฝุ่นละออง และสารปนเปื้อนชนิดอื่น ๆ ที่มากับตัวปลาถือเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ต้องทำอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว แต่ทีเด็ดคือเชฟที่ทำปลาดิบต้องสะอาดสะอ้านและอยู่ในลุคที่คลีนสุด ๆ แม้กระทั่งแหวนหรือนาฬิกาข้อมือก็ไม่ควรใส่ขณะทำซาซิมิ ซึ่งหลักปฏิบัติในข้อนี้ทางญี่ปุ่นถึงกับต้องทำหมายเหตุเพื่อขอความร่วมมืออย่างจริงจังเลยล่ะค่ะ

        น่าภูมิใจไม่น้อยเลยที่ทะเลไทยก็มีสภาพแวดล้อมที่มีคุณภาพเพียงพอต่อการผลิตปลาดิบ และเชื่อว่าข้อมูลเบื้องหลังการผลิตปลาดิบที่เรานำมาเสนอในวันนี้ จะทำให้คอปลาดิบทุกคนสบายใจกับการกินปลาดิบไทยที่มีสไตล์และวัฒนธรรมการผลิตที่เหมือนญี่ปุ่นแบบเป๊ะ ๆ กันมากขึ้นนะคะ


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อยากกินซาซิมิแท้ ๆ ไม่ต้องบินไปไกล ที่ไทยก็ผลิตปลาดิบคุณภาพเยี่ยมได้แล้ว ! อัปเดตล่าสุด 15 มกราคม 2559 เวลา 16:04:28 18,123 อ่าน
TOP
x close