เรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ต้องยอมรับว่าเซ็กส์สุดพิสดารและแปลกพิลึกนั้นมีอยู่ทั่วโลกจริง ๆ โดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่ปลีกวิเวก ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างเช่นชนเผ่าต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ตามป่า และที่กระปุกดอทคอมหยิบมานำเสนอในวันนี้ เป็นเรื่องราวชวนตะลึงของชนเผ่า Trobriander จากเกาะ Trobriand ประเทศปาปัวนิวกินี ที่มีวัฒนธรรมในเรื่องอย่างว่าไม่เหมือนใครจริง ๆ
ผู้ใหญ่ในชนเผ่ากลุ่มนี้ จะอนุญาตและสนับสนุนให้เด็กหญิงและเด็กชายมีเพศสัมพันธ์กันได้ตามใจชอบ โดยถือว่าเด็กหญิงจะพร้อมมีเซ็กส์เมื่ออายุ 6 ขวบ ส่วนเด็กชายจะโตเป็นหนุ่มพร้อมรบศึกรักเมื่ออายุตั้งแต่ 11 ขวบขึ้นไป โดยเด็กหญิงในเผ่าจะไม่สวมเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ท่อนบน ปล่อยให้เต้านมได้ออกมาโชว์เป็นอิสระราวกับจะบอกว่า ฉันพร้อมแล้ว
นอกจากนี้ พวกเขายังยอมให้เด็ก ๆ มีเพศสัมพันธ์กันบ่อยแค่ไหนก็ได้ตามที่ต้องการ แต่มีข้อห้ามคือ ทั้งคู่ห้ามไปรับประทานอาหารด้วยกันสองต่อสอง เพราะตามประเพณีแล้ว หญิงชายที่กินข้าวด้วยกัน คือคู่สามีภรรยาเท่านั้น
เช่นเดียวกับมนุษย์บางคนในสังคมโลกยุคใหม่ พวกเขาเปลี่ยนคู่นอนกันเป็นว่าเล่น มีเซ็กส์ได้ทุกเวลาและทุกที่โดยไม่อายฟ้าดิน แต่บางครั้งฝ่ายหญิงมีสถานะเป็นเพียงทาสกามของฝ่ายชายเท่านั้น
ไม่มีประเพณีแต่งงานอย่างเป็นทางการบนเกาะแห่งนี้ การถือว่าหญิงชายคู่หนึ่งจะร่วมอยู่กินกัน คือการให้เด็กหญิงไปค้างอ้างแรมที่บ้านของฝ่ายชายแล้วร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็น หลับนอนกับฝ่ายชายและไม่ออกมาจากบ้านก่อนรุ่งสาง จากนั้นทั้งคู่จะนั่งอยู่ด้วยกันที่หน้าบ้าน รอแม่ของฝ่ายหญิงนำมันเผามามอบให้ จึงเป็นอันรู้กันว่าหญิงชายคู่นี้ได้แต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว
แต่การแต่งงานของคนในเผ่านี้อยู่ไม่ยืนยาวนัก บางครั้งอาจเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แค่ 1 ปี ก่อนที่ฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงจะเริ่มเลือกคู่คนใหม่ แน่นอนว่าไม่มีการหย่าอย่างเป็นทางการเช่นกัน ให้สังเกตเพียงว่า หากหญิงชายยังทานอาหารด้วยกัน ก็แสดงว่าทั้งคู่ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ แต่ถ้าทั้งคู่เลิกกินข้าวด้วยกันเมื่อไร ก็คือหย่าขาดกันแล้วนั่นเอง
แต่ทั้งนี้ ถ้าทั้งคู่ยังอยากจะคืนดีกันก็ทำได้ โดยฝ่ายชายจะต้องเป็นผู้ไปง้อ ด้วยการนำหัวมันและของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปมอบให้กับครอบครัวของฝ่ายหญิง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฝ่ายหญิงล้วน ๆ ว่าจะยอมคืนดีด้วยหรือเปล่า